จากกรณีคนขับแท็กซี่ฝ่าไฟแดง ชนเก๋งเลือดคั่งเป็นเจ้าชายนิทรา ซึ่งมีนายสมภพ ราชา อายุ 24 ปี เป็นคนขับ ฝ่าไฟแดงมาด้วยความเร็วก่อนชนเข้าอย่างแรง บริเวณแยกทางด่วนสุขาภิบาล 5 กรุงเทพฯ จนทำให้นายกนก ธงไชย อายุ 42 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส เลือดคั่งในสอง ส่วนคนขับแท็กซี่หลังเกิดเหตุหลบหนีไป โดยไม่มีการลงมาช่วยเหลือแต่อย่างใด
โดยหลังจากที่นายสมภพทนต่อกระแสสังคมไม่ไหว จึงจึงติดต่อขอเข้ามอบตัวกับ สน.คันนายาว เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา พร้อมกับยื่นขอรับการปล่อยตัวชั่วคราว
ต่อมาหลังจาก นายสมภพ ได้ประกันตัวไปแล้ว กลับมีพฤติกรรมหลบหนี บ่ายเบี่ยงไม่ยอมรับผิดชอบค่าเสียหาย พร้อมกับไม่ยอมมารายงานตัวตามกำหนดนัดหมายของศาล จนถูกออกหมายจับ
วันที่ 8 ธ.ค.63 ที่กองบังคับการปราบปราม พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1 บก.ป., พ.ต.ท.เจตนิพัฒน์ ศิริวัฒน์ สว.กก.1 บก.ป. นำกำลังจับกุม นายสมภพ ราชา อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญามีนบุรี ข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส และทรัพย์สินผู้อื่นได้รับความเสียหาย จับกุมได้ที่หน้าโรงงานผลิตอาหารเนื้อสัตว์แห่งหนึ่งใน ต.บางยอ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ
นางพิรุฬห์ลักษณ์ ธงไชย์ แม่ของผู้เสียหาย เล่าว่า วันเกิดเหตุ ตนได้รับโทรศัพท์ว่าลูกชายประสบอุบัติเหตุ ไม่ตกใจ แต่ทราบว่าอยู่โรงพยาบาล เบื้องต้นเห็นสภาพลูกไมคิดว่าจะหนักขนาดนี้ ซึ่งทางหมอวินิจฉัยว่าอาการเลือดคั่งในสมอง ทางหมอบอกว่าไม่น่าจะรอด ถ้ารอดก็เป็นเจ้าชายนิทรา อาการจากวันนั้นถึงวันนี้ ถือว่าเป็นปาฏิหาริย์จริง ๆ
ตนคิดว่าส่วนหนึ่งจากการรักษาซึ่งระยะเวลาจาก วันที่ 15 ส.ค. 62 ถึงวันนี้ ประมาณ 1 ปี 3 เดือน อาการดีขึ้น ซึ่งล่าสุดก็แข็งแรงขึ้น สภาพกายดีขึ้นโดยตอนนี้สามารถเดินได้คล่องมากขึ้น พิมพ์คอมพิวเตอร์ได้ จากเริ่มต้นที่ย้ายออกจากโรงพยาบาลมาอยู่บ้าน 2 เดือน ก็เริ่มกรอกตา เริ่มขยับมือ แขน ขา และเริ่มพูดได้
โดยค่าใช้จ่ายทั้งหมดตลอดช่วงที่อยู่ในโรงพยาบาล ทั้งหมดประมาณ 5 แสนบาท ด้านประกันของแท็กซี่ได้มีการช่วยเหลือประมาณ 3 แสนบาท และทางครอบครัวอีกประมาณ 2 แสนบาท
โดยทางครอบครัวเพิ่งทราบว่าจับคนร้ายได้วันนี้ ครอบครัวอยากให้ผู้กระทำผิดรับผิดชอบในสิ่งที่เราเสียไป เรื่องชีวิตของลูกชาย งานที่เขาเคยทำเดือนละ 30,000-40,000 บาท และคนที่รัก ชีวิตครอบครัวแตกสลาย โดยทางครอบครัวก็สงสารแท็กซี่เหมือนกันแต่เพียงแค่อยากให้มาเยี่ยมทางครอบครัวเราบ้าง อยากให้มาดูแลครอบครัวเราบ้าง แต่เขาไม่เคยเข้ามาเยี่ยมทางครอบครัวเลย
โดยทางคดี ทางครอบครัวมีญาติเป็นทนายจึงได้มีการให้การช่วยเหลือ ครอบครัวไม่ได้ต้องการให้ให้ช่วยเหลือโดยการบริจาคหรืออะไร แต่เพียงแต่แค่ต้องการให้ลูกชายได้มีงานทำเพื่อช่วยเหลือครอบครัว