วันที่ 5 ธ.ค. 63 จากกรณีนายอิทธิพล อิ่มผึ่ง ชายคลุ้มคลั่ง ใช้อาวุธมีดปลายแหลม แทงชาวบ้านที่ขับรถจักรยานยนต์จอดติดสัญญาณไฟบริเวณสี่แยกหลังเรือนจำ มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย ก่อนจะถูกจับกุมตัวไว้ได้ โดยมีชาวบ้านเข้าช่วยจับรุมสกรัมบาดเจ็บ และคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.เมืองอุดรธานี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 6 ราย
โดยเหตุแรกที่สี่แยกหลังเรือนจำกลางอุดรธานี ถ.ศรีชมชื่น ตัด ถ.นเรศวร เทศบาลนครอุดรธานี ที่มีภาพกล้องวงจรปิดของเทศบาลนครอุดรธานี ขณะที่ น.ส.ณัฐวดี อายุ 17 ปี ขี่จักรยานยนต์ซ้อน น.ส.อัญชนา อายุ 16 ปี ชาว อ.หนองหาน จ.อุดรธานี มาจอดติดไฟแดง คนร้ายขี่รถมาประกบด้านขวา เอื้อมมือใช้มีดที่พกติดหน้ารถ จ้วงแทงคอคนซ้อนก่อนเสียชีวิต
จากนั้นได้จ้วงแทงคนขี่รถ โดยคนซ้อน ผู้ตาย วิ่งหนีไปหมดสติล้มลงใกล้ ๆ ส่วนคนขี่ยืนนิ่งจับแฮนด์รถไว้ ส่วนรถของคนร้ายที่มีเพื่อนนั่งซ้อนท้ายมาด้วย เพื่อนของคนร้ายลงจากรถข้ามถนนไป จากนั้นมีรถหน่วยกู้ชีพ รพ.ศูนย์อุดรธานี มารับตัว ซึ่ง น.ส.ณัฐวดี คนซ้อน ได้เสียชีวิตที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี
จากนั้นคนร้ายขี่รถไปเพียงลำพัง และไปก่อเหตุอีกหลายครั้ง แล้วมาก่อเหตุที่ 2 ที่หน้าร้านเรื่องของปู ถ.นเรศวร แทงน.ส.สิราสินี พรหมกูล อายุ 45 ปี บาดเจ็บที่แก้ม
จุดที่ 3 คนร้ายมาก่อเหตุที่หน้ามัสยิด ถ.ศรีชมชื่น แทงน.ส.ปิยวรรณ กันยาเยี้ยม อายุ 20 ปี บาดเจ็บที่ไหล่ซ้าย
จุดที่ 4 คนร้ายไปก่อเหตุหน้าโรงเรียนบ้านหมากแข้ง เป็น ด.ช.ธนรัฐ อายุ 13 ปี หน้า มีแผลที่คอลึก 1 ซม. ในลักษณะเดียวกันคือ พยายามแทงที่คอ ผู้บาดเจ็บถูกทยอยส่ง รพ.ศูนย์อุดรธานี
จุดที่ 5 บริเวณหน้าร้านนิมิตแอร์ ถ.สุรการ คนร้ายขี่รถตามมาด้านหลัง ใช้อาวุธมีดแทงคอ น.ส.ชลดา หินคำ อายุ 22 ปี ขี่รถ จักรยานยนต์ฮอนด้าไอคอน สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ขวพ 543 อุดรธานี ตกรถเสียชีวิตที่เกิดเหตุ
ส่วนคนร้ายก็ขี่รถไปก่อเหตุอีกจุดที่ 6 ที่หน้าทางเข้ามูลนิธิส่งเสริมธรรมอุดรธานี ถนนโพศรี ผู้บาดเจ็บคือ น.ส.แว่นทิพย์ วงวิลัย อายุ 33 ปี มีแผลที่ไหล่ซ้ายแผลลึกยาว 6 ซม.
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี ได้นำกำลังไปล้อมคนร้ายอยู่หน้าร้านขายยารวมชัยเภสัช ถ.ประจักษ์ศิลปาคม ใกล้กับวงเวียนเฉลิมพระเกียรติ เทศบาลนครอุดรธานี โดยใช้อุปกรณ์เหล็กง่าม กระบอง และกรวยยาง ไล่ต้อนคนร้ายมาอยู่ที่หน้าร้านขายยา เมื่อคนร้ายเผลอและจังหวังหลบก้อนหิน ตำรวจได้กรูกันเข้าไปจับกุม จับกดลงกันพื้นควบคุมตัวได้
นำตัวขึ้นรถสายตรวจไปยัง สภ.เมืองอุดรธานี ทราบชื่อว่า นายอิทธิพล อิ่มผึ่ง หรือ แจ๊ค อายุ 31 ปี ภูมิลำเนา จ.อุดรธานี โดยใช้เวลาในการก่อเหตุตั้งแต่ 13.17 น. จนถึง 14.15 น. รวม 58 นาที
ด้านนายสุบิน คณะเวส อายุ 29 ปี เพื่อนที่ซ้อนรถมากับคนร้าย เปิดเผยว่า นายอิทธิพล คนร้าย มีประวัติเสพยา และเคยเข้ารับการรักษาอาการทางประสาท ขี่รถมาด้วยกันจาก อ.หนองวัวซอ วันนี้ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้าน แล้วออกมาเที่ยวงานประจำปีทุ่งศรีเมือง ระหว่างทางก็ไม่มีการแสดงอาการผิดปกติ
จนมาถึงแยกหลังเรือนจำ รถจอดติดสัญญาณไฟแดง นายอิทธิพลเอื้อมมือไปที่คอผู้หญิง ตอนแรกคิดว่าไปจับแก้มเขา พอรู้ว่าเอามีดไปแทงคนอื่น ตนก็กระโดดลงจากรถ แล้วนายอิทธิพลก็ขี่รถพุ่งออกไป และก็ไม่รู้ว่าไปก่อเหตุที่ไหนอีก
น.ส.กาญจนา อิ่มเทศ อายุ 32 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ที่จุดแรก เปิดเผยว่า ตนได้นั่งอยู่ข้างทางมองไปเห็นน้องจอดรถจักรยานยนต์ติดไฟแดงอยู่ แล้วคนร้ายเอามีดขึ้นมาแทงน้องทั้ง 2 คนที่จอดรถจักรยานยนต์ติดไฟแดงอยู่ ซึ่งคนร้ายขี่รถมากันสองคน คนที่ถูกแทงนั่งซ้อนท้ายเป็นผู้หญิง
นายอิธิพล อิ่มผึ่ง ผู้ก่อเหตุ พูดวกวนไปมาให้การว่า ตนทำงานในฟาร์มเลี้ยงหมูของลุงที่ ต.นิคมสงเคราะห์ อ.เมือง จ.อุดรธานี ไม่เคยฆ่าหมู เลี้ยงอย่างเดียว เคยเสพยาบ้าแต่หยุดเสพมานาน จนวันนี้ก่อนมาเที่ยวจนก่อเหตุเสพยาบ้า 2 เม็ด ไม่รู้ว่าไปทำร้ายคนอื่นทำไม แต่พกมีดมาเพื่อป้องกันตัว และขอโทษที่ทำลงไปแล้ว
พ.ต.ท.มนต์ชัย ไชยกูล สวป.สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่ามีเหตุทำร้ายร่างกายหลังเรือนจำอุดรธานี หลังจากนั้นได้รับแจ้งอีกว่า ไปแทงคนอื่นที่ข้างเรือนจำ จากนั้น ไม่นานได้รับแจ้งอีกว่าไปแทงคนที่มัสยิด
จากนั้นผ่านไปชั่วครู่ ได้รับแจ้งอีกว่ามีคนโดนทำร้ายร่างกายข้างโรงเรียนบ้านหมากแข้ง ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าเป็นอาวุธชนิดไหน และได้รับแจ้งอีกว่า มีคนโดนแทงที่ห้างท็อปเวิล์ด ก่อนที่จะได้รับแจ้งว่ามีคนโดนมีดแทงที่หน้ามูลนิธิส่งเสริมธรรมแห่งอุดรธานี มีคนถูกทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธมีดจนได้รับบาดเจ็บ
หลังจากนั้น ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 10 นาย ได้ติดตามตัวคนร้าย โดยคนร้ายขี่รถมอเตอร์ไซค์ไปถึงหอนาฬิกา ตำรวจได้กดดันให้ลงจากรถ
โดยคนร้ายมีอาการอาละวาดถือมีด ยาวประมาณ 1 ฟุต ซึ่งเจ้าหน้าที่กดดันให้วางอาวุธ และใช้ไม้ง่ามเหล็ก เข้าไประงับเหตุตามยุทธวิธี พร้อมทั้งใช้ไม้ง่ามเหล็ก ตีเข้าไปที่แขนที่ถือมีด มีดหล่นจึงเข้าจับกุมตัว คนร้ายให้การได้ตามปกติ
เบื้องต้น ไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกับใคร และตรวจไม่พบสารเสพติด ไม่ได้เสพยา คาดว่าอาจเกิดจากความเครียด โดยพบข้อมูลว่าผู้ก่อเหตุเคยรักษาตัวในอาการจิตเวช เบื้องต้น แจ้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา พยายามฆ่า และทำร้ายร่างกาย