แม่ผัวฉะสะใภ้ลวงโลกกุเรื่อง รพ.ทำลูกหาย สั่งลูกชายเลิก เจ้าตัวเครียดถูกทิ้ง (คลิป)

จากกรณี นางสาวแพร อายุ 37 ปี และนายอาร์ม อายุ 29 ปี สามีภรรยาเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองชลบุรี ว่าหลังคลอดลูกที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมืองพัทยา เมื่อวันที่ 11 ต.ค. 63 พบว่าเด็กไม่แข็งแรงจึงได้นำตัวส่งโรงพยาบาลอีกแห่ง เพื่อเข้ารักษาตัวที่ห้องไอซียู แต่ญาติและแม่เด็กไม่ได้ติดตามมา โดยนางสาวแพรอ้างว่าได้เห็นลูกสาวเพียง 10 นาทีเท่านั้น หลังจากส่งตัวมาโรงพยาบาลอีกแห่ง ปรากฏว่าเมื่อวันศุกร์ที่ 4 ธ.ค. ที่ผ่านมา ติดตามที่โรงพยาบาลพบว่าลูกหายไปนั้น

ล่าสุด วันที่ 7 ธ.ค. 63 ที่สถานนีตำรวจโรงพัก สภ.เมืองชลบุรี ร.ต.อ.(หญิง)วราพรรณ ประเสริฐศักดิ์ ร้อยเวร สภ.เมืองชลบุรี บอกว่า หลังจากมีการรับแจ้งความ ได้มีการสอบปากคำญาติ รวมถึงตัวของนางสาวแพร กับนายอาร์ม และขอดูหลักฐานเกี่ยวกับการฝากครรภ์ รวมถึงภาพถ่ายที่อ้างว่านางสาวแพรมีการตั้งครรภ์จริง

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองชลบุรี ได้ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้า และหาเอกสารเกี่ยวกับใบส่งตัวของ 2 โรงพยาบาล แต่ไม่สามารถยืนยันได้ว่านางสาวแพรเดินทางมาคลอด หรือเข้ารับการรักษาในช่วงเวลาที่ให้ปากคำเอาไว้ เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสอบสวนจึงได้ออกอุบายขอเอกสารเกี่ยวกับใบฝากครรภ์ และภาพถ่ายที่อ้างว่ามีการตั้งท้อง นางสาวแพรไม่มีเอกสารเหล่านั้น จึงได้ถูกสอบเข้มกว่า 4 ชั่งโมง เจ้าตัวจึงรับสารภาพว่า ลูกแท้งตั้งแต่ช่วงตั้งครรภ์ 3 เดือนแรก ประมาณช่วงเดือนสิงหาคม

โดยนางสาวแพรเป็นคนทำงานสถานบันเทิง หลังจากตั้งครรภ์แล้วก็ยังไปทำงานปกติ รวมถึงได้มีการดื่มแอลกอฮอล์ร่วมกับลูกค้า จึงทำให้ลูกแท้ง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งความดำเนินคดี พร้อมทั้งส่งอัยการสั่งฟ้อง ตอนนี้ได้ส่งตัวไปฝากขังต่อศาลแล้ว ขั้นตอนหลังจากนี้ญาติจะต้องติดต่อขอประกันผ่านศาล

นางนึก (นามสมมติ) อายุ 56 ปี แม่ของนายอาร์ม เปิดเผยว่า เมื่อวันศุกร์ที่ 4 ธ.ค. ช่วงเช้าตนเองได้เดินทางไปที่โรงพยาบาลในเมืองชลบุรี จะเยี่ยมหลานสาวที่คลอดเมื่อ วันที่ 11 ต.ค. แต่หลังจากไปสอบถามโรงพยาบาลอ้างว่าไม่มีประวัติ ไม่มีข้อมูลการคลอด ตนเองจึงเข้าใจว่าโรงพยาบาลทำเด็กหาย จึงพากันไปแจ้งความที่โรงพัก สภ.เมืองชลบุรี

ก่อนหน้านี้ นางสาวแพร ลูกสะใภ้ได้ตั้งครรภ์ ถึงกำหนดคลอดวันที่ 10 ต.ค. 63 จึงได้เดินทางไปที่โรงพยาบาลในเมืองพัทยา แต่นางสาวแพรยังไม่มีอาการปวดท้อง จึงได้เข้าไปพบหมอเพียงลำพัง ก่อนเดินออกมาพร้อมกับชุดผู้ป่วยของโรงพยาบาล บอกว่าหมอ ฉีดยาเร่งคลอดให้ จนกระทั่งคืนวันที่ 11 ต.ค. เวลาเที่ยงคืน นางสาวแพรเดินออกมาอีกครั้ง พร้อมกับบอกว่าคลอดแล้ว แต่ลูกไม่แข็งแรง เผลอกินน้ำคร่ำเข้าไป ต้องส่งตัวไปรักษาโรงพบาบาลในเมือง ส่วนนางสาวแพรกลับมาที่ห้องเช่ามาพักฟื้น และอยู่ไฟ หลังคลอดลูก ตนเองก็ดูแลเป็นอย่างดีตลอด 1 เดือน

จากนั้นทุกครั้งที่มีการถามถึงหลาน นางสาวแพรมีลักษณะการพูดคุยหรือต่อสายพูดกับใครบางคน ปลายสายพูดทำนองว่าเด็กปลอดภัยแข็งแรงดี แต่ตนเองมาทราบภายหลังว่าคนที่นางสาวแพรพูดคุยด้วยในสาย ได้ให้เพื่อนสนิทและคนรู้จักสวมรอยเป็นพยาบาลและหมอของโรงพยาบาล

แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ตัวเองไม่ได้รู้สึกเสียใจ เท่ากับความจริงที่ทราบจากตำรวจว่านางสาวแพรมีการรับสารภาพว่าแท้งลูกหลังตั้งท้องได้ 3 เดือน และโกหกกลัวจะโดนตำหนิและกลัวผัวทิ้ง เนื่องจากหลังตั้งท้องยังกินเหล้า เหตุการณ์ที่ทำให้ตัวเองรู้สึกเสียใจ มากไปกว่านั้นคือถูกหลอกให้เดินทางมาจาก จ.กำแพงเพชร เพื่อมาเตรียมเลี้ยงดูหลาน ประกอบกับที่บ้านได้มีการซื้ออุปกรณ์เลี้ยงดูสำหรับเด็กแม้กระทั่งเสื้อผ้าเด็กผู้หญิง เพราะนางสาวแพรอ้างว่ามีการอัลตราซาวด์ลูกในท้องเป็นผู้หญิง

หลังเหตุการณ์โกหก ทำให้ลูกชายค่อนข้างหัวร้อนและโกรธเคืองมาก ประกอบกับญาติพี่น้องตนเองก็รู้สึกโกรธ ก็คงจะต้องให้ทั้งสองฝ่ายยุติความสัมพันธ์กัน ต่างคนต่างอยู่ ซึ่งตนเองมีความตั้งใจว่าหลังจากที่ได้เจอหน้าหลาน เตรียมที่จะจัดงานแต่งงานให้ทั้งสองคน แต่ไม่คิดว่าสุดท้ายจะถูกหลอก สร้างเรื่องให้ครอบครัวต้องรู้สึกอับอาย