จากกรณีวันที่ 13 ธ.ค. 63 เวลา 12.45 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.สยามรัตน์ ภูมี ร้อยเวร สภ.ท่าตูม.รับแจ้งจาก ศูนย์วิทยุ สภ.ท่าตูม ว่ามีเหตุคนตกต้นไม้สูง 3 เมตรเสียชีวิต ที่บ้านหนองคูน้อยหมู่ที่ 2 ต.เมืองแก อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมอาสากู้ภัยปทุมทอง
ที่เกิดเหตุ บริเวณทางด้านทิศตะวันตกของบ้านหนองคูน้อย หมู่ที่ 2 ต.เมืองแก อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชายสูงวัย อายุประมาณ 70 ปี สภาพนอนหงายหน้าเสียชีวิตใต้ต้นมะม่วง โดยสวมกางเกงวอร์มขายาวสีน้ำเงิน สวมเสื้อยืดแขนยาวสีดำ ทราบต่อมาคือ นายสมจิต แสนกล้า
จากการสอบถามหลานชายซึ่งเรียนอยู่ชั้น ม.1 ที่เดินทางไปด้วยทราบว่า คุณตาสมจิตออกไปที่กระท่อมในที่นา แต่มองไปเห็นกิ่งมะม่วงทึบมาก จึงคิดว่าจะตัดกิ่งมะม่วงออก และได้ปีนขึ้นไปบนต้นมะม่วงเพื่อตัดแต่งกิ่งมะม่วง แต่พลาดไปเหยียบกิ่งแห้ง ทำให้กิ่งหัก คุณตาตกลงมาคอหักเสียชีวิตคาที่
เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาชันสูตรศพ ร่วมกับ พ.ญ.ฉัตรแก้ว กรองทรัพย์ แพทย์เวรจากโรงพยาบาลท่าตูม และกู้ภัยปทุมทอง (มูลนิธิหลวงพ่อพิมพ์) หลังจากทำการชันสูตรศพเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ได้ให้กู้ภัยนำศพไปมอบให้ญาติเพื่อบำเพ็ญกุศลศพตามประเพณีต่อไป
ล่าสุด วันที่ 14 ธ.ค. 63 เวลาประมาณ 15.00 น. ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่บ้านหนองคูน้อย ต.เมืองแก อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นบ้านไม้ 2 ชั้นยกสูง ประกอบพิธีฌาปนกิจศพนายสมจิต แสนกล้า อายุ 70 ปี บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า
นางประกอบ เกษแก้ว อายุ 50 ปี หลานสาวผู้เสียชีวิต เล่าว่า ตนได้พูดคุยกับหลานชายซึ่งเรียนอยู่ชั้น ม.1 แล้ว แต่ตอนนี้หลานไปช่วยพ่อจับหมูมาประกอบอาหาร ซึ่งหลานได้เล่าให้ตนฟังว่า หลานเป็นคนยื่นเชือกและเลื่อยให้ตาที่อยู่บนต้นไม้ ขณะนั้นเองตาพลาดไปเหยียบกิ่งไม้ที่ตายและผุพร้อมจะหักได้ทุกเมื่อ แล้วไม้เกิดหัก ตาพยายามคว้าเถาวัลย์เพื่อจะพยุงตัวไม่ให้ตก แต่เถาวัลขาด ตาเลยตีลังกาลงมานอนแน่นิ่งหมดสติไปเลย หลานเรียกเท่าไหร่ก็ไม่ขานตอบ
ซึ่งขณะนั้นตนเองอยู่ในที่นาห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 100 เมตร ได้ยินเสียงหลานร้องเรียกตา ก็รีบมาดู ปรากฏว่าเห็นผู้เสียชีวิตนอนแน่นิ่งไปแล้ว ในใจตนคิดไปว่า ผู้เสียชีวิตคงถึงคราวเคราะห์ไปแล้ว เพราะตนเรียกปลุกไปตั้ง 3-4 ครั้ง ผู้เสียชีวิตก็ไม่ขานรับ ตนจึงรีบพาหลานขับรถจักรยานยนต์เข้าไปในหมู่บ้าน ไปตามคนมาช่วย สภาพผู้เสียชีวิตนอนใกล้โคนต้นไม้ ซึ่งผู้เสียชีวิตตัดต้นนี้เป็นต้นที่ 3 แล้ว ส่วนในเรี่องการเสียชีวิต ตนไม่คิดว่าจะเป็นอาถรรพ์ แต่เป็นความประมาทเลินเล่อมากกว่า