สุดอนาถป่วยมะเร็งไร้เสบียงบ้านติดเกาะ ซึ้งแฟนข่าวอมรินทร์ช่วย - สื่อเขมรห่วงคนใต้ (คลิป)

เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.63 อมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ที่จ.นครศรีธรรมราช นำโดย คุณพุทธ อภิวรรณ, คุณจิตดี ศรีดี, คุณธนญญ์นภสสร์ น้อยเวียง และคุณนภจรส ใจเกษม พร้อมทีมรายการทุบโต๊ะข่าว ลงพื้นที่แจกจ่ายถุงยังชีพจำนวน 250 ถุงแก่ชาวบ้านที่ประสบอุทกภัยน้ำท่วม จากเหตุน้ำท่วมหนักหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ และหนักที่สุดที่ จ.นครศรีธรรมราช และ จ.สุราษฎร์ธานี

โดยถุงยังชีพจำนวน 250 ถุง ประกอบไปด้วย

1. ยารักษาโรค
2. บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
3. ขนมปัง
4. น้ำเปล่า
5. ปลากระป๋อง
6. ไฟฉาย+ถ่านไฟฉาย
7. เทียน+ไฟแช็ก
8. ยาทากันยุง

จุดแรกที่ทีมรายการทุบโต๊ะข่าวลงพื้นที่คือพื้นที่ หมู่ 5 ต.หูล่อง อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งระดับน้ำสูงประมาณ 30-40 ซม. แต่เมื่อตกกลางคืนในช่วงเวลาน้ำขึ้น ระดับน้ำจะสูงถึง 80 ซม. มีชาวบ้านอยู่ในพื้นที่ประมาณ 300-500 ครัวเรือน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วชาวบ้านมีความต้องการเครื่องอุปโภคบริโภคที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวัน โดยทีมข่าวได้ส่งมอบถุงยังชีพให้ตัวแทนชาวบ้านหมู่ 5 ทั้งหมด 2 จุด จุดแรกจำนวน 40 ถุง จุดสองจำนวน 45 ถุง เพื่อนำไปแจกจ่ายต่อให้กับชาวบ้าน

โดยยอดบริจาคช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมกับอมรินทร์ทีวี ล่าสุดอยู่ที่ 7,152,640.47 บาท สามารถร่วมบริจาคสมทบทุนได้ที่ ชื่อบัญชี "อมรินทร์รวมใจ ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม" ธนาคารกสิกรไทย เลขที่บัญชี 061-8-88293-4

นางนงรัตน์ ทิพย์กองลาศ อายุ 52 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ บอกว่าน้ำท่วมมา 1 สัปดาห์เเล้ว ซึ่งตนอาศัยอยู่ที่บ้านกับครอบครัว จำนวน 6 คน ประกอบอาชีพทำการเกษตร ปลูกพริก 8 ไร่ เเต่ตอนนี้พริกก็จมน้ำทั้งหมด นอกจากนี้โอ่งที่บรรจุน้ำฝนก็ถูกน้ำท่วม ทำให้ตอนนี้ขาดเเคลนน้ำดื่ม ดังนั้นสิ่งที่ต้องการมากที่สุดคือน้ำดื่มสะอาด ข้าวสาร อาหารเเห้ง จำพวก มาม่า ปลากระป๋อง

ทีมข่าวได้เดินทางเข้าซอยสองพี่น้องเหนือ ซึ่งซอยดังกล่าวมีบ้านเรือนประชาชนประมาณ 20 หลังคาเรือน การเดินทางค่อนข้างลำบาก ถนนทางเข้าซอยมีน้ำท่วม 30-50 ซม. เข้าได้เฉพาะรถยกสูง โดยบ้านเรือนชาวบ้านจะอยู่ต่ำกว่าถนนมาก ทำให้ชาวบ้านส่วนใหญ่ที่ไม่มีเรือ จะเดินทางออกด้านนอกไม่ได้ ทั้งนี้ยังมีหมูที่ลอยคออยู่ในน้ำด้วย 

ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายราเชน อุยโยชะกะ อายุ 31 ผู้ช่วยหมวดทางหลวง อ.เวียงสระ เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำท่วมมีความรุนแรงตั้งแต่เมื่อวานนี้ เนื่องจากมีระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นทั้งวันจนถึงช่วงเย็นของเมื่อวานนี้ กระทั่งช่วงเวลาตั้งแต่ 19.30 น. ที่ผ่านมา หน่วยงานทางหลวงประสานให้มีการปิดการจราจรช่วงถนนและสะพานข้ามคลองดังกล่าว โดยนำแบริเออร์มาวางและรถทางหลวงมาจอดขวางปิดเส้นทางจราจรไว้ ห้ามไม่ให้รถทุกชนิดวิ่งผ่าน เพราะกระแสน้ำแรง อีกทั้งหวั่นสะพานทรุดเสียหาย แล้วเกิดอันตรายกับผู้ที่สัญจรผ่านมาด้วย

สำหรับอุปสรรคในการเฝ้าระวังน้ำในขณะนี้ เป็นเรื่องของกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว ทั้งวันทั้งคืน อีกทั้งเจอปัญหาประชาชนไม่พอใจ ที่มีการปิดการจราจร แต่สุดท้ายก็เจรจาขอความร่วมมือไม่ให้ขับผ่านช่วงบริเวณดังกล่าวเด็ดขาด ขณะนี้ยังไม่มีคนบาดเจ็บ หรือรถเสียหายจากน้ำท่วมบริเวณนี้

อย่างไรก็ตาม นายราเชน ระบุว่า ต้องรอระดับน้ำลดต่ำลง เจ้าหน้าที่จึงจะเข้าไปตรวจสอบใต้สะพาน และโครงสร้างด้านล่างอีกครั้งว่าชำรุด ทรุดตัวหรือไม่ ถ้าหากโครงสร้างยังแข็งแรง กระแสน้ำไม่กัดกร่อนเสียหาย ก็จะเปิดการจราจรได้ตามปกติ

ทีมข่าวยังได้พบกับ นายสมบูรณ์ ช่วยบุญชู อายุ 72 ปี ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน และเป็นมะเร็งลำไส้ระยะหนัก ที่ต้องพบแพทย์ทุก ๆ 15 วัน เปิดเผยว่า ในบ้านตนอยู่ทั้งหมดจำนวน 4 คน มีตน ภรรยา ลูกชาย และหลานชาย ซึ่งเดือดร้อนจากน้ำแม่น้ำตาปีท่วมบ้านนานกว่า 4 วันแล้ว รอบบ้านเสียหาย โต๊ะเก้าอี้พัง สุนัขที่เลี้ยงไว้จำนวน 5 ตัว ต้องขึ้นมาอยู่ที่สูงในบ้าน เพื่อหลบน้ำท่วม

นายสมบูรณ์ เล่าต่อว่า ผลกระทบที่เกิดขึ้นทำให้พืชผลทางการเกษตรเสียหายทั้งหมด ปาล์มน้ำมันถูกน้ำท่วมเสียหาย การเดินทางลำบากมาก สัญจรไปมาไม่สะดวก อีกทั้งที่บ้านมีเรือไม่เพียงพอต่อการใช้งาน เนื่องจากเรือเดิมเป็นเรือไม้ เกิดรั่วเสียหาย จึงใช้งานไม่ได้ เนื่องจากตนต้องเดินทางไปหาหมอ ทุก ๆ 15 วัน เพื่อรับยาและตรวจร่างกายซึ่งป่วยเป็นมะเร็ง แต่ไม่สามารถไปหาหมอได้

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 30 พ.ย.63 ที่ผ่านมา เป็นกำหนดหมอนัด แต่ติดน้ำท่วม ออกจากบ้านไปหาหมอไม่ได้ และในวันที่ 15 พ.ย.63 ตนมีนัดอีกครั้ง ก็ไม่รู้ว่าระดับน้ำจะลดลงหรือไม่ ซึ่งสาเหตุที่ตนออกจากบ้านไม่ได้ เพราะระดับน้ำสูง ไม่มีเรือใช้งาน ต้องเดินฝ่ากระแสน้ำ แต่ตนเดินไม่ไหว เพราะร่างกายป่วยไม่แข็งแรง จึงไม่ได้ไปพบหมอตามกำหนด

ทั้งนี้ นายสมบูรณ์ ระบุว่า อยากให้มีทีมแพทย์ พยาบาล และหน่วยงานด้านสาธารณสุข เข้ามาตรวจสุขภาพเคลื่อนที่แก่ผู้ประสบภัย มาเช็กร่างกาย กรณีที่ไม่สามารถออกไปโรงพยาบาลได้ และอยากให้มีหน่วยงานเข้ามาบรรเทาทุกข์ ความเดือดร้อนของชาวบ้านทุกหลังคาเรือน ในหมู่บ้านหานเพชร อีกด้วย

อย่างไรก็ดี ในวันที่ 7 ธ.ค.63 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะเดินทางไปตรวจเยี่ยมการแก้ปัญหาน้ำท่วม และมอบของช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ ศูนย์ศิลปาชีพบ้านเนินธัมมัง ต.แม่เจ้าอยู่หัว อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช เพื่อประชุมและกำชับหน่วยงานปรับแผนจัดการน้ำอย่างเร่งด่วน

ทั้งนี้สื่อกัมพูชา รายงานข่าว ทีมงานสถานีโทรทัศน์อมรินทร์ ทีวี ของไทย ลงพื้นที่ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมใหญ่ทางภาคใต้ คลิปวิดีโอที่สื่อกัมพูชา นำไปรายงาน เป็นคลิปของอมรินทร์ ทีวี ความยาว 53.41 นาที เผยให้เห็นภาพของทีมงานสถานีโทรทัศน์อมรินทร์ ทีวีของไทย เดินทางไปแจกอาหาร น้ำดื่ม และสิ่งของบรรเทาทุกข์ ตามหมู่บ้านต่าง ๆ โดยต้องใช้เรือเป็นพาหนะ เนื่องจากถนนหนทางในพื้นที่ ต่างกลายสภาพเป็นแม่น้ำลำคลองไปจนหมด ขณะที่ระดับน้ำในบางพื้นที่ท่วมสูง “เกินกว่าระดับเอวของผู้ใหญ่”