เปิดที่มา! ยันต์หนุมานหนุ่มแทง 2 ศพ เผยของเขมรเข้าตัวทำคลั่ง พระวัดดังปัดลงอักขระให้ (คลิป)

จากกรณี นายอิธิพล อิ่มผึ่ง อายุ 31 ปี ขี่รถจักรยานยนต์มาเที่ยวงานประจำปีทุ่งศรีเมืองในเขตเทศบาลนครอุดรธานี ขณะขี่รถกลับได้เกิดอาการคลั่งใช้มีดแหลมไล่แทงผู้หญิงและเด็ก เสียชีวิต 2 ศพ บาดเจ็บ 6 ราย ก่อนถูกตำรวจนำกำลังล้อมจับคนร้ายอยู่หน้าร้านขายยารวมชัยเภสัช ถ.ประจักษ์ศิลปาคม ใกล้กับวงเวียนเฉลิมพระเกียรติ จ.อุดรธานี เหตุเกิดวันที่ 5 ธ.ค. 63

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- บุกห้องนอนไอ้คลั่งเจอยันต์เกลื่อน แฉชอบฟังเสียงเชิดสิงโตหลอนทุกวันพระ (คลิป)
- ตำรวจยังอึ้ง ไอ้คลั่งฆ่า 2 ศพของขึ้นมีพลังมหาศาล สักหนุมานทำพัดลมดับ (คลิป)
- เปิดใจสาวเหยื่อไอ้คลั่ง ล็อกคอหวิดโดนแทงดับอีกศพ เผยนาทีระทึก ฮึดสู้กำมีดถีบหน้าหงาย (คลิป)
- แม่สาวบัณฑิตเกียรตินิยมเหยื่อไอ้คลั่ง เผยลางก่อนตายลูกรองเท้าขาด วอนใช้โทษประหาร (คลิป)
- พ่อ-แม่น้องอุ๋งอิ๋งเหยื่อไอ้คลั่งเสียใจ ลูกไปไม่ถึงฝันเป็นสถาปนิก หวั่นรอดประหารจะมีศพที่ 3 (คลิป)
- ช็อกเมืองอุดรฯ หนุ่มเชือดหมูเมายาไล่แทงคนตาย 2 เจ็บเพียบ โหดปาดคอเลือดเย็น (คลิป)

วันที่ 7 ธ.ค. 63 ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะควบคุมตัวนายอิธิพล ไปโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี และนำตัวส่งเรือนจำกลางอุดรธานีประมาณ 30 นาที นายแสงมณี สังข์ทอง อายุ 56 ปี ชาวบ้านบ้านหนองบัวบาน ต.หนองบัวบาน อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นลุงเขยนายอิธิพล ได้เดินทางมาพร้อมกับญาติอีก 2 คน เพื่อมาเยี่ยมนายอิธิพล โดยถือห่อข้าวเหนียว ลาบ เนื้อทอด น้ำดื่ม มาฝาก แต่ไม่ได้พบ เนื่องจากทางตำรวจเตรียมควบคุมตัวนายอิธิพลส่งโรงพยาบาลฯ

นายแสงมณี เปิดเผยว่า รู้ข่าวครั้งแรกรู้สึกตกใจ เพราะที่รู้จักกับนายแจ็คมาก็เป็นคนธรรมดา ไม่ก้าวร้าว ไม่เสพยาบ้าตอนเด็ก ๆ นายแจ็คจะอยู่กับยาย พ่อเสียชีวิต ส่วนแม่ไปทำงานที่ จ.พิษณุโลก และต่อมานายแจ็ค ได้ทำงานที่ฟาร์มหมูกับลุงได้เงินเดือน 8,500 บาท และแอบหนีมาเที่ยว แล้วมาก่อเหตุ

ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเพราะเหตุอะไร และก็ไม่ค่อยได้คลุกคลีกับนายแจ็ค เพราะต่างคนต่างอยู่ แต่หลังทราบข่าวว่านายแจ็คก่อเหตุไล่แทงผู้หญิงและเด็กตกใจมาก ซึ่งทางแม่นายแจ็ค ก็รู้เรื่องแล้ว และกำลังเดินทางมาจาก จ.พิษณุโลก

ทั้งนี้ ตนช่วยได้ก็แค่มาเยี่ยมและให้กำลังใจ แต่จะไม่ประกันตัว ไม่ต่อสู้คดี แต่ให้เป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย เพราะรู้ว่าผู้ที่สูญเสียคงจะเสียใจมาก เพราะหากเป็นตนก็เสียใจเช่นกัน ส่วนเรื่องที่นายแจ็คเล่นของได้ยินแต่ญาติเขาพูดกันว่าแจ็คเล่นของ ซึ่งอาจจะเป็นไปได้ เพราะคุณตาของแจ็คเป็นชาวบุรีรัมย์ และเล่นของเขมร หลังจากคุณตาเสียชีวิตของขลังและหนังสือจะอยู่บนหิ้งพระภายในบ้านแจ็ค อาจจะไปจับไปเล่นหรือไปรับเอาของขลังของตาจนทำให้ของเข้าตัวเองก็เป็นได้ ในฐานะที่เป็นญาติผู้ต้องหาไม่รู้ว่าจะสรรหาคำไหนไปขอโทษให้ผู้สูญเสียสบายใจเพราะมันเกิดขึ้นแล้ว ตนไม่อยากให้มันเกิด

ส่วนหลังจากที่ พ.ต.ท.ผลิตอรัญ บุญมาตุ่น รองผกก.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี นำตัวนายอิธิพล ผู้ต้องหาออกมาจากห้องควบคุมมาทำการสอบปาคำ นายอิธิพลกล่าวอ้างว่าสักที่วัดดังในเขต อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี และวัดในเขตเทศบาลนครอุดรธานี และสักอักขระที่วัดมีชื่อแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลนครอุดรธานี ทำให้เกิดอาการของขึ้นคลุ้มคลั่งนั้น

ทีมข่าวเดินทางมาที่วัดโนนสว่าง ต.หมากหญ้า อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นวัดชื่อดังแห่งหนึ่งใน อ.หนองวัวซอที่ผู้ก่อเหตุกล่าวอ้างว่าเคยมาสักยันต์

พระครูพิพัฒน์ วิทยาคม หรือ หลวงพ่อเจริญ ฐานยุตโต เจ้าอาวาสวัดโนนสว่าง ผู้สืบสานตำราผึ้งพันน้ำมันหมื่น เปิดเผยว่า คุณสมบัติของการสักยันต์ขึ้นอยู่กับรอยสัก ซึ่งส่วนใหญ่จะช่วยเกื้อหนุนดวงชะตาทำให้อยู่ยังคงกระพัน เพื่อความเป็นสิริมงคล และเมตตามหานิยมโดยการสักยันต์ของทางวัดจะเกี่ยวกับทางธรรม หรือทางพระพุทธศาสนา ไม่มีร่างทรง และไม่ฤาษีมาเกี่ยวข้อง

โดยวิธีการสักยันต์ คือผู้ที่จะรับการสักต้องเตรียมขันห้า หรือขันแปดมาถวาย และเริ่มทำการสัก จากนั้นหลวงพ่อจะเป่าคาถาที่เกี่ยวกับรอยสักให้ เช่น ถ้าสักเกี่ยวกับมหานิยม ก็ท่องคาถามหานิยม และเป็นอันเสร็จสิ้นพิธีกรรม ส่วนใหญ่แล้วก่อนที่จะทำการสักต้องดูว่าสภาพจิตใจของผู้ที่จะรับการสัก เพราะถ้าคนไม่มีสติ หรือเป็นบ้า ก็จะไม่สักให้

ส่วนการสักหนุมาน มีหลายแบบ เช่น มหานิยม และอยู่ยงคงกระพัน ซึ่งทุกครั้งที่จะสักรูปหนุมานต้องเข้ามาสอบถามหลวงพ่อก่อน ว่าจะสักได้ไหม ของจะเข้าไหม เพราะผู้ที่สัก จิตใจจะต้องมั่นคงมาก เนื่องจากของแรงและเกิดผิดพลาดจะทำการรักษายาก ซึ่งรูปนี้ คนที่สักได้มีน้อยมาก ส่วนตัวที่พบครั้งล่าสุดคือเกือบ 30 ปีแล้ว

อีกทั้งรอยสักรูปหนุมานที่ปรากฏอยู่บนแผ่นหลังของผู้ก่อเหตุเป็นอักษรขอม แต่รอยสักของที่นี่เป็นอักขระอักษรธรรมโบราณอีสาน ทั้งนี้อาการของขึ้นจะเกิดจากการกระทำผิด เนื่องจากผู้ที่สักยันต์ มีข้อห้ามหลายประการ คือไม่ให้กินเนื้อสัตว์ 10 อย่าง ได้แก่ เนื้อมนุษย์ เนื้อช้าง เนื้อม้า เนื้อสุนัข เนื้องู เนื้อราชสีห์ เนื้อหมี เนื้อเสือโคร่ง เนื้อเสือดาว เนื้อเสือเหลือง และไม่ให้ดื่มเหล้า อีกทั้งห้ามเล่นชู้ เพราะจะไม่อยู่ยงคงกระพัน

โดยอาการของขึ้นคือจะตะเกียกตะกายไปมา และไม่ใช่ปรี่ไปฆ่าคนแบบที่ปรากฏในข่าว เพราะถ้าฆ่าคนน่าจะเกิดจากฤทธิ์ของยาบ้ามากกว่า ทั้งนี้ หากของขึ้นหรือรักษาของไม่ได้ วิธีการแก้คือให้นำขันห้า หรือ ขันแปดมาถวาย และอาบน้ำมนต์ รุ่งเช้าของวันต่อมา อาการก็จะดีขึ้น

ด้านพระอาจารย์ธวัชชัย กันตธรรมโม พระลูกวัด ผู้ปฏิบัติหน้าที่อาบน้ำมนต์ทำการสักยันต์ เปิดเผยว่า ตนไม่ทราบนายอิธิพล ผู้ก่อเหตุเคยมาที่นี่ไหม เพราะมีประชาชนเดินทางมาสักที่วัดแห่งนี้หลายคน และตอนที่เข้ามาสัก ก็ไม่ได้นำชื่อมายืนยันว่าเป็นใคร แต่ตนยืนยันว่าไม่ใช่รอยสักของวัดโนนสว่าง เพราะรอยสักของวัดแห่งนี้มีมาตั้งแต่โบราณ ถ้าดูจากอักขระจะเห็นได้ชัดเจนว่าเป็นคนละแบบกับของทางวัด

แม้แต่รูปร่างลักษณะของหนุมานก็แตกต่างกันเยอะมาก ของที่นี่จะไม่เหมือนที่อื่น คือมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งหลวงพ่อเจริญคิดค้นมาจากตำรา และมีมาอย่างยาวนานแล้ว อีกทั้งคาถาที่อยู่รอบรอยสัก ถ้าเป็นของภาคกลางจะเป็นตัวอักษรขอม ถ้าเป็นของทางวัดจะเป็นอักษรธรรม และการสักของแต่สถานที่จะลงอักขระเลขยันต์ไม่เหมือนกัน การวางตำแหน่งก็ไม่เหมือนกัน

ทั้งนี้ การสักยันต์มีหลายศาสตร์วิชา และหลายครูยาอาจารย์ ซึ่งทุกที่จะสักไม่เหมือนกัน แต่รอยสักจะไม่ผิดเพี้ยนกันมาก จึงบอกไม่ได้ว่ารอยสักที่ปรากฏอยู่บนแผ่นหลังของผู้ก่อเหตุ เป็นของจริงหรือของปลอม

อย่างไรก็ตาม การสักยันต์ขึ้นอยู่กับแรงศรัทธาด้วย ถ้ามีจิตศรัทธาที่ดีก็จะเกิดเป็นพุทธคุณที่ดี และทางวัดสักยันต์เพื่อสร้างสิ่งที่เป็นที่พึ่งจิตใจให้กับประชาชน ส่วนนายอิธิพลไม่น่าจะของขึ้นเพราะรอยสักหรือเล่นของ น่าจะคลุ้มคลั่งจากสารเสพติดมากกว่า

นายหาญ รักษาจิตร์ หรือ เณรแอ จอมขมังเวท เปิดเผยว่า หากดูจากพฤติกรรมของคนร้ายยืนยันได้ว่าเป็นเรื่องของไสยศาสตร์ ที่คนร้ายนั้นมีอาการแบบดังกล่าวเรียกว่า "ของขึ้น ของเข้าตัว" ซึ่งสามารถทำร้ายตัวเองและทำร้ายผู้อื่นได้ โดยผู้ที่ของขึ้นจะไม่รู้สึกตัว การแก้ต้องใช้มีดหมอลงอาคมนำมาปลุกเสกน้ำมนต์เพื่อล้างถอดถอน

โดยคนที่ของขึ้นมักเป็นพวกที่ไปสักยันต์ในเชิงเดรัจฉานวิชา และไม่ได้ปฏิบัติตามครูบาอาจารย์ เช่น ผิดศีล ดื่มเหล้า กินฟักแฟง รอดราวตากผ้า พวกที่ละเมิดข้อห้ามก็จะทำให้ของขึ้น การของขึ้นไม่ใช่โรคจิตแต่เป็นเรื่องของไสยศาสตร์ ส่วนคนที่ไปทำร้ายคนอื่น ก็ต้องรับโทษทางกฎหมาย ต้องติดคุก

การที่ใครสักยันต์มาก็ต้องปฏิบัติตามครูบาอาจารย์ ทุกอย่างมีครูต้องถือศีลอยู่ในศิลธรรม คนร้ายเห็นว่าทำงานอยู่โรงเชือดหมู แบบนี้ก็ถือว่าผิดแล้ว ชีวิตก็จะเกิดวิบัติขึ้น โดยการที่ของขึ้นจะไม่ได้ระบุวันเวลาได้ มันจะระเบิดออกมา วันเกิดเหตุ วันเสาร์ 5 ถือเป็นวันแรง ที่หากใครทำดีก็ดีไปเลย ส่วนใครที่ร้านก็จะร้ายหนัก

หลังการทำพิธีถอดถอนแล้ว คนที่คลุ้มคลั่งจะเริ่มมีสติถึงยันต์จะอยู่แต่จะเป็นเสือสิ้นลาย คือไม่มีอาคมใด ๆ ยุคสมัยนี้ตนเองยังยืนยันว่าเรื่องไสยศาสตร์ยังมีอยู่ ของที่มองไม่เห็นยังมีอยู่

ด้านนายไพบูลย์ ฝันคอง อายุ 61 ปี ลุงของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเรื่องยังไม่มีญาติคนไหนติดต่อมา ขณะนี้ตนยังไม่ได้เข้าไปเยี่ยมผู้ก่อเหตุ เพราะยังไม่ว่าง อีกทั้งตนไม่ได้เกี่ยวข้องกันแล้ว ทั้งนี้ ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่สายเลือดโดยตรง ตนก็ยังรู้สึกผูกพันอยู่ เพราะช่วยดูแลและให้งานทำมาหลายครั้งแล้ว แต่ตนไม่ขอประกันตัว เพราะผู้ก่อเหตุมาอยู่ที่นี่ในฐานะลูกจ้างของตน

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนรู้สึกโกรธ ยิ่งเปิดดูข่าวจากเฟซบุ๊ก และเจอแต่ข่าวของผู้ก่อเหตุก็ได้แต่นึกในใจว่า "บักชาติชั่ว อยู่ดี  ไม่รักดี" ทั้งนี้ ตนคงจะไม่ไปงานศพ เพราะลูกจ้างไปก่อเหตุ ไม่ใช่ลูกของตัวเอง จึงไม่ได้มีหน้าที่ที่จะต้องไปแทน ส่วนเรื่องของการประหารชีวิต ตนมองว่าขึ้นอยู่กับเวรกรรม และขอให้เป็นดุลพินิจของศาลถ้าสมควรประหารก็คงจะต้องว่าไปตามนั้น

นอกจากนี้ ญาติของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บเห็นตรงกันว่า ผู้ก่อเหตุควรได้รับโทษสูงสุดถึงขั้นประหารชีวิต