กรณีนางกันย์ลภัส นักธุรกิจสาวผู้เสียหายถูกนางศิริพร หรือ ซิ้ม อ้างเป็นร่างทรงหลวงพ่อเปิ่น สามารถสื่อสารกับวิญญาณของลูกที่เสียไปแล้วได้ ทำให้หลงเชื่อ สุดท้ายต้องสูญเงินให้ร่างทรงรายนี้ไปถึง 42 ล้านบาท ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันที่ 16 ธ.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมาพบกับ นางบุญเรือง (นามสมมติ) เครือญาติที่เคยตกเป็นผู้เสียหาย จากนางศิริพร หรือ เจ้ซิ้ม เปิดเผยว่า ตนเคยตกเป็นผู้เสียหายคือให้ยืมเงิน โดยเจ้ซิ่มนำโฉนดปลอมมาวางเป็นหลักประกัน
โดยนางซิ้ม จะมาขอยืมเงิน ตั้งแต่หลักหมื่น จนพอกพูนเป็นหลักแสน ยืมจนยอดเงินสูงถึง 4-5 แสนบาท ตนจึงเอ่ยปากขอให้นางซิ้มนำที่ดินมาวางค้ำประกัน โดยนางซิ้มก็นำที่ดิน 1 แปลงมาวางไว้ เป็นที่ดินของมารดา ส่วนตัวรับโฉนดไว้ ก็ไม่ได้คิดอะไร ทำสัญญากู้ยืมถูกต้องปกติ กระทั่งตนมาทราบภายหลังว่า นางซิ้มนำที่ดินผืนเดียวกันไปจำนองกับชาวบ้านอีกที่หนึ่ง จึงเกิดความสงสัยว่าโฉนดอยู่ที่ตน แล้วนางซิ้มนำโฉนดที่ไหนไปจำนอง ตนจึงนำโฉนดไปตรวจสอบที่กรมที่ดิน ปรากฏว่าเป็นโฉนดปลอม เจ้าหน้าที่ถึงกับเอ่ยปากว่า "ปลอมได้เหมือนจริงมาก"
ตอนนั้นนางซิ้ม ยังฐานะยากจน อ้างว่าจะยืมเงินเพื่อไปรักษาลูกที่พิการ ขณะนั้นนางซิ้มยังไม่มีสามีชื่อประสิทธิ์ ตนเห็นใจก็ให้ยืมเงินไป โดยนางซิ้มทำทีน่าสงสาร ถึงขั้นกราบเท้าตน นำเท้าตนไปลูบหัวลูบหน้า แต่ตอนนั้นนางซิ้มไม่เคยพูดเรื่ององค์เทพ ร่างทรงใด ๆ
ส่วนตัวตัดสินใจแจ้งความ และเป็นคดีความจนกระทั่งตนชนะคดี โดยเหตุนี้เกิดขึ้นเกือบ 10 ปีแล้ว ส่วนคดีความมีการว่าความนานถึง 3-4 ปี จากนั้นนางซิ้ม ยอมผ่อนเงินคืนตนจนครบเรียบร้อยแล้ว ส่วนตัวเคยถามนางซิ้มเรื่องโฉนดปลอมก็อ้างว่าเป็นโฉนดที่ทำมาเผื่อให้ฝากขาย ไม่ได้เป็นการนำมาค้ำประกัน ซึ่งตามข้อตกลง คือ การค้ำประกัน อีกทั้งยังอ้างกับศาลว่า มีการผ่อนชำระเงินตนเรื่อย ๆ อย่างไรก็ตาม คดีของตนจบแล้ว ก็ไม่คิดจะยุ่งเกี่ยวกันอีก
ทีมข่าวสอบถาม นางกันย์ลภัส พิพัทธ์สีรกุล ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนเริ่มลงทุนทำธุรกิจกับนางซิ้ม ตั้งแต่ปี 2561 โดยมอบให้นางซิ้มดำเนินการทั้งหมด ตนเพียงออกทุนให้ โดยที่ก็ไม่ทราบว่าซิ้มได้ออกทุนตัวเองบ้างหรือไม่ ช่วงแรกทุกอย่างดีหมด โดยตนจะทยอยโอนเงินค่าเครื่องจักรที่สั่งมาลงที่โรงงานให้
ประกอบด้วย 1.เครื่องรีดลอนผนัง 2.เครื่องลอนสแควร์ 3.เครื่องลอนคลิปล็อก 4.เครื่องรีดลอน 75 5.เครื่องย้ำโค้งธรรมดา 6.เครื่องย้ำโค้งตัวเอส 7.เครื่องอันทอยเลอร์ 8.เครื่องรัดขาคีบล็อก 9.เครื่องรีดราวถนน 10.เครนยก ขนาด 10 เมตร มูลค่าทั้งหมด 10 ล้านบาท โดยตนเริ่มโอนเงินให้ตั้งแต่ช่วงปี 2561-2563 ส่วนหลักฐานการโอนเงิน ตนกำลังขอจากธนาคาร เนื่องจากตนโอนเงินให้จำนวนหลายครั้ง
ตอนที่นางซิ้มย้ายของออกจากโรงงานไม่ได้แจ้งตนเลย แต่ตนมาแอบดูและรู้เอง เห็นว่ามีความพยายามย้ายเครื่องจักรออกจากโรงงาน ตนเคยถามนางซิ้ม แต่นางซิ้มไม่คุย โดยบอกว่าเดี๋ยวนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อน เดือนนี้ตนมาสกัดการขนถึง 4 ครั้ง จนครั้งล่าสุดคือวันที่ 10 ธ.ค.63 ตนต้องยอมให้ขนออกไป เพราะเจ้าของรถเครนที่ต้องขนเครื่องจักร อ้างว่าต้องจ่ายเงินค่าเช่ารถ 32,000 บาท จำนวน 4 คัน
นอกจากนี้ นางกันย์ลภัส ยังระบุว่า ตนเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าสิ่งที่ผ่านมาตนอาจจะโดนของ พวกยาสั่ง เพราะตนมาเห็นคอมเมนต์ต่าง ๆ เหมือนเตือนสติ ทำนองว่าคนในพื้นที่ไม่มีใครรู้ว่านางซิ้ม เป็นร่างทรง มีแต่ตนที่เชื่อ พูดอะไรก็ฟังตลอด นางซิ้ม ยังมีพฤติกรรมที่จะทำกับตนประจำ คือ โทรศัพท์มาแล้วจะสวดมนต์ให้ตนฟัง บอกว่าเป็นการให้พร พร้อมทั้งยังเทศเรืองต่าง ๆ ก่อนจะเข้าเรื่องที่ต้องการคุย หลังการฟังบทสวดความรู้สึกจะมึน ๆ งง ๆ
นางกันย์ลภัส ยังอธิบายต่อว่า นางซิ้ม ยังแสดงพฤติกรรมให้ตนเห็น คือ เวลามาที่โรงงาน จะบอกว่าเจ้าที่ที่นี่แรง มีการเข้าทรง บอกตัวเองชื่อ "ก๋งกรวย" เป็นเจ้าที่ที่เป็นบรรพบุรุษที่นี่ เดินขาโก่ง มือไพล่หลัง เดินคุยกับตนเป็นสำเนียงจีน ๆ พูดทำนองว่า "อาหมวยเอ่ย ลื้อจะทำธุรกิจอย่ากินต่ำ ให้กินสูง ๆ” คล้ายสอนการใช้ชีวิต โดยจะแสดงให้ตนเห็นเพียงตอนที่อยู่กับตน 2 คน ไม่มีคนงานคนอื่น อีกทั้งยังมีร่างอื่น ๆ เข้าเทียมร่างเรื่อย ๆ ถึงขั้นที่ตนถามว่าเข้าเยอะขนาดนี้ไม่งงหรือ นางซิ้มจะอ้างว่าร่างเป็นกายบริสุทธิ์ จึงมีร่างมาเข้าเรื่อย ๆ เวลาที่จะคุยกับนางซิ้ม ต้องรอให้หลับแล้วกรน
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาตนยอมรับว่าเชื่อสนิทใจ และยอมโอนเงินหลักแสน หลักล้าน เพราะปู่เป็นคนขอ ปู่พูด หลังจากนี้หากตนผ่านเรื่องนี้ไปได้ คงไปบวชีพราหม์ ทำบุญบ้าน ขนของที่เกี่ยวกับนางซิ้มออกไปจากบ้านให้หมดทุกชิ้น
Advertisement