เสี่ยเงินกู้โหดตบสาวด้วยปืน เหยื่อแฉกราบเท้ายังจะฆ่า แจงไม่จ่ายหนี้มือถือเสีย (คลิป)

กรณีมีคลิปวงจรปิด นายทุนคนหนึ่งชื่อว่า "เสี่ยแพร" ซึ่งเดินเข้ามาที่สนามฟุตบอลหญ้าเทียมพร้อมกับหญิงสาวอีกคน ก่อนจะเข้าไปกระชากผม น้องมายด์ (นามสมมติ) สาวพีอาร์ที่กำลังทำงานอยู่ขอบสนาม แล้วลากออกมาที่บริเวณลานจอดรถด้านหน้าทางเข้า

ทั้งนี้ชายดังกล่าวยังได้หยิบอาวุธปืนสั้นสีดำ ทราบภาบหลังว่าเป็นปืนบีบีกันออกมาทุบที่ใบหน้า และศีรษะของสาวพีอาร์ ก่อนจะตบและเตะเสยหน้า จนสาวพีอาร์หงายหลังลงไปนอนกับพื้น พร้อมสั่งให้กราบเท้า

ก่อนเวลาจะผ่านไปเกือบ 5 นาที มีชายสวมใส่ชุดกีฬาสีน้ำเงิน ทราบภายหลังเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองขอนแก่น พร้อมเพื่อน ๆ เข้ามาช่วยเหลือก่อนจะแจ้งสายตรวจมาควบคุมตัวชายดังกล่าวไปสอบสวนที่ สภ.เมืองขอนแก่น ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นวันที่ 12 ธ.ค.63 ที่ผ่านมานั้น

ล่าสุดวันที่ 14 ธ.ค.63 น.ส.มายด์ ผู้บาดเจ็บ ได้เดินทางมาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สภ.เมืองขอนแก่น ซึ่งให้ปากคำตั้งแต่เวลา 13.00 น. ถึงเวลา 17.30 น. รวมเวลา 5 ชั่วโมงครึ่ง

โดยหลังการให้ปากคำ น.ส.มายด์ เล่าว่า วันเกิดเหตุเสี่ยแพร ได้ไปหายายของตนที่บ้าน แล้วไม่เจอตน ก่อนจะเดินทางมาที่สนามฟุตบอลหญ้าเทียมและทำร้ายตน พร้อมกับขู่ตนว่า ไม่อยากได้เงินแล้ว "กูจะเอาชีวิต" กระทั่งเสี่ยแพรได้เข้ามาทำร้ายตน ตามคลิปในกล้องวงจรปิด ช่วงแรก ๆ ที่รู้จักกัน ตนกู้เงินกับเสี่ยแพรในยอดเงินจำนวนไม่มาก หลักพันถึงหมื่น และตนก็ใช้หนี้มาตลอด กระทั่งตนกู้เงินเสี่ยแพรในเงินจำนวนมากขึ้น

สำหรับเงินกู้จำนวนมากที่ตนกล่าวไปนั้น ตนกู้เงินกับเสี่ยแพรก้อนแรก 40,000 บาท และก้อนที่ 2 จำนวน 80,000 บาท โดยเริ่มกู้หนี้ตั้งแต่ ธ.ค.62 และมีการเซ็นสัญญากัน ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าทำไมในสัญญา เสี่ยแพร ถึงระบุว่าตนกู้เงิน 130,000 บาท ทั้งที่ตนกู้แค่ 120,000 บาท

โดยเสี่ยแพร จะคิดดอกเบี้ยกับตนร้อยละ 20 ช่วงแรกตนจะจ่ายหนี้ให้เขา 5 วัน จ่าย 10,000 บาทมาตลอด ไม่รู้ว่าตอนจ่ายเป็นเงินต้นหรือดอกเบี้ย แต่จ่ายมาตลอด กระทั่งช่วงหลังมาตนหมุนเงินไม่ทัน ช่วงเดือน ก.ค.63 จึงเริ่มมีปัญหาในการจ่าย หรือจ่ายช้าบ้าง แต่ตนก็ไม่ได้หายไปไหน ช่วงที่มีปัญหา แม่ของตนได้ไปขอเจรจากับเสี่ยแพร ขอจ่ายหนี้เดือนละ 5,000 แต่เขาก็ไม่ยอม บอกว่าต้องจ่ายเดือนละ 10,000-20,000 บาทขึ้นไป แต่ตนไม่มีเงินมากถึงขนาดนั้น

สำหรับตนรู้จักกับนายแพร ผ่านมางเฟชบุ๊กก่อนจะกู้เงินกับเขา ส่วนเงินที่เสี่ยแพรนำมาให้ตนกู้นั้น เขาบอกกับตนว่าเขาหุ้นเงินกับเพื่อน ส่วนความสัมพันธ์ของตนกับเสี่ยแพร ไม่ได้เกินเลยในเชิงชู้สาว เพราะตนไม่ชอบผู้ชาย แต่ตนชอบสาวหล่อ 

เหตุที่เกิดขึ้นตนถือว่าเขาทำเกินกว่าเหตุ ตนติดหนี้เขาตนยอมรับผิดในส่วนนี้ แต่เขาไม่มีสิทธิ์ทำร้ายร่างกายตน และส่วนที่ตนบาดเจ็บตนก็ไม่นอม ตนจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เพราะตนก็เป็นลูกมีพ่อมีแม่ ทางครอบครัวตนก็ไม่ยอม สำหรับบาดแผลของตนที่โดนนายแพรทำร้ายนั้น คือ ตาด้านซ้ายปูดบวม กรามอักเสบ ข้อมือซ้ายอักเสบ เจ็บปวดที่แผ่นหลัง

นางเฟื่องฟ้า (นามสมมติ) แม่ของน.ส.มายด์ ให้สัมภาษณ์กับทีมช่าวอมรินทร์ ทีวี ว่า ก่อนเกิดเหตุเสี่ยแพร ผู้ก่อเหตุ พร้อมด้วยผู้หญิงคนหนึ่ง ได้เข้าไปหายายของน้องมายด์ ซึ่งเป็นแม่ของตนที่บ้าน พอไม่เจอน้องมายด์ เขาถึงไปหาน้องที่สนามฟุตบอล และไปก่อเหตุดังกล่าว ที่ผ่านมาลูกสาวก็เล่าให้ตนฟังตลอดว่า เขาไปกู้หนี้เสี่ยแพรมา และตนก็รับรู้มาตลอด ลูกสาวไม่เคยปิดบัง ไม่เคยโกหก

โดยหลังเกิดเหตุลูกสาวส่งคลิปวิดีโอมาให้ตนดู ตนยอมรับเลยว่า ตอนนั้นไม่กล้าที่จะดูคลิป ตนรู้สึกรับไม่ได้ คุณกระทำกับผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ได้ถึงขนาดนี้ จิตใจคุณทำด้วยอะไร ซ้อมเขาได้ถึงขนาดนั้น ทั้งเอาปืนตบหน้า ทั้งให้ลูกสาวก้มกราบเท้าคุณ ตนเห็นสุนัขโดนเตะตนยังรู้สึกแย่ แต่คุณกระทืบคนทั้งคน ทำได้อย่างไร

ประโยคในที่เสี่ยแพรพูดขู่ลูกสาวว่า "กูไม่ได้มาทวงเงิน กูมาเอาชีวิต" ทำให้ตนรู้สึกกลัวเสี่ยแพรไปเลย และตอนนี้ครอบครัวตนก็อยู่กันอย่างหวาดผวา กลัวว่าจะเป็นคนมีสี มีอิธิพลเข้ามาทำร้ายซ้ำ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนถือว่าลูกสาวโชคดีที่ มีเทวดามาโปรด มาช่วยลูกสาว ตำรวจที่ช่วยในคลิป ถ้าไม่มีใครช่วยลูกสาว ลูกสาวตนคงไม่รอด ตนจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ส่วนเรื่องหนี้ ตนก็ให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวเสี่ยแพร โดนดำเนินคดีแค่ข้อหาทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือตกใจโดยการขู่เข็ญ ปรับเป็นเงิน 1,000 บาท แล้วได้รับการปล่อยตัวไป ในส่วนข้อหาทำร้ายร่างกายนั้นทางตำรวจ บอกว่า ต้องรอผลตรวจจากแพทย์ ประมาณ 1 เดือน จึงจะสามารถแจ้งข้อหาได้ 

น.ส.มะระ (นามสมมติ) ชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์ ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ว่า วันเกิดเหตุตนอยุ่ในเหตุการณ์ เนื่องจากวันนั้นมีงานเลี้ยงรุ่น มีคนอยู่ในงาน 400 คน ตอนแรกน.ส.มายด์ ผู้บาดเจ็บ ยืนทำงานพีอาร์อยู่ซุ้มขายเบียร์ สักพักเสี่ยแพร ผู้ก่อเหตุ ก็ได้เดินมาพร้อมกับผู้หญิงคนหนึ่ง แล้วเข้ามากระชากน้องออกมาจากซุ้มเบียร์ที่ทำงานอยู่ ตอนแรกตนคิดว่าเป็นเรื่องชู้สาว แฟนทะเลาะกันปกติ

กระทั่งต่อมาฝ่ายชายตบตีและทำร้ายร่างกายฝ่ายหญิงหนักขึ้น โดยฝ่ายชายถืออาวุธปืนขึ้นมาทำร้ายฝ่ายหญิง และให้ฝ่ายหญิงกราบเท้า พร้อมกับพูดว่า "กูไม่เอาเงินแล้ว กูจะเอาชีวิต" ซึ่งตอนที่เกิดเหตุตอนแรกไม่มีใครกล้าเข้าไปห้าม เนื่องจากฝ่ายชายมีอาวุธปืน กลัวจะโดนลูกหลง กระทั่งสักพักหนึ่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาเตะบอลในงานเลี้ยงรุ่น จึงได้เข้าไประงับเหตุดังกล่าว

ส่วนตัวแล้วตนไม่เคยรู้จักเสี่ยแพร และไม่เคยเห็นหน้าเขามาก่อน ส่วนฝ่ายหญิงตนพอเคยเห็นเขามาทำงานพีอาร์ที่สนามอยู่เรื่อย ๆ ตนอยากจะถามฝ่ายคนก่อเหตุว่า ทำไมเขาถึงทำร้ายฝ่ายหญิงได้ถึงขนาดนี้ ทั้งที่วันเกิดเหตุเขาก็ไม่ได้หนี

ทีมข่าวได้โทรศัพท์ไปหาเสี่ยแพร พูดสั้น ๆ ว่า "ยังไม่สะดวกให้ข้อมูลครับ" ก่อนตัดสายทีมข่าวไป

ทีมข่าวเดินทางมายังสนามบอลที่เกิดเหตุ พบว่าจุดเกิดเหตุเป็นบริเวณพื้นปูนฝั่งด้านหน้าสนามบอล จะอยู่ห่างจากสนามบอลประมาณ 10 เมตร ซึ่งวันเกิดเหตุโชคดีที่มีชายสวมใส่ชุดกีฬาสีน้ำเงิน ทราบภายหลังเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองขอนแก่น พร้อมเพื่อน ๆ เข้ามาช่วยเหลือน้องทายด์ ก่อนจะแจ้งสายตรวจมาควบคุมตัวชายดังกล่าวไปสอบสวนที่ สภ.เมืองขอนแก่น