วันที่ 28 พ.ย. 63 เวลา 06.00 น. เกิดเหตุสลด หลังศูนย์วิทยุกู้ภัยสว่างบุญช่วยเหลือธรรมสถานตราด ได้รับแจ้งว่ามีนักปั่นจักรยานรถล้มได้รับบาดเจ็บ บริเวณริมอ่างเก็บน้ำสระสีเสียด ต.หนองเสม็ด อ.เมือง จ.ตราด เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงได้ออกไปรับผู้บาดเจ็บและนำส่งโรงพยาบาล ขณะที่กำลังนำคนเจ็บส่งโรงพยาบาล ระหว่างทางรถกู้ภัยฯได้เสียหลักชนกับเสาริมทาง ก่อนรถยนต์วิ่งลงอ่างเก็บน้ำจมมิด ใกล้กับคลองส่งน้ำประปาล่าง
ขณะเดียวกัน นายจักรพงษ์ บุตรกลิ่น เจ้าหน้าที่ อส. จังหวัดตราด พร้อมเพื่อน ได้เดินออกกำลังกาย และได้เห็นเหตุการณ์พอดีจึงได้ดำน้ำลงไปช่วยเหลือคนที่ติดภายในรถ ซึ่งการช่วยเหลือเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากบริเวณดังกล่าวน้ำค่อนข้างลึก ก่อนจะทำการช่วยเหลือขึ้นมาได้ 1 ราย เป็นคนขับรถกู้ภัยฯ และได้พยายามค้นหาร่างที่ติดภัยในรถใต้น้ำอีก 2 ราย โดยมีเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างฯ ลงช่วยค้นหา
ก่อนจะนำร่างทั้ง 2 ราย ขึ้นมาจากในน้ำได้ โดยผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเป็นนักปั่นจักรยานเสียชีวิต และเจ้าหน้าที่กู้ภัย 1 ราย ก็เสียชีวิตในที่เกิดเหตุเช่นเดียวกัน เบื้องต้น
สำหรับนักปั่นจักรยานที่เสียชีวิต ทราบชื่อว่านายพนัส นิตรมร เป็นนิติกรสาธารณสุข จ.ตราด ส่วนเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบุญช่วยเหลือจังหวัดตราดที่เสียชีวิตทราบชื่อต่อมาคือนายเสกข์สันต์ สวัสดิ์ทับ และนายเสกสรรค์ สีทา เจ้าหน้าที่ประจำรถของกู้ภัยสว่างบุญช่วยเหลือธรรมสถานตราด ชุดเขตอำเภอเมือง
เบื้องต้น สันนิษฐานว่านายเสกสรรค์ สีทา ผู้ขับ อาจเกิดอาการหลับในจนทำให้รถเสียหลักพุ่งตกลงไปในอ่างเก็บน้ำดังกล่าว
สำหรับร่างของนายเสกข์สันต์ สวัสดิ์ทับ เจ้าหน้าที่กู้ภัยที่เสียชีวิต ตั้งบำเพ็ญกุศลอยู่ที่วัดคลองขุด ต.ห้วยแร้ง อ.เมือง จ.ตราด บรรยากาศภายในงานเป็นไปด้วยความเศร้าสลด มีการแห่ศพผู้เสียชีวิตมาจากโรงพยาบาลตราดด้วยขบวนรถของเจ้าหน้าที่กู้ภัยสมาคมสว่างบุญช่วยเหลือธรรมสถานตราด
นางสาววราภรณ์ แม่ของนายเสกข์สันต์ เปิดเผยว่า ลูกชายของตนชอบช่วยเหลือผู้อื่นมาก และชอบขอตนออกมาอยู่ที่สมาคมกู้ภัย ซึ่งตนก็ไม่เคยห้าม แต่ไม่คิดว่าลูกชายจะจากไปเร็วขนาดนี้ ทั้ง ๆ ที่ชอบช่วยเหลือผู้อื่น ถ้าชาติหน้ามีจริงขอให้เกิดมาเป็นแม่ลูกกันอีก
นายสุรมิส เจริญงาม ผู้เชี่ยวชาญด้านรถยนต์ ให้ข้อมูลว่า กรณีที่ทำให้คนภายในรถไม่สามารถหนีออกจากรถได้นั้นมีหลายปัจจัย ในกรณีคนที่อยู่ในรถ อาจจะเกิดการตกใจจนทำอะไรไม่ถูก หรืออาจจะได้รับแรงกระแทกจากการพุ่งชน ทำให้คนในรถหมดสติและไม่สามารถหนีออกจากรถได้
อีกกรณีคือแรงน้ำข้างนอกอัดแน่น จนกระจกมีความแข็งขึ้นและไม่สามารถตีให้แตกได้ หรือรถอาจจะจมน้ำจนมืดทั้งหมด ทำให้คนในรถทำอะไรไม่ถูก และไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองออกจากรถได้
ส่วนเทคนิคการทุบกระจกนั้น จะต้องทุบตรงกลางเพราะจะแตกง่ายกว่าทุบที่ขอบกระจก ซึ่งลักษณะการทุบ จะต้องทุบวาดเป็นวงกลมหรือสี่เหลี่ยม ทุบหลายจุดจนกระจกแตกและสามารถออกจากรถได้ อีกกรณีคือถ้าหากแอร์แบ็กหรือถุงลมนิรภัยทำงาน แก๊สไนโตรเจนที่มาอาจจะทำให้หมดสติได้ หากแก๊สไม่ได้รับการระบายออกจากรถ