วันที่ 11 ธ.ค. 63 นายธงชัย คำยา อายุ 41 ปีชาวบ้านบ้านขุนทอง หมู่ 1 ต.ขุนทอง อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา พาผู้สื่อข่าวดูหินสีดำที่เก็บสะสมไว้ภายในบ้าน พบว่าเป็นหินสีดำหลากหลายรูปแบบที่เอาแม่เหล็กมาดูดแล้วติดได้ ซึ่งเป็นหินแปลกมาก ที่ทางนายธงชัยได้พบบริเวณไร่มันในยามดึก เป็นแสงตกจากฟากฟ้าก่อนลงที่บริเวณไร่มัน จึงไปดูพบเป็นหินดังกล่าวจำนวนหลายก้อน เก็บมาไว้ที่บ้านและสะสมไว้ เชื่อว่าน่าจะนำโชคลาภ
นางธงชัยนำก้อนหินมาให้ทีมข่าวอมรินทร์ทีวีดู เป็นหินสีดำจำนวน 12 ก้อน มีหลากหลายขนาด และหลากหลายรูปแบบแตกต่างกันไป
นายธงชัย เล่าว่า เมื่อประมาณ 1 ปีที่แล้ว ตนเองได้ไปหากบที่ไร่มันสำปะหลัง ด้านหลังบ้านของตัวเอง ระหว่างที่ส่องไฟจับกบ ราวตี 3-4 ตนเองก็เห็นลำแสงปริศนาเป็นแสงสีแดง ประกายส้มทอง ลอยเป็นเส้นตรงลงมาจากท้องฟ้า แล้วมาตกที่ไร่ของตนเอง จากนั้นตนจึงวิ่งไปดูบริเวณที่แสงดังกล่าวตก ก็พบว่ามีก้อนหิน ลักษณะยาวคล้ายปลัดขิกอยู่กับพื้นดิน ตนจึงมีความเชื่อว่าหินดังกล่าวเป็นหินของอุกาบาต และสามารถให้โชคลาภตนเองได้
หลังจากนั้นมา เวลาที่ตนไปไถนาที่ไร่มันสำปะหลัง ก็จะพบเห็นสีดำแบบนี้อยู่อย่างต่อเนื่อง โดยเวลา 1 ปี ตนเจอหินสีดำเหล่านี้ทั้งหมด 12 ก้อน ซึ่งตนก็แปลกใจอยู่ว่าทำไมหินเหล่านี้ถึงมาปรากฏแต่ในไร่ที่ดินของตนเอง
ตั้งแต่ตนได้หินทั้ง 12 ก้อนนี้มา ตนก็จะนำไปไว้ที่หิ้งพระชั้น 2 ของบ้าน และจากนั้นมาเวลา 1 ปีที่ตนรักษาหินไว้ พ่อตาของตนก็จะชอบฝันเห็นงูสีขาวตัวใหญ่ ปรากฏในบ้านของตนอีกด้วย ซึ่งที่ผ่านมาพ่อตาก็เสี่ยงโชคลาภ และเคยถูกรางวัลเลขท้าย 2 ตัวมาแล้วหลายครั้ง
จากการที่ตนติดตามข่าว ตนก็คาดการณ์ว่าหินเหล่านี้คือหินอุกาบาต เพราะมีคุณสมบัติดูดกับแม่เหล็กติด หลังจากนี้ อยากให้นักวิทยาศาสตร์หรือผู้เชี่ยวชาญเรื่องหินให้ความรู้กับตนว่าหินดังกล่าวคือหินชนิดใด ซึ่งถ้าหินดังกล่าวนี้คือหินอุกาบาตจริง ตนก็จะเก็บรักษาไว้ หรือใครอยากได้ก็สามารถมาติดต่อกับตนได้ ส่วนตัวแล้วก็ไม่ได้สนใจกับคนที่จะหาว่าตนงมงาย ตนก็ถือว่าเป็นความคิดของแต่ละบุคคล
ด้าน รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อาจารย์อ๊อด อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ให้ข้อมูลว่า หินดังกล่าวคือหินในกลุ่ม "ซิลิกอนไดออกไซด์" จะพบเห็นได้ทั่วไป แม้ตนเองก็ยังมี เพราะหินดังกล่าวนี้ ก็ยังมีขายในเว็บไซต์ทั่วไป เช่น ลาซาด้า เป็นหินที่เกิดจากสะเก็ดดาวและมาจากนอกโลกจริง
ส่วนกรณีที่ชาวบ้านเก็บหินนี้ได้ ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่โชคดี เพราะไม่ใช่ว่าจะมีหินนี้ได้ทุกคน ถ้าเป็นจังหวัดที่อยู่ตามไหล่เขา จะสามารถเจอได้จำนวนมาก จึงมีคนนำมาทำเป็นการค้า ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ก้อนละ 100 บาท ซึ่งหนิดังกล่าวนี้ไม่ใช่หินพิเศษแต่อย่างใด เป็นเพียงแค่สะเก็ดดาวทางดาราศาตร์เรียกว่า "อุลกมณี"
Advertisement