เมื่อวันที่ 29 พ.ย.63 เวลา 16.00 น. พ.ต.ท.วัฒนา ทองคง สว. (สอบสวน) สภ.นาโยง รับแจ้งเหตุยิงกันตายที่บ้านเลขที่ 258/1 ม.6 บ้านนาเมร่ ต.นาโยงเหนือ อ.นาโยง จ.ตรัง จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.รัฐกร ภักดีวานิช ผกก.สภ.นาโยง ฝ่ายสืบสวน กองพิสูจน์หลักฐาน ภ.จง.ตรัง แพทย์เวร รพ.นาโยง อาสากู้ภัยมูลนิธิสว่างภักดีตรัง และอาสามูลนิธิกุศลสถานตรัง
โดยที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ด้านหน้าเปิดเป็นร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ ภายในห้องที่กั้นด้วยเหล็กหน้าบ้านพบศพ นายศรยุทธ์ ยุ่งยั้ง อายุ 38 ปี เจ้าของบ้าน นอนเสียชีวิตจมกองเลือด สภาพศพถูกจ่อยิงด้วยอาวุธปืนลูกโม่ขนาด .38 เข้าที่หน้าผากทะลุท้ายทอย 1 แผล ใบหน้า 1 แผล และสะบักด้านซ้ายอีก 1 แผล รวมจำนวน 3 แผล นอกจากนี้จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบหัวกระสุนขนาด .38 ตกอยู่จำนวน 1 หัว เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบถาม นางจุไร ขวัญเพชร 45 ปี ลูกพี่ลูกน้อง เล่าว่า ลูกชายของตนซึ่งเป็นลูกน้องของผู้ตาย บอกว่าก่อนเกิดเหตุผู้ตายนั่งซ่อมรถอยู่ในห้องที่กั้นด้วยตะแกรงเหล็กอยู่คนเดียว และมีลูกน้องอีก 2 คน อยู่ด้านนอกห้อง ต่อมามีรถจักรยานยนต์สีดำ ไม่ทราบทะเบียน มาจอดข้างร้าน คนขี่เป็นชายใส่หน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า และชายซ้อนท้ายสวมหมวกกันน็อกเต็มใบ
จากนั้นคนซ้อนท้ายได้ตะโกนว่า “ขอเติมลมหน่อย” ลูกน้องจึงเดินไปหยิบสายเติมลมให้ ก่อนที่ชายซ้อนท้ายเดินเข้าไปที่ห้องดังกล่าว แล้วใช้อาวุธปืนลูกโม่ขนาด.38 จ่อยิงนายศรยุทธ์ จนเสียชีวิตดังกล่าว จากนั้นคนร้ายหลบหนีไปทันที
นายกิตติพงษ์ ยุ่งยั้ง อายุ 40 ปี พี่ชายผู้ตาย เล่าว่า ก่อนหน้านี้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์เบิ้ลเครื่องเสียงดังบริเวณหน้าร้าน ทำให้ผู้ตายตะโกนด่าไล่ โดยผู้ตายเป็นคนพูดน้อย เป็นช่างซ่อมฝีมือดี ซ่อมรถราคาไม่แพง ไม่เคยมีศัตรูหรือขัดแย้งกับบุคคลใดมาก่อน ตนยังงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าสาเหตุใดถึงมีคนร้ายมายิง ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม หลังจากเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ชัดสืบสวน สภ.นาโยง ได้เชิญตัวลูกน้องของผู้ตายจำนวน 2 คน ที่อยู่ในเหตุการณ์ไปทำการสอบสวน เบื้องต้นหนึ่งในลูกน้องผู้ตายพอที่จะรู้จัก และคุ้นใบหน้าของผู้ขับขี่รถคันก่อเหตุ ส่วนสาเหตุในเบื้องต้นตั้งปมขัดแย้งส่วนตัว หรือขัดแย้งเรื่องธุรกิจ โดยจะตรวจกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป