"สันธนะ" หอบหลักฐานร้องกองปราบแจ้งความเอาผิด "บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์" ด้าน"เสี่ยโป้" เผย ยังติดใจกรณีเสื้อชมพู ตัดพ้อหมดความไว้ใจ หากทำบุญต่อไปจะทำเอง วอนให้พูดความจริง
วันนี้ (14 ธ.ค.) นายสันธนะ และ "เสี่ยโป้" เดินทางมาที่กองปราบปราม เพื่อนำหลักฐานมาแจ้งความดำเนินคดีกับ นายบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ เกี่ยวกับการบริจาคเงินซื้อเสื้อสีชมพูของโรงพยาบาลศิริราช เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. ที่ผ่านมา ในข้อหาพยายามฉ้อโกง และพ.ร.บ คอมพิวเตอร์ ให้ตำรวจสืบสวนสอบสวนถึงที่มาที่ไปการรับบริจาค
ทั้งนี้ นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตรองผู้กำกับตำรวจสันติบาล ระบุว่า วันนี้ได้เดินทางมายังกองบังคับการปราบปราม พร้อมนำเอกสารหลักฐานและพยานบุคคล เพื่อให้ดำเนินคดีกับ นายบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ในข้อหาพยายามฉัอโกง เรี่ยไรเงินโดยไม่ได้รับอนุญาต พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และแอบอ้างสถาบันเพื่อแสวงหาประโยชน์ส่วนตัว เนื่องจากมองว่าพฤติกรรมของนายบิณฑ์ ที่ขอรับเงินบริจาค 2 ล้านบาท พร้อมทั้งมีการแอบอ้างว่าได้รับอนุญาตในการจำหน่ายเสื้อสีชมพู
ทั้งที่ขั้นตอนการขอรับบริจาคของโรงพยาบาลศิริราช มีขั้นตอนชัดเจนอยู่แล้ว และต้องนำหลักฐานการโอนต่างๆ ส่งให้กับโรงพยาบาลก่อนมีการรับเสื้อ แต่นายบิณฑ์กลับให้โอนเข้าบัญชีส่วนตัวแทน นอกจากนี้นายบิณฑ์ ยังมีเสื้อสีชมพูอยู่แล้วกว่า 3 แสนตัว ซึ่งไม่ทราบที่มาที่ไปของเสื้อดังกล่าว
วันนี้จึงได้นำพยานหลักฐานเอกสาร และพยานบุคคลจำนวนหนึ่งที่ทราบข้อเท็จจริง มาให้ตำรวจสอบสวนปากคำ ส่วนนายนิรันดร ซึ่งถูกพาดพิงว่าเป็นผู้จัดทำเสื้อ ได้พูดคุยกันแล้ว ก็ยืนยันว่าพร้อมจะเข้าให้ปากคำกับตำรวจในฐานะพยานเช่นกัน
นายสันธนะ ยังได้ระบุว่า ตนได้ติดต่อกับนายบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 25 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยขอให้บิณฑ์ออกมาชี้แจงเรื่องของการรับเงินบริจาค นอกจากนี้ยังยืนยันว่าไม่เคยรู้จักกันเป็นการส่วนตัว ที่ออกมาดำเนินคดีในครั้งนี้ไม่มีใครเป็นคนบงการอยู่เบื้องหลัง และตนไม่ได้รับผลประโยชน์ใดๆ จากเรื่องนี้ เพราะคนที่ได้ผลประโยชน์คือสังคม
ขณะที่ นายเสี่ยโป้ โป้อานนท์ ได้เดินทางมาภายหลัง และให้สัมภาษณ์ เปิดเผยว่า วันนี้มาให้ปากคำในฐานะพยาน หลังจากที่นายสันธนะได้เข้ามาแจ้งความ 4 ข้อหาต่อนายบิณฑ์ ยืนยันว่านายบิณฑ์ เป็นฝ่ายเรียกร้อง ให้ตนเองไปออกสื่อ เพื่อเคลียร์กรณีเงินบริจาคเสื้อสีชมพู ซึ่งกรณีนี้ตนเองไม่ได้อยากจะเกี่ยวข้อง เพราะเป็นเรื่องของสูงเกี่ยวกับสถาบัน และรู้สึกลำบากใจ ที่ต้องมาอยู่ตรงกลางระหว่างนายสันธนะ และนายบิณฑ์ เพราะจะต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นคนที่เสียหาย
ยืนยันว่าตนยังคงติดใจในเรื่องที่นายบิณฑ์ทำเสื้อสีชมพูมาถึง 3 แสนตัว แต่คุณหมอที่เป็นเจ้าของโครงการ เปิดเผยว่าทำมาเพียงแค่ 2 แสน 4 หมื่นตัวเท่านั้น จึงต้องการต้องการให้นายบิณฑ์ ได้ออกมาอธิบายให้สังคมได้เข้าใจในประเด็นนี้
เสี่ยโป้ ยังบอกอีกว่า หลังจากนี้หากนายบิณฑ์ มีโครงการรับบริจาคอะไรอีก ตนเองจะไม่ไปร่วมทำบุญด้วย หากตนเองจะทำบุญก็ทำเอง ทำแบบเงียบๆ ไม่บอกใคร และถ้าในอนาคตจะติดต่อนายบิณฑ์ ก็จะติดต่อเองไม่ผ่านใครทั้งสิ้น