จากกรณีแฟนหนุ่มระแวงแฟนสาวเล่นไลน์และเฟซบุ๊ก กลัวว่าแฟนสาวนอกใจมีผู้ชายอื่น จึงลงมือกระทืบแฟนสาว 4 ครั้งดับสลด โดยหลังก่อเหตุหลบหนีไปที่บ้านแฟนเก่า สุดท้ายไม่รอด โดนตำรวจรวบตัวได้ ในวันที่ 3 ธ.ค.63 ซึ่งเหตุเกิดวันที่ 1 ธ.ค. 63 ในพื้นที่หมู่ 2 ต.คลองคูณ ต.ตะพานหิน จ.พิจิตร
วันที่ 3 ธ.ค. 63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยัง สภ.เก้าเลี้ยว อ.เก้าเลี้ยว จ.นครสวรรค์ เจ้าหน้าที่รวบตัวนายสราวุธ ชาญสูงเนิน อายุ 37 ปี ผู้ต้องหา ฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นถึงแก่ความตาย, มียาเสพติดไว้ครอบครองเพื่อจำหน่ายและคดีเสพยาเสพติด ซึ่งเจ้าหน้าที่สอบสวนได้สอบปากคำนางสาวนัน (นามสมมติ) อายุ 27 ปี แฟนเก่าผู้ต้องหา
นางสาวนัน (นามสมมติ) อายุ 27 ปี แฟนเก่าผู้ต้องหา เล่าว่าตนเคยคบหากับนายสราวุธ ประมาณ 1 เดือน เลิกกันมาแล้ว 1 เดือน ซึ่งสาเหตุที่เลิกกัน เพราะเคยถูกนายสราวุธทุบตีทำร้ายร่างกายด้วยการต่อยหน้า ใช้มือทุบตีร่างกาย สาเหตุจากการที่นายสราวุธเสพยาแล้วหลอน เกิดอาการหึงหวง เข้าใจว่าตนมีผู้ชายคนใหม่ และคิดว่าตนจะทำร้ายร่างกาย ครั้งนั้นตนรอดมาได้เพราะการหลบหนีออกมาจากบ้านของนายสราวุธ และก็ได้เลิกกันโดยปริยาย ซึ่งหลังจากนั้นก็นายสราวุธก็มีการติดต่อตนมาบ้าง ผ่านข้อความในเฟซบุ๊ก ถามไถ่สาระทุกข์สุกดิบกับตนเท่านั้น
โดยวันนี้ เวลาประมาณ 13.00 น. นายสราวุธขับรถมอเตอร์ไซค์มาที่บ้านของตน บอกกับตนว่าบังเอิญผ่านมาทางนี้ ขอนั่งพักที่บ้านของตนก่อน ซึ่งขณะนั้นตนก็อยู่กับเพื่อนอีก 2 คน และเพื่อนก็ไม่ได้ว่าอะไรอนุญาตให้นายสราวุธมานั่งพักได้
โดยสภาพร่างกายปกติ ซึ่งตนก็ดูไม่ออกว่าเมามาหรือไม่ แต่มีก็มีท่าทีแปลก ๆ เวลาคุยกัน แต่ตนก็ไม่ได้สนใจ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาที่บ้านของตนเพื่อจับกุมนายสราวุธ ในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นถึงแก่ความตาย ตนก็รู้สึกตกใจ ซึ่งตนไม่รู้ว่านายสราวุธไปก่อเหตุอะไรมา และตนก็ไม่เคยทราบเลยด้วยซ้ำว่านายสราวุธมีแฟนใหม่แล้ว
จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการค้นตัวนายสราวุธ พบยาบ้ายาไอซ์จำนวนหนึ่ง จึงนำตัวไปสอบสวนที่ สภ.สามง่าม ส่วนสาเหตุการลงมือทำในครั้งนี้ คาดว่าน่าจะมาจากการที่นายสราวุธเสพยาเสพติดแล้วเกิดอาการหลอน จึงถูกทำร้ายร่างกายเหมือนที่ตนเคยโดนมาก่อน
ทีมข่าวเดินทางมาที่หมู่2 ต.คลองคูณ อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร ซึ่งภายในบ้านถูกจัดงานณาปณกิจศพของนางสาวอรัญยา บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า
นายสงคราม พุกวาน อายุ 50 ปี พ่อผู้เสียชีวิต เล่าว่านางสาวอรัญยา ลูกสาวของตน คบหากับนายนายสราวุธ 1 เดือนกว่า ๆ ซึ่งตนก็ไม่ค่อยได้ทราบความเป็นอยู่ เนื่องจากอาศัยอยู่คนละพื้นที่กัน อีกทั้งลูกสาวเพิ่งคลอดลูกสาวได้ไม่กี่วัน ซึ่งไม่ใช่ลูกของคนก่อเหตุ โดยก่อนหน้านี้ลูกสาวของตนเคยถูกนายสราวุธทำร้ายร่างกายมาแล้ว 1 ครั้ง เมื่อวันที่ 22 พ.ย.63 ที่ผ่านมา ร่างกายถูกทุบตีจนช้ำเขียวทั่วร่างกาย บริเวณเบ้าตาถูกกุญแจรถมอเตอร์ไซค์ต่อยเข้าที่เบ้าตา
ครั้งนั้นตนจึงไปรับตัวลูกสาวกลับมาบ้าน มีการพูดคุยถึงปัญหากัน ส่วนของตนเองก็มีการเตือนให้เลิกยุ่งกับนายสราวุธ แต่ลูกสาวของตนก็ไม่ฟัง จากนั้นภายในไม่กี่วันนายสราวุธก็เดินทางมารับตัวกลับไป โดยไม่มีการเข้ามาพูดคุยหรือขอโทษ ก่อนจะลงมือทำร้ายร่างกายอีกครั้ง ในวันที่ 1 ธ.ค. 63 แล้วมาเสียชีวิตในวันที่ 2 ธ.ค.63 เวลาประมาณ 01.00 น. ซึ่งตนมองว่าเป็นการทำเกินกว่าเหตุไปอย่างมาก
ก่อนที่ลูกสาวจะเสียชีวิต โทรมาบอกกับตนว่าวันที่ 2 ธ.ค.63 จะเอาหลานไปเยี่ยมตนที่บ้าน และอยากกินปลาไหล ให้ตนหาไว้ให้ทั้งที่ลูกสาวของตนไม่เคยนึกอยากกินปลาไหล ตนจึงเตรียมปลาไหลไว้ทำให้ลูกกิน แต่ก็ได้รับข่าวร้ายเสียก่อน สาเหตุของการลงมือกระทำเช่นนี้ตนก็ไม่มั่นใจว่าเกิดขึ้นจากอะไร เพราะลูกก็ไม่ค่อยเล่าปัญหาให้ฟัง ส่วนสภาพจิตใจในตอนนี้ก็ยังคงรู้สึกเสียใจ และก็ยังรู้สึกโกรธนายสราวุธ แต่ถ้ามาขอโทษขอขมาศพ ตนก็พร้อมที่จะให้อภัย เนื่องจากไม่อยากสร้างเวรต่อกัน และก็อยากให้ญาติฝ่ายชายเข้ามารับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้น อย่างน้อยควรจะมีการช่วยเหลือในเรื่องค่าใช้จ่ายการจัดงานณาปณกิจศพ เพราะขณะนี้ทางบ้านตนก็ไม่ได้มีเงินมากมาย ต้องให้ทางญาติช่วยกันระดมเงิน
ด้านนางโนรี ชาญสูงเนิน อายุ 46 ปี พี่สาวผู้ต้องหา เปิดเผยว่า นายสราวุธคบหากับนางสาวอรัญยาประมาณ 1 เดือนกว่า ๆ ขณะนั้น นางสาวอรัญยาตั้งครรภ์ 9 เดือนมาด้วย นายสราวุธก็ดูแลอย่างดี จนกระทั่งคลอดลูก ก็ไปนอนเฝ้าที่โรงพยาบาลพร้อมดูแลค่าใช้จ่ายทั้งหมด อีกทั้งยังเซ็นรับรองเป็นบุตรและเอาชื่อเข้าทะเบียนบ้าน ทั้งที่ไม่ใช่ลูกของตัวเอง
ต่อมาวันที่ 1 ธ.ค.63 ตนเดินทางกลับจากขายของที่ตลาดในช่วงเย็น ก็เห็นว่าทั้งคู่มีการแต่งตัวกันตนก็นึกว่าจะไปเที่ยวกัน จึงไม่ได้สนใจ ช่วงดึกได้ยินเสียงแว่ว ๆ ว่า ทั้งคู่มีปากเสียงกันขณะนั้นตนกินยาแก้แพ้และยาฆ่าเชื้อจากที่โดยแมลงวิ่งชนตาจึงทำให้ตนเผลอหลับไป เวลาประมาณ 23.30 น. นายสราวุธวิ่งมาเคาะประตูบ้าน ขอให้ช่วยพาตัวของนางสาวอรัญยาส่งโรงพยาบาล ขณะนั้นตนรู้สึกตกใจ นำตัวขึ้นรถกระบะเพื่อส่งโรงพยาบาล กระทั่งถึงโรงพยาบาลนางสาวอรัญยาเสียชีวิตไปแล้ว
ส่วนสาเหตุในการลงมือครั้งนี้ ตนคาดว่าน่าจะมาจากเรื่องที่นางสาวอรัญยาขโมยเงินนายสราวุธ และถูกจับได้ ส่วนเรื่องยาเสพติด ตนยอมรับว่าน้องชายเคยติดยาเสพติดจริง แต่หลังออกจากการติดคุกได้ 1 ปี ก็ไม่ได้มีการเสพยาเสพติด ส่วนหลักฐานที่ตำรวจพบเจอในขณะจับกุม น้องชายของตนปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ทั้งนี้ ตนยืนยันว่าจะไม่ขอประกันตัวน้องชาย จะปล่อยให้ไปรับผลกรรมในคุก