จากกรณีภาคีนักเรียน KKC และนักเรียนเลว ประกาศเชิญชวนนักเรียนร่วมกันใส่ชุดไพรเวตไปเรียนในวันที่ 1 ธ.ค. 63 ซึ่งเป็นวันเปิดภาคเรียนวันแรกของที่ 2 ปีการศึกษา 2563 พบว่านักเรียนหลายโรงเรียน ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด มีการมีแต่งชุดไพรเวตกันอย่างคึกคัก เช่นเดียวกับนักเรียนในโรงเรียนสตรีวัดมหาพฤฒาราม ในพระบรมราชินูปถัมภ์ กรุงเทพฯ ซึ่งนัดรวมตัวกันแต่ชุดไพรเวต และนัดรวมตัวที่ธนาคารข้างโรงเรียน ก่อนเดินเข้าโรงเรียนพร้อมกัน
ปรากฎว่านักเรียนกลุ่มนี้ถูกแยกตัวออกไปเข้าห้องปกครอง ก่อนที่เป็นเวลาช่วงพักคาบเรียนเวลาประมาณ 10.30 น. นักเรียนหลายคนรวมตัวกันตะโกนให้ครู "ปล่อยเพื่อนเรา" โดยมีคลิปปรากฎในโลกโซเชียลมีเดีย กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันหลายมุมมอง
ล่าสุด วันที่ 1ธ.ค. 63 ทีมข่าวเดินทางมาที่โรงเรียนสตรีวัดมหาพฤฒาราม ในพระบรมราชินูปถัมภ์ กรุงเทพฯ ครูฝ่ายประชาสัมพันธ์ให้ข้อมูลว่า คุณครูไม่ได้กักขังเด็กเรียน แต่เป็นฝ่ายเด็กนักเรียนที่รวมกลุ่มกันประมาณ 10 กว่าคน แต่งตัวชุดไพรเวต เข้ามาเรียนในวันนี้ และมีการแจ้วความประสงค์ว่าต้องการพบ ผอ. แต่วันนี้ ผอ.ติดภาระกิจ จึงให้นักเรียนไปพบคุณครูประจำชั้น และมีการพูดคุยกัน
ทั้งนี้ ทราบเพียงว่าใช้เวลาพูดคุยไม่นาน คุณครูก็ให้เด็กนักเรียนเข้าห้องเรียนตามปกติ โดยคนไหนเตรียมชุดนักเรียนมา หรือมีผู้ปกครองนำมาให้ ก็เปลี่ยนและก็เข้าห้องเรียน ส่วนคนไหนยืนยันจะใส่ชุดนี้ไพรเวต คุณครูก็ไม่ได้ตำหนิและหักคะแนน ให้เข้าชั้นเรียกได้ตามปกติ
น.ส.ต้นอ้อ นักเรียนชั้นมัธยมปลาย ผู้ร่วมก่อตั้งภาคี Morpor Rebellion และเป็นหนึ่งในนักเรียนที่แต่งชุดไพรเวต บอกว่า วันนี้การนัดกับเพื่อน ๆ แต่งชุดไพรเวต เมื่อเดินเข้าโรงเรียนในเวลา 07.45 น. นักเรียนบางชั้นเรียนขึ้นห้องเรียนไปแล้ว ตนเองจึงใช้โทรโข่งที่เตรียมมาพร้อมลำโพง 1 ตัว ประกาศว่าถ้าไม่ยอมให้เข้าโรงเรียนจะจัดม็อบหน้าโรงเรียน หลังจากนั้นก็โดนเรียกเข้าห้องปกครองและกักตัว ก่อนมีการเจรจาให้ตนเองและเพื่อน ๆ เซ็นยินยอมรับว่าผิดระเบียบ และจะเรียกผู้ปกครอง แต่พวกตนต่อต้าน ไม่มีนักเรียนคนไหนเซ็นยินยอม กระทั่งเวลาประมาณ 10.15 น. ถูกเรียกเข้าพบกับรอง ผอ. เพื่อพูดคุย ในระหว่างนี้เป็นช่วงพักคาบ ทำให้นักเรียนออกมาร่วมกันตะโกนให้คุณครูปล่อยพวกตน
สำหรับการพูดคุยได้ข้อสรุปคือการถูกหักคะแนนความประพฤติ ตนเองถูกหักเยอะมากที่สุด 43 คะแนน จากเต็ม 100 คะแนน โดยรอง ผอ. ใช้วิธีการไล่หักคะแนนแบบที่ละจุด ตั้งแต่ทรงผม รองเท้า โดยเฉพาะต่างหู ถูกหักคะแนนแยกออกจากเครื่องประดับ รวมถึงการหักคะแนนที่อ้างว่าพวกตนมาสาย ทั้งที่จะต้องมาสายครบ 3 ครั้ง จึงจะทำการหักคะแนน แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรก ทั้งนี้ หากโดนหักคะแนนจนเกือบหมดก็ถึงขั้นถูกไล่ และนักเรียนเรียกร้องให้โรงเรียนพิจารณาหาทางออกร่วมกัน ช่วยกันพัฒนาโรงเรียนให้โตไปตามสังคม เช่น ขอจัดตั้งเวทีประชาคมเพื่อคุยกัน ตั้งแต่ครู นักเรียน และผู้ปกครอง เน้นเรื่องการแต่งกาย
โดยตนยืนยันว่า ตนเองไม่ได้เรียกร้องเพื่อพบครู แต่แค่ต้องการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ว่าจะร่วมกันแต่งชุดไพรเวตมาโรงเรียนเพื่อร่วมกันตั้งคำถามว่าชุดนักเรียนควรมีอยู่ต่อไปหรือไม่ ซึ่งพวกตนมองว่าไม่ควรมีอยู่ต่อ เพราะเป็นการสร้างความเหลื่อมล้ำในตัวเองและซุกปัญหาไว้ใต้พรม นักเรียนอีกกี่คนไม่มีเงินซื้อชุด ซึ่งเป็นปัญหาที่ทำให้นักเรียนหลายคนเลือกที่จะไม่เรียนหนังสือเพราะไม่มีชุดนักเรียน
ส่วนน้องบิว นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 แต่งกายชุดนักเรียนปกติ กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าชุดนักเรียนลดความเหลื่อมล้ำได้แค่ภายนอก แต่อย่างไรแล้วชุดนักเรียนก็มีราคาที่จะต้องเสียเงิน แม้รัฐบาลจะช่วย แต่ไม่เพียงพอ ดังนั้น การที่เพื่อน ๆ นักเรียนบางคนใส่ชุดไพรเวตมาวันนี้ เป็นเพียงการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ การที่คุณครูในโรงเรียนเรียกไปกักขังในห้องปกครองนั้นเกินกว่าเหตุ ตนอยากทราบว่าคนไม่ใส่ชุดนักเรียน ไม่มีสิทธิ์เรียนหนังสือเลยหรือ ซึ่งการแค่ตัดคะแนนและตักเตือนหรือเรียกผู้ปกครองก็เพียงพอแล้ว