เปิดใจ “เจ๊ปากแดง” ตัวจริงสุดแบ๊วโชว์หลักฐานหนี้ท่วม แฉเหยื่อขาไฮโลกุข่าวหวังเชิด (คลิป)

จากกรณีตำรวจจับนางมาลี วรสวัสดิ์ หรือ ฉายาเจ๊ปากแดง อายุ 40 ปี พร้อมนายสุวพรรดิ์ ดำคลองตัน อายุ 46 ปี สามี, และนายอารยะ เล็กคู อายุ 31 ปี ลูกน้อง ซึ่งทั้งหมดเป็นแก๊งเงินกู้นอกระบบที่คิดดอกเบี้ยโหดตามคำกล่าวอ้าง และมีการส่งคนไปรุมกระทืบลูกหนี้ที่ไม่ชำระหนี้นั้น

วันที่ 14 ธ.ค. 63 นางดา (นามสมมติ) อายุ 34 ปี ลูกหนี้ที่ต้องหาเงินเลี้ยงครอบครัวเพียงลำพัง กู้เงินจากเจ๊ปากแดงเมื่อปี 2560 จำนวน 65,000 บาท ส่งดอกลอยวันละ 1,700 บาท เพื่อนำมาลงทุนค้าขายช่วงโควิด-19 ระบาดหนัก ขายของไม่ค่อยได้ จึงขาดส่งดอกเบี้ย

นางดา เล่าว่า ตกกลางคืนเวลาประมาณ 23.00 น. ของคืนหนึ่ง เจ๊ปากแดงและสามียกพวกมาประมาณ 7 คน เคาะประตูบ้านเรียกออกมาคุย ตนเปิดประตูออกไปก็มีชายคนหนึ่ง ทราบภายหลังว่าเป็นน้องชายเจ๊ปากแดง ใช้มือบีบคอตน ดันไปที่ขอบประตูบ้าน แล้วเจ๊ปากแดงถามว่า "มึงจะจ่ายกูไหม" ตนก็ตอบว่า "ตอนนี้ยังไม่มี" แต่เจ๊ปากแดงบังคับให้ตนไปหายืมเงินมาให้ทันที ตนหาเงินไม่ได้ เจ๊ปากแดงชี้หน้าข่มขู่ บอกว่า "พรุ่งนี้กูจะมาใหม่ มึงเตรียมหาเงินไว้ ถ้ายังไม่ได้มึงเจ็บ"

จากนั้น รุ่งเช้าตนจึงต้องเผ่นออกจากบ้านไปอาศัยอยู่ตามบ้านเพื่อน บางครั้งก็แอบหลบอยู่ในป่าสวนยาพารา รอจนกระทั่งค่ำจึงจะออกมานอนที่บ้าน ทุกวันนี้ก็ยังต้องอยู่อย่างหลบซ่อน

นางศรี (นามสมมติ) อายุ 65 ปี อาชีพทำนาและรับจ้าง เปิดเผยว่า ตนรู้จักกับเจ๊ปากแดง จากการแนะนำของเพื่อนปี 2559 ตนต้องการเงินทุน เพื่อให้ลูกชายขายของเร่ตามหมู่บ้าน จึงไปขอกู้มาจำนวน 43,000 บาท

ตนส่งดอกลอยวันละ 960 บาท โดยไม่ขาดส่งแม้แต่วันเดียว กระทั่งถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2563 เกิดสถานการณ์โควิด-19 การค้าขายฝืดเคือง จึงไม่มีเงินจะส่งดอกเบี้ย

ปรากฏว่าวันต่อมาเจ๊ปากแดงมาเก็บเงินพร้อมกับลูกน้อง เขาเห็นรถจักรยานยนต์ที่ลูกชายตนใช้สำหรับวิ่งขายของจอดอยู่ จึงเข้าไปยึด โดยตีราคาเป็นเงิน 7,000 บาท หักเป็นเงินที่ตนส่งดอกไป 2,000 บาท ที่เหลือ 5,000 บาท เจ๊ปากแดงยื่นคืนให้ตน และบอกว่าเก็บไว้พรุ่งนี้จะมาเอาคืน จากนั้น รุ่งเช้าตนหาเงินส่งดอกเบี้ยไม่ไหว จึงหนีไปอยู่กับญาติที่กรุงเทพฯ แล้วเพิ่งจะกลับมาเมื่อไม่กี่เดือนนี้

ด้านนางตั๊ก (นามสมมติ) อายุ 53 ปี อาชีพรับจ้าง และขายของ เปิดเผยว่า เมื่อปี 2559 มีคนแนะนำให้ไปกู้เงินจากเจ๊ปากแดงเพื่อนำมาเป็นทุนค้าขาย จำนวน 20,000 บาท ตนเองส่งดอกลอยวันละ 400 บาท จนกระทั่งช่วงวิกฤตโควิด-19 ค้าขายไม่ค่อยดี จึงไม่มีเงินส่งดอกเบี้ย

จากนั้นก็มีลูกน้องคนมาเก็บเงิน เห็นพระแก้วมรกตตั้งอยู่บนหิ้งบูชา เขาจึงยึดไว้ โดยมาตีราคา 1,500 บาท และเห็นกล่องกระเบื้องที่เตรียมไว้ปูห้องครัวจำนวน 11 กล่อง ก็ยึดไป ตีราคากล่องละ 100 บาท รวมเป็นเงิน 2,600 บาท โดยหักเป็นดอกเบี้ยค้างจ่าย

ทั้งนี้ ตนส่งดอกเบี้ยตั้งแต่ปี 2559 จนถึงปี 2563 คิดเป็นเงินหลายแสนบาท แต่เงินต้น 20,000 บาท ยังคงเหมือนเดิม ไม่ลดลงแม้แต่บาทเดียว

โดยสรุปลูกหนี้ทั้ง 20 รายของเจ๊ปากแดง ยืนยันคำเดียวกันว่าไม่ได้คิดโกงเจ๊ปากแดง แต่ช่วงวิกฤตโควิด-19 ก็ควรจะยืดหยุ่นกันบ้างไม่ใช่จะบีบบังคับกันเช่นนี้

ทีมข่าวลงพื้นที่ อ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ นางมาลี วรสวัสดิ์ หรือ เจ๊ปากแดง ซึ่งได้รับการประกันตัวกลับมา เปิดเผยว่า ตนเป็นเพียงแม่ค้าทั่วไป ขายทุเรียน ขายปลา ไม่ได้ร่ำรวย อีกทั้งยังติดหนี้ธนาคารอยู่อีก 1.5 แสนบาท ซึ่งล่าสุดตนไปขายทุเรียนก็ขาดทุนและยังเป็นหนี้อยู่

อีกทั้งตนยังเป็นหนี้กองทุนหมู่บ้านที่ จ.ฉะเชิงเทรา อีก 5 หมื่นบาท ที่เป็นหนี้ติดตัวของนายสุวพรรดิ์ สามีของตน หนี้ส่วนนี้ตนก็ต้องรับผิดชอบ ในส่วนของลูกหนี้นั้นไม่ได้ยืมแบบเงินกู้ แต่เป็นการยืมเงินกันในวงไฮโล จึงเป็นหนี้จนถึงทุกวันนี้ ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าคนที่แจ้งความต้องการอะไร และข่าวที่นำเสนอออกไปก็เกินจริงมาก ถ้าตนเป็นเจ้าแม่เงินกู้รายใหญ่ตนก็ต้องมีเนื้อที่เป็น 100 ไร่แล้ว ซึ่งตนได้รับความเสียหายจากข่าวมากเพราะถูกกระแสสังคมโจมตีด่า และมองว่าควรฟังความทุกฝ่าย