สลด! บัสหมอลำคณะภูไทคว่ำตาย 2 เจ็บ 28 คาดไม่ชินทาง คนรอดเผยลางคนตายเร่งออกรถ (คลิป)

เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.63 ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เกิดอุบัติเหตุรถบัสของวงหมอลำคณะศิลปินภูไท พลิกคว่ำ บนวงแหวนกาญจนา หลัก กม.ที่ 32+700 มุ่งหน้าบางปะอิน เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงกอง 2 กองบังคับการ 8 พร้อมมูลนิป่อเต็กตึ๊ง เข้าตรวจสอบพบว่าจุดที่รถพลิกคว่ำเป็นบริเวณทางเข้าด่านชั่งน้ำหนักรถบรรทุก ส่วนผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตที่ยังคงติดอยู่ในรถ เจ้าหน้าที่ต้องใช้เครื่องมือช่วย และออกมาอย่างทุลักทุเล เนื่องจากรถเกิดการกระแทกอย่างแรงจนทำให้รถพังยุบเกือบทั้งคัน

จากการสอบถาม นายอำนาจ อุดมลาภ อายุ 51 ปี ซึ่งเป็นคนขับรถคันดังกล่าว ได้รับบาดเจ็บศรีษะแตกจากการกระแทก บอกว่า รถบัสคันที่ตนขับเป็นรถบัสของหมอลำคณะภูไท มีผู้โดยสารในรถจำนวน 30 คน ซึ่งเป็นนักแสดง และศิลปินวงหมอลำคณะภูไท ส่วนใหญ่เป็นสาวประเภทสอง

โดยหลังจากทำการแสดงที่ตลาดปัฐวิกรณ์ ถนนนวมินทร์แล้วเสร็จในช่วงเวลาประมาณ 0200 น. ก็ได้ขับรถเพื่อที่จะกลับ จ.กาฬสินธิ์ โดยขับตามกันมา 4 คันรถบัส ซึ่งคันของตนเป็นคันแรก เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุตนมองไม่เห็นแบริเออร์ จึงได้ปีนขึ้นบนขอบแบริเออร์ และเสียหลักไปชนเสาไฟฟ้าจนทำให้รถพลิกคว่ำดังกล่าว  

นายอินศร ซั่มศาสตร์ หรือ พ่อหลอด โฆษกและพิธีกรของวง บอกว่า ตนนั่งอยู่ฝั่งประตูด้านซ้ายข้างคนขับ โดยรถบัสที่นั่งมาเป็นคันแรก ส่วนด้านหน้าเป็นรถขนเวที และมีรถบัสขับตามมาอีก 3 คัน เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุคนขับได้ขับรถเข้าเลนผิดไปเข้าด่านชั่งน้ำหนักรถบรรทุก จึงพยายามหักออกแต่ก็ไปปีนขึ้นบนขอแบริเออร์ จนรถเสียหลักพลิกคว่ำ ซึ่งตนก็พยายามคลานออกมาจากรถ และพยายามตะโกนถามว่าใครเป็นไรหรือไม่ และพยายามช่วยคนที่บาดเจ็บแต่ยังมีสติ ให้ออกมาด้านนอกรถก่อน ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็รู้สึกเสียใจ เพราะทุกคนเป็นครอบครัวที่อยู่ด้วยกันมา

ทั้งนี้อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นถือเป็นครั้งที่ 2 เพราะก่อนหน้านี้เมื่อปี 61 ก็เคยเกิดอุบัติพลิกคว่ำลงข้างทาง ระหว่างไปทำการแสดงที่ จ.สุรินทร์ แต่ในขณะนั้นไม่มีผู้เสียชีวิต อย่างไรก็ตาม อุบัติเหตุครั้งนี้มีผู้บาดเจ็บ 28 คน เจ้าหน้าที่ได้นำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงแล้ว และมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ได้นำส่งสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ เพื่อรอให้ญาติมารับศพต่อไป

สอบถามนายวรวิทย์ ยอมิน อายุ 31 ปี พนักงานชั่งน้ำหนัก ลำลูกกาขาออก ซึ่งเป็นผู้ที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ในช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ตนอยู่เวรเฝ้าจุดชั่งน้ำหนัก ผ่านไปเวลาประมาณ 03.30 น. กล้องวงจรปิดด่านชั่งน้ำหนัก เกิดดับลง ตนรู้สึกว่าแปลกขึ้นมา เลยชะโงกหน้าไปมองหาดู จึงเห็นเป็นไฟกะพริบอยู่ ซึ่งรู้แล้วว่าต้องมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นแน่ ๆ จึงรีบไปดู ตนต้องตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเป็นอุบัติเหตุรถบัสคณะหมอลำ ซึ่งผู้ที่บาดเจ็บ คลานออกมาจากรถ และนอนเจ็บปวดเต็มเกลื่อนถนน 28 คน ซึ่งอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ยังมีผู้ที่เสียชีวิต 2 ราย แต่ออกมาไม่ได้ เนื่องจากติดอยู่ในรถ ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ และกู้ภัย เอาเครื่องมือมาช่วยเหลือในการนำร่างของผู้เสียชีวิตออกมาจากรถ

นายวรวิทย์ ยอมิน ยังกล่าวอีกว่า ทางคนขับรถ ได้บอกกับตนว่า ไม่มีอาการเมาแต่อย่างใด ไม่ได้หลับในด้วย แต่ที่เกิดอุบัติเหตุเป็นเพราะตนขับตามหลังรถบรรทุกด้านหน้า ซึ่งรถดังกล่าวเกิดหักรถไปอีกฝั่ง จึงจะหักตาม แต่เผลอไปชนแบริเออร์ จากนั้นรถเสียหลักออกข้างทาง และเกิดพลิกคว่ำลง หลังจากนั้นผู้ขับรถมีอาการเงียบ ไม่พูดคุยอีกเลย 

อย่างไรก็ตาม นายวรวิทย์ ยังฝากเตือนผู้ที่ขับรถสายนี้อีกด้วยว่า ให้ขับรถอย่างระมัดระวัง ไม่ควรที่จะขับเร็วจนเกินไป ขับรถในความเร็วตามที่กฎหมายกำหนด ไม่อยากให้ประมาท เพราะถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา ผู้ที่เขาไม่เกี่ยวข้องก็จะเดือดร้อนไปด้วย และนอกจากนี้อยากให้มาตรการเพิ่ม คือ อยากให้มีไฟส่องสว่างให้มากกว่านี้ เพื่อความปลอดภัยกับนักเดินทางด้วย

ด้านนายอัฐวุฒิ เบ็ญกุล อายุ 21 ปี ตำแหน่งแดนซ์เซอร์ของวงหมอลำ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้ทำการแสดงอยู่ที่ตลาดปัฐวิกรณ์ ต่อจากนั้นก็จะไปทำการแสดงต่อในงานงิ้ว ที่ อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งก็ได้รีบขนของขึ้นรถ เกือบประมาณ 02.00 น. โดยรถที่ตนขึ้นจะเป็นรถของแดนซ์เซอร์ผู้ชาย ซึ่งเป็นรถคันแรกที่เกิดเหตุ ตนใส่หูฟังเพื่อจะนอนหลับ จู่ ๆ ได้ยินเสียงรถดังขึ้น เหมือนชนกับอะไรบางอย่าง แล้วเซไปเซมา ตนตกใจมาก ยิ่งกว่าละคร

จากนั้นเมื่อรถพลิกคว่ำลงแล้ว ตนยังมีความรู้สึก เพราะยังไม่ได้หลับ และช่วยกันเรียกเพื่อนคนอื่น ๆ เพื่อให้ออกมาจากรถ แต่ก็หาทางออกไม่เจอ เนื่องจากมืดมาก และในรถก็มีของเยอะมาก หล่นลงมาทับตัว ซึ่งใช้เวลานานมากถึงจะได้ออกมา ตนจึงเปิดกระจกข้างเพื่อกระโดด และช่วยดึงตัวกันออกมา

ทั้งนี้ตนมีลางสังหรณ์ เนื่องจากก่อนที่จะออกจากงาน ตอนนั้นรถจะจอดเรียงต่อ ๆ กัน จากนั้นรถคันข้างหลังมีควันออกมาเยอะมาก จนควันลอยมาถึงรถคันที่เกิดเหตุ จากนั้นทางครูเต้ย ผู้ที่เสียชีวิต ก็บอกให้เร่งรถออกให้เร็ว ๆ เนื่องจากตนแสบตา แสบจมูก และกลัวว่าจะไปงานแสดงที่ จ.กาฬสินธุ์ไม่ทัน จึงบอกให้รีบออกรถ

เหตุการณ์นี้มีผู้ที่เสียชีวิต 2 คน ได้แก่ ครูเต้ย ศิลปินภูไท และอีกราย นนท์ น้อย รุ่นน้องที่เพิ่งจะเข้ามาอยู่ในคณะได้ไม่กี่วัน ตนรู้สึกใจหาย และตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาก สำหรับครูเต้ยเป็นลูกของเพื่อนหัวหน้าคณะ ทำหน้าสอนแดนซ์เซอร์ เป็นคนที่ดูแลเรื่องการแสดงทุกอย่าง และเป็นที่รักของทุก ๆ คนในคณะ อยากฝากถึงครูไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องใด ๆ ทั้งสิ้น อยากให้ครูไปสูสุขคติ และภพภูมิที่ดี น้อง ๆ เพื่อน ๆ พี่ ๆ ศิลปินภูไท จะจดจำและรักครูตลอดไป และทุก ๆ คนจะยังทำหน้าที่ และยังช่วยเหลือกัน ยืนข้าง ๆ กันเสมอ