สลด พบพะยูนท้องแก่ถูกแทงช่วงท้องจนทะลุม้ามลอยตายในทะเลตรัง และพบว่าถูกตัดเขี้ยว คาดเอาไปทำเป็นของขลัง สันนิษฐานติดอวนชาวประมง-ขบวนการล่าพะยูนตามใบสั่ง อาละวาด
นายณรงค์ คงเอียด หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จ.ตรัง ได้รายงานต่อกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ว่าเมื่อวันที่ 17 ธ.ค.63 ที่อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ จม.3 เกาะกระดาน ว่าพบพะยูนตาย 1 ตัว ลอยอยู่ในทะเลระหว่างเกาะแหวนกับเกาะกระดาน หมู่ที่ 2 ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง
จากการตรวจสอบพบว่า เป็นพะยูน เพศเมีย ความยาว 2.56 เมตร ความยาววัดแนบลำตัว 2.57 เมตร น้ำหนักประมาณ 300 กิโลกรัม ท้องป่อง ลักษณะภายนอก มีบาดแผลประมาณ3-4 นิ้ว ประสานสัตว์แพทย์ประจำศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนล่างมาทำการผ่าพิสูจน์ พบว่าสภาพลำตัวมีแผลถูกแทงตามลำตัวจนทะลุม้าม ส่วนที่มุมปากพบว่าเขี้ยวทั้ง 2 ข้างถูกตัดหายไป ส่วนอวัยวะอื่นๆ ยังอยู่ครบ และจากการผ่าพิสูจน์พบภาพสุดสลดยิ่งขึ้น เมื่อพบว่ามีลูกพะยูนน้อยอยู่ในท้องของแม่ด้วย สร้างความสะเทือนใจให้แก่เจ้าหน้าที่เป็นอย่างมาก
เบื้องต้นยังไม่ชัดเจนว่าพะยูนตายทั้งกลมตัวดังกล่าวนี้ เกิดจากความบังเอิญที่พะยูนท้องแก่ว่ายน้ำหากินเข้าไปติดอวนของชาวประมงแล้วจะถูกชาวประมงฆ่าตาย เพื่อจะปลดเอาอวนและฉวยโอกาสตัดเขี้ยวไปด้วย หรือเกิดจากขบวนการล่าพะยูนเพื่อเอาเขี้ยวไปเป็นเครื่องรางของขลังตามความเชื่อและตามใบสั่งที่ยังมีอยู่ โดยเมื่อประมาณ 10 ปีหรือก่อนหน้านั้น เคยมีการพูดถึงขบวนการล่าพะยูน เพื่อเอาน้ำตา กระดูก และโดยเฉพาะส่วนของเขี้ยวเพื่อนำไปทำเครื่องรางของขลังจะกลับมาอาละวาดอีกครั้ง
ทั้งนี้พะยูนตัวดังกล่าว ถือเป็นตัวที่ 4 ที่ตายลงในปีนี้ และเป็นความสูญเสียพะยูนในทะเลตรังที่เกิดจากความตั้งใจของมนุษย์ และเป็นตัวแรกในรอบหลายปีที่ถูกตัดเขี้ยว ทั้งนี้ในทะเลตรังมีพะยูฯประมาณ 180 ตัว ซึ่งเป็นฝูงใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
Advertisement