กลายเป็นเรื่องที่ต้องสะกิดถามเพื่อนว่า
พอร์ช, เคนพอร์ช, ไฮโซพอร์ช คนนี้เป็นใคร หลังมีดราม่าที่เจ้าตัวทวิตฯ ข้อความประมาณว่า
ขอรับช่วงต่อเองหากญาญ่าเลิกกับณเดชน์ จนกลายเรื่องบานปลายและลือสนั่นออนไลน์กันว่า
หนุ่ม
"เคนพอร์ช- สรรเสริญ เงินรุ่งเรืองโรจน์" คือมือที่สามเป็นเหตุในญาญ่าและณเดชน์ต้องเลิกกัน
แต่ความรักย่อมชนะทุกสิ่ง เมื่อพระนางคู่รักคู่ขวัญ
"ญาญ่า" และ
"ณเดชน์" ควงกันออกงานปฏิเสธกระแสรักร้าวเพราะมีมือที่สาม อีกทั้งมีการบอกรักต่อหน้าสื่อที่เล่นเอาฟินไปค่อนประเทศ ด้านญาญ่าเองก็ยืนยันไม่รู้จักและรำคาญที่ต้องมีข่าวเอี่ยวกับหนุ่มเคนพอร์ชอีกด้วย
เจอสาวลั่นรำคาญไปขนาดนี้ ต้นตอความดราม่าอย่างหนุ่ม
"เคนพอร์ช" กลับนิ่ง อีกทั้งยังมีกระแสความ "เยอะ"
ออกมาเรื่อยๆ
ล่าสุดหนุ่ม "เคนพอร์ช" ยอมเปิดหมดเปลือกทุกประเด็น โดยบอกว่า
ตนแค่ทวิตฯ ขำๆ ไม่คิดว่าเรื่องราวจะบานปลายเช่นนี้ ส่วนตัวเข้าใจที่ ญาญ่า ให้สัมภาษณ์โพล่งคำว่ารำคาญออกสื่อ เพราะตนเข้าใจอีกฝ่ายเป็นผู้หญิง ทุกอย่างเกิดจากตน โทษเขาไม่ได้ถ้าเขาจะรำคาญก็สมควรแล้ว
ปัดสร้างกระแสเพราะอยากดัง มองหากต้องการอย่างนั้นคงไปเต้นแร้งเต้นกาดีกว่า ซึ่งตนเป็นนักกีฬาทีมชาติ นักกีฬาต้องใช้ความสามารถไม่ใช่กระแสแบบดารา แจงเหตุผลที่ก่อนหน้านี้เลี่ยงให้สัมภาษณ์สื่อก็เพราะรู้สึกว่า ตนเป็นใครก็ไม่รู้ แล้วสิ่งที่โพสต์ก็โพสต์เล่นๆ ขำๆ แต่ดันแจคพอต ปรากฏเป็นข่าว ยืนยันไม่ได้ตั้งใจดึงสื่อมางานอิเวนต์ที่ตนมีคิวออกงานในวันนี้ ส่วนตัวยังไม่ได้ขอโทษ ญาญ่า ต่อหน้า แต่ได้ขอโทษผ่านทางรายการของช่อง 3 เรียบร้อย
ถ้าญาญ่าดูอยู่อยากบอกอะไร?
"
พี่ญาญ่าครับ อย่ารำคาญผมเลยนะครับ ผมไม่ได้มีเจตนาร้ายแรง ที่โพสต์ไปแบบนั้นอยากให้ดูที่เจตนาผมจริงๆ ไม่ได้เจตนาให้เขาเสื่อมเสียเลยแม้แต่นิดเดียว ผมเองก็เป็นแฟนคลับของคุณญาญ่า และฝากบอกถึงแฟนคลับณเดชน์ญาญ่าทุกคนด้วย ผมเองก็เป็นเหมือนคุณ"
กระแสข่าวที่ว่าสั่งให้สื่อลบคลิป?
"
ผมไม่ได้สั่งให้ลบคลิปนะครับ วันนั้นผมไม่ได้อยากไปด้วยซ้ำแต่ผู้ใหญ่ขอร้อง และเราก็สัญญากับผู้ใหญ่อีกคนหนึ่งไว้ว่าจะมาตอบวันที่ 4 เราเลยบอกเขาว่าขอสัมภาษณ์แค่เรื่องงานเท่านั้น พอสัมภาษณ์เรื่องงานเสร็จ ก็มีเรียกผมให้ไปสัมภาษณ์ต่อ ผมก็เลยพูดว่าผมขอนะไม่ขอพูดเรื่องนี้กับนักข่าว
ซึ่งในระหว่างที่ผมพูดผมเหลือบไปเห็นกล้องมีไฟ หมายความว่าเรคคอร์ดอยู่ ผมก็เลยเดินไปหาช่างกล้องบอกว่าผมไม่โอเคที่จะให้เอาออกไป ทั้งที่ยังไม่ได้ขอผมเลยว่าขอถ่าย ผมสาบานว่าผมพูดแค่นี้จริงๆ"
แต่ทีมงานเป็นคนเดินมาบอกให้ลบคลิปด้วย?
"ยืนยันเลยครับว่าเขาไม่ได้พูดว่าให้ลบคลิปด้วย แต่เขาพูดว่ายังไงขอความกรุณาด้วยอย่าออกอากาศ เพราะอันนั้นคือแอบถ่าย ผมแค่เซฟตัวเองไว้ก่อน ยังไงมันก็คือการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของผม"
แล้วเมื่อตอนงานที่มีสื่อมาขอถ่ายรูปแล้วไม่ให้ถ่าย? ดาราคนอื่นเขายังไม่เคยทำแบบนี้?
"
(ยกมือไหว้) ผมมือใหม่มากครับผมเป็นนักกีฬา ไม่เคยเลยที่จะต้องมาให้สัมภาษณ์เยอะขนาดนี้
พูดตามตรงเลยว่าผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นตากล้องของสื่อมวลชน ยังไงก็ต้องขอโทษทางพี่ๆ สื่อมวลชนทุกคนด้วยครับ
ที่ผมอาจจะมีกิริยาท่าทางอะไรไม่ถูกใจ ขอโทษละกันครับ"
ได้รับบทเรียนอะไรบ้างจากครั้งนี้?
"เยอะครับ จากนี้จะโพสต์อะไรก็ต้องคิด แต่ก็อยากให้ทุกคนเสพข่าวอย่างมีสติ
ลองคิดดูว่าใครเป็นคนจุดชนวนเรื่องนี้ มันใช่ผมร้อยเปอร์เซ็นต์จริงหรือเปล่า
ที่ทำให้เรื่องนี้บานปลายมาจนถึงขนาดนี้ ลองสืบหาต้นตอให้ดีว่าทำไมมันถึงเป็นขนาดนี้
อยากให้เคสของผมเป็นบทเรียน เพราะคิดว่าไม่ใช่มีแค่ผมหรอกครับที่โพสต์ในลักษณะนี้"
จากนี้จะทำงานในวงการบันเทิงไหม?
"ณ ตอนนี้ผมโฟกัสกีฬาฟันดาบมาก เพราะในปีนี้จะมีการคัดเอเชียนเกมส์ และผมหวังไว้ว่าผมจะติด
ส่วนงานในวงการผมคิดว่าเป็นโอกาส ถ้ามันเป็นโอกาสที่ดีใหญ่แล้วก็คุ้มค่าที่ผมจะทำ
ผมยินดีอยู่แล้วที่ผมจะทำ"
ถ้าอยู่แล้วรับได้ไหมที่คนจะพ่วงชื่อเราว่าโหนกระแสญาญ่าถึงดัง?
"ผมบอกไปแล้วนะครับว่าไม่ได้เกาะกระแสเขาดัง แต่ก็รับได้ครับ เพราะคงไม่ทำให้ใครถูกใจเรา 100%
เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว คนเราต้องมีทั้งชอบและไม่ชอบเป็นเรื่องธรรมดา คือผมเข้าใจชีวิตมากกว่ามันเป็นสัจธรรม
ใครจะคิดอะไรเป็นความเห็นของเขาเราทำอะไรไม่ได้"
จะอยู่ต้องปรับพฤติกรรมตัวเองใหม่ไหม?
"ต้องปรับมากครับ แต่ผมก็ปรับตัวเองพอสมควรในอินสตาแกรมมีคนต่อว่าผมเยอะมาก
แต่ผมก็นิ่งและไม่ตอบกลับอะไรเค้าเลย เพราะคิดว่าตอนนี้ผมเป็นบุคคลสาธารณะไปแล้วมั้ง
ผมว่าผมเข้าใจและไม่จำเป็นต้องปรับตัวอะไรมาก"