จากกรณีที่สื่อประเทศไต้หวัน นำเสนอข่าวนักท่องเที่ยวสาวชาวไต้หวัน เดินทางมาเที่ยวประเทศไทย และได้เข้าไปใช้บริการที่ร้านนวดแผนไทยแห่งหนึ่งย่านสุขุมวิท 23 ก่อนถูกพนักงานนวดข่มขืนภายในร้าน ซึ่งกลายเป็นข่าวใหญ่บนหน้าหนังสือพิมพ์หลายฉบับ และยังมีการระบุว่าคดีไม่มีความคืบหน้า และพนักงานปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยเมื่่อวานนี้ (15 เม.ย.) ตำรวจ สน.ทองหล่อ ได้ควบคุมตัว นายภูริวัฒน์ อายุ 27 ปี มาสอบปากคำและส่งตัวไปตรวจร่างกาย ก่อนจะปล่อยตัวไป
วันนี้ (16 เม.ย.) ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ลงพื้นที่ ซอยสุขุมวิท 23 เพื่อเดินทางไปที่ร้านนวดที่เกิดเหตุ และได้พูดคุยกับคุณฝ้าย เจ้าของร้าน ได้เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้มีการสอบถามจากพนักงานนวดรายดังกล่าวแล้ว และยอมรับว่ามีอะไรกับลูกค้าจริง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 เม.ย. ที่ผ่านมา
แต่พนักงานอ้างว่าลูกค้าสมยอม ซึ่งทางร้านขอตรวจสอบข้อเท็จจริง และให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามขั้นตอน เพราะตนตั้งข้อสังเกตว่า หากลูกค้าถูกข่มขืนจริงๆทำไมจึงไม่ร้องขอความช่วยเหลือ อีกทั้งยังลงมาจ่ายเงินและให้ทิปพนักงาน 100 บาท อีกด้วย ซึ่งแสดงถึงความพึงพอใจหรือไม่ และเมื่อกลับไปก็ยังไม่ไปแจ้งความในทันที แต่ไปแจ้งในวันรุ่งขึ้น
คุณฝ้าย ได้พาทีมข่าวเดินขึ้นไปสำรวจยังจุดเกิดเหตุบริเวณชั้น 2 ซึ่งเป็นห้องนวดตัว เป็นห้องกว้าง มีที่นอนสำหรับลูกค้านอนนวดตัวจำนวน 5 ที่ วางห่างกันประมาณ 25 เซนติเมตร ซึ่งจะมีผ้าม่านรูดปิดเวลาที่ลูกค้าเปลี่ยนเสื้อผ้า และตอนนวดจะเปิดผ้าม่านออกทั้งหมด โดยจุดที่เกิดเหตุคือที่นอนที่อยู่ติดริมกระจก ในวันเกิดเหตุไม่มีลูกค้าคนอื่นอยู่ในห้อง แต่หากลูกค้าร้องขอความช่วยเหลือจะได้ยินลงไปถึงข้างล่าง หรือดิ้น หรือทุบที่พื้นแบบขัดขืน ก็จะได้ยินเสียงดังลงมาข้างล่าง หรือแม้แต่ตอนที่ผู้สื่อข่าวเดินอยู่ข้างบน ก็ยังสามารถได้ยินเสียงพื้นไม้ แต่ตนสอบถามจากพนักงานคนอื่นๆที่อยู่ในร้าน ซึ่งก็ไม่มีใครได้ยิน อีกทั้งลูกค้ายังเดินลงมาจ่ายเงินตามปกติ และมีการให้ทิปอีกด้วย
คุณฝ้าย กล่าวย้ำว่า ถึงแม้พนักงานจะอ้างว่าลูกค้าสมยอม แต่นั่นก็คือการทำผิดกฎของร้าน ซึ่งมีกฎอยู่แล้วว่าห้ามร่วมเพศภายในร้าน หลังจากคดีเสร็จสิ้น ก็จะต้องมาคุยกันถึงเรื่องนี้ว่าอาจจะพักงาน หรือคาดโทษอย่างไร ส่วนเรื่องทางคดี หากมีการข่มขืนจริง ก็คงจะต้องไล่พนักงานออก แต่หากไม่ได้ข่มขืน ทางร้านก็เตรียมจะฟ้องลูกค้าคนดังกล่าว ที่ทำให้ทางร้านเสียหาย เพราะเป็นข่าวใหญ่บนหนังสือพิมพ์ทุกฉบับที่ประเทศไต้หวัน ทำให้ทางร้านเสียชื่อเสียงอย่างมาก เพราะร้านมักจะมีคนต่างชาติมาใช้บริการ และเป็นที่รู้จักของชาวต่างชาติ ซึ่งเปิดให้บริการมาหลายสิบปีแล้ว
ด้าน พ.ต.ท.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ รอง ผกก.สส.สน.ทองหล่อ ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวผ่านทางโทรศัพท์ว่า เมื่อวานนี้ได้เชิญตัวผู้ต้องหาเข้ามาสอบปากคำ และแจ้งข้อหากระทำอนาจาร ซึ่งผู้ต้องหาปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยอ้างว่าลูกค้าสมยอม อย่างไรก็ตามจะต้องมีการรวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งที่เกิดเหตุ รวมถึงรอผลการตรวจร่างกายของแพทย์ด้วย