วันที่ 18 ธ.ค. 63 เกิดกระแสดราม่าบนโลกโซเชียล เมื่อมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ข้อความ "สุดปัง!!บังคับเด็กนักเรียนตากแดดจนเป็นลม แต่ครูนั่งในร่ม แถมคุกคาม-ข่มขู่เด็ก ชาวเน็ตรุมถล่มยับ" โดยเป็นโรงเรียนชื่อดังย่านนครบาล เพชรบูรณ์ กลายเป็นดราม่าร้อน หลังนักเรียนพั 1,000 คน นั่งตากแดด ตากฝุ่น PM 2.5 ทำพิธีกลางแจ้งนานนับชั่วโมง จนเด็กมีอาการหน้ามืดเป็นลมล้มพับ ต้องปฐมพยาบาลกันวุ่น
ทีมข่าวลงพื้นที่โรงเรียนวิทยานุกูลนารี เปิดสอนระดับมัธยมศึกษาที่ 1-6 ขณะที่เด็กหญิงเอ (นามสมมติ) และเด็กหญิงบี (นามสมมติ) อายุ 13 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เล่าเหตุการณ์ว่า ครูสั่งอยู่ในร่ม ปล่อยให้เด็กไปนั่งตากแดด ตอนเด็กเป็นลม ครูก็ไม่ไม่สนใจ ปล่อยให้พี่สภานักเรียนและครูนักศึกษาฝึกงานเป็นคนดูแล
อากาศตอนนั้นร้อนมาก ประมาณ 31-32 องศาเซลเซียส ส่วนครูก็นั่งใส่หมวกอยู่ในร่ม ตั้งแต่เวลา 13.00-16.00 น. มีนักเรียนที่ไม่เข้ากิจกรรมบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะอยู่ในสนาม
ส่วนที่บอกว่าถ้าไม่ร่วมกิจกรรมจะติด ร. เป็นเรื่องจริง คือจะไม่ได้คะแนนกิจกรรม ส่วนเพื่อนที่เป็นลมมีจริง เรื่องของน้ำดื่มครูก็ไม่ให้ไปซื้อข้างนอก ขณะที่น้ำพี่สภานักเรียนที่นำน้ำมาแจกก็ไม่เพียงพอ เพราะเป็นเงินที่นักเรียนเรี่ยไรเงินกันซื้อเอง ตนอยากให้ทางโรงเรียนสนใจนักเรียนมากว่าภาพลักษณ์ เพราะคนที่สร้างชื่อเสียงให้โรงเรียนคือเด็กนักเรียนเอง
ด้านนายพัชริน ภู่ชัย ผู้อำนวยการโรงเรียนวิทยานุกูลนารี ชี้แจงว่า วันดังกล่าวมีการทำพิธีรำลึกวันครบรอบโรงเรียน 111 ปี กิจกรรมบวงสรวงเจ้าแม่ชีปะขาว เปิดป้ายอาคาร 111 ปี รำถวายเจ้าแม่ชีปะขาว ซึ่งต้องใช้เด็กนักเรียนถึง 2,700 คน และการแปรอักษรเป็นสัญลักษณ์โรงเรียน และตัวเลข 111 จัดนิทรรศการวิชาการเปิดอาคารเรียนใหม่ด้วย โดยระหว่างจัดกิจกรรมมีเด็กเป็นลมจริง
ตนได้รับรายงานแล้ว เกิดจากการสื่อสารไม่ถูกต้อง อาจเกิดการคลาดเคลื่อนบ้างเล็กน้อย หรือการสื่อสารที่ไม่เข้าใจกัน แต่เจตนาซึ่งทางโรงเรียนตั้งใจจัดงาน กระบวนการซ้อมอาจจะมีร้อนบ้างก็มีการแบ่งเป็นห้อง ไม่ได้ทำกิจกรรมยาวทั้งวัน บางคนอยากจะร่วมแต่มีสุขภาพไม่ดี เด็กบ้านเราส่วนใหญ่เป็นเด็กในตลาด ไม่ค่อยทนแดด เรื่องนี้หลังมีกระแสโซเชียลทางโรงเรียนก็ได้มีการร่วมประชุมกันเพื่อแก้ปัญหา มีการปรับความเข้าใจกับเด็กและกับครูด้วย ซึ่งกิจกรรมก็ผ่านไปด้วยความเรียบร้อยดี