งานรุ่ง ชีวิตรุ่ง! สำหรับหมอลำโคโยตี้สุดแซ่บ "ลำยอง หนองหินห่าว" เจ้าของเพลงฮิต "เอาผัวไปเทิร์น" ล่าสุดมาเยือนรายการ ต้มยำอมรินทร์ โชว์ท่าเต้นสุดเป๊ะในผลงานเพลงล่าสุด "อ้ายสิบ่เบื่อ" แบบจัดเต็ม พร้อมประกาศข่าวดี จะแต่งงานกับแฟนหนุ่มนอกวงการ 24 ธันวาคมนี้ โต้กระแสแต่งฟ้าผ่า เคลียร์ดราม่าหลังถูกถาม "เป็นถึงศิลปินดัง แต่จัดงานเล็ก ไม่อายคนอื่นเหรอ"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "ตู้ ดิเรก" เผยประสบการณ์เต้นยับจนตกเวที เปิดใจไม่ยอมผ่าตัด กลัวเต้นไม่ได้ตลอดชีวิต!
- "โย ทัศน์วรรณ" ขึ้นแท่นเน็ตไอดอลสูงวัย รวมเพื่อนนักแสดง "แก๊งนางพญา" ทำคอนเทนต์ออนไลน์!!
- เปิดปมในใจ "หยวน ดราก้อนไฟว์" ขาดความอบอุ่นจากครอบครัว
- "พรฟ้า ปุณิกา" ปิดเส้นทางประกวดนางงาม 8 ปี อยากผลิตนางงามคุณภาพสู่เวทีโลก!
- ดูบังเกิดเกล้าย้อนหลัง ละครแซบอมรินทร์ทีวี ที่นี่
ถาม แนวของลำยองคือ
ลำยอง : ลำซิ่งโคโยตี้
ถาม ซึ่งชุดที่ใส่มาวันนี้คือเรียบร้อยมากที่สุดแล้ว
ลำยอง : เรียบร้อยมาก ปกติชุดของลำยอง จะเป็นชุดชั้นในปักเพชร กางเกงในปักเพชรเลยค่ะ แต่เราจะเซฟด้วยการใส่ถุงน่องทึบไว้ด้วย เพื่อไม่ให้โป๊ เราเป็นคนขาลาย ก่อนที่เราจะมาอยู่ตรงนี้ที่บ้านเราทำไร่ทำนา
ถาม เรามาในสายโคโยตี้ลำซิ่ง ต้องอยู่บนพื้นฐานความเซ็กซี่อยู่แล้ว ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์เยอะ เคยคิดจะเปลี่ยนแนวไหม
ลำยอง : เป็นไปไม่ได้ เพราะมาสายนี้แล้ว
ถาม มาพูดถึงเพลง อ้ายสิบ่เบื่อ ตั้งใจจะบอกอะไร สื่ออะไรออกมาให้แฟนเพลงฟัง
ลำยอง : จะทำทุกสิ่งทุกอย่างให้อ้ายไม่มีวันเบื่อเราเลย จะเอาแบบไหน จัดให้ทุกอย่าง แต่เพลงที่สร้างชื่อทำให้คนรู้จักเรา เอาผัวไปเทิร์น แต่ก็เป็นงานเพลงที่ทำให้เราเสียหลักเหมือนกัน เพราะตอนนั้นเพลงนี้มันโดนฟ้อง 50 ล้าน เรากำลังมีงาน โฆษณา ละคร พรีเซนเตอร์ งานเข้ามาเยอะเลย พอเราโดนฟ้อ ต้องปิดยูทูบ งานก็หายไปเลย เพราะเราเอาไปร้องไม่ได้ แต่เราการฟ้องที่เกิดขึ้นเราก็ชนะแล้ว แต่ ณ ตอนนั้น เพลงกำลังดัง เราไม่สามารถเอาไปร้องได้ แต่ตอนนี้เราชนะ เราสามารถนำมาร้องได้เหมือนเดิมค่ะ
ถาม แล้วฉายา ลำซิ่งโคโยตี้ ได้มายังไง
ลำยอง : เราเป็นคนตั้งเอง คิดเองเลย เนื่องด้วยเราเป็นคนที่ร้องเพลงทุกแนวในผับอยู่แล้ว ลูกทุ่ง สตริง เพื่อชีวิต สากล หมอลำ แต่พอมาเป็นศิลปิน เราต้องร้องหมอลำซิ่ง เราต้องฝึกหมอลำเยอะ เราก็เลยเอาความสามารถของเราที่มีอยู่กับหมอลำซิ่งมาผสมกัน เพราะเราชอบเต้น ชอบร้องเพลงสตริง เลยเอาทุกอย่างมาผสมกันให้มันสมบูรณ์
ถาม มีคำครหาว่าเพราะร้องเพลงไม่เพราะ เลยต้องมาแต่งตัวโป๊ เพื่อจะดึงดูดแขกที่มาดู
ลำยอง : เสียงไม่ดีไหม ยอมรับ เพราะเป็นนักร้องแกรมมี่คนเดียวที่เสียงไม่ดีเลย เราก็ต้องถ่อมตัวเองไว้ก่อน (หัวเราะ) เราเหมือนเป็นศิลปินคนเดียวที่แหวกแนวบริษัท แกรมมี่เขาเป็นค่ายเพลงที่มีคุณภาพ แต่เราไม่ได้ผ่านการออดิชั่น ไม่ได้ผ่านการฟิตติ้ง หรือผ่านการประกวดอะไรเลย แล้วอยู่ดีๆ เข้ามา เข้ามาคือโป๊มาก่อน เราเลยรู้สึกว่าตัวเราเหมือนไม่มีคุณภาพ เราเดินเข้ามาด้วยความรู้สึกของเราจริงๆ เราเป็นโคโยตี้ เพลงเรามาแนวนี้ แต่เพราะเพลงที่ดังๆ ในแกรมมี่ไม่ใช่แนวเราเลย เขาจะไม่พูดเรื่องผัว เรื่องเมียเลย มันเลยทำให้เรารู้สึกว่าเราเป็นคนเดียวที่ไม่มีคุณภาพ แต่สิ่งที่เราไม่ย่อท้อ เราทำการบ้านหนักหลายเท่า ศิลปินบางคนเขาเชิญไป ก็จะร้องแค่ 45 นาที หรือ 7-8 เพลง แต่เราร้อง 40 เพลงเป็นเมดเล่ย์ เป็นเพลงเร็วเอาสนุกไว้ก่อน 2 ชั่วโมงไม่หยุดเลยค่ะ
ถาม ในมุมของลำยอง ไม่เหมือนคนอื่นเลย ทั้งแนวเพลง แนวตัวเอง เลยทำให้ถูกเมาท์ว่าเป็นเด็กเส้น เพราะเป็นหลานของอาจารย์สวรรค์
ลำยอง : อันนี้เรื่องจริง เป็นหลาน แต่ไม่ได้เข้ามาเพราะเส้น ทางแกรมมี่ให้อาจารย์สวรรค์ หมอลำซิ่งเข้าไปในสังกัด ซึ่งศิลปินคนแรกที่เข้าไปคือน้องหญิงลี และคนที่สองเข้าไปคือลำยอง เขาอยากทำแนวดนตรีสนุกๆ แต่ตอนที่อาจารย์สวรรค์ติดต่อมา ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าเราเป็นหลานด้วยนะคะ
ถาม และอีกหนึ่งข่าวใหญ่คือกำลังจะสละโสดแล้ว
ลำยอง : จริงค่ะ กำลังจะแต่งงานวันที่ 24 ธันวาคม อีก 3 วันค่ะ
ถาม ประกาศสละโสดฟ้าผ่าแบบนี้ เลยมีหลายคนถามว่าท้องหรือเปล่า
ลำยอง : ถ้าท้องก็ดีสิคะ ประกาศว่าอยากมีลูกตั้งแต่ปีที่แล้ว เราไม่ได้สนใจเรื่องแต่งงานเลยเมื่อก่อน เพราะอายุของเราก็เยอะมากแล้ว ไม่ได้อยากมีพิธีอะไรมากมาย อยากมีลูกมีเต้า อยากมีครอบครัวที่สมบูรณ์ เราก็ไปปรึกษาคุณหมอมานานมาก คุณหมอก็ให้ยามากินบำรุง แต่ลูกก็ยังไม่มาสักที เลยจัดงานแต่งงานเพื่อแก้เคล็ด เผื่อลูกจะมา แต่ถามว่าแต่งงานแบบฟ้าผ่าไหม ก็ไม่นะคะ เพราะเราก็ลงในโซเชียลตลอดว่าอยากมีลูก มีคนมาคอมเมนต์เราเยอะนะเรื่องนี้ เราก็เข้าไปตอบเขาไปว่าเราไม่ได้แต่งฟ้าผ่า พี่ 41 มันเร็วแล้วเหรอ เราไม่ได้ท้องก่อนแต่ง อายุเราก็ไม่ได้น้อยๆ แล้ว มันเร็วเหรอค่ะ
ถาม แต่หลายคนยังงงอยู่ว่าเจ้าบ่าวคือใคร
ลำยอง : เจ้าบ่าวก็คือผู้จัดการส่วนตัวที่ดูแลเราทุกวันนี้เลย เป็นทั้งโปรดิวเซอร์ ผู้จัดการ เพื่อน
ถาม นอกจากจะแต่งงานแก้เคล็ดเพราะอยากมีลูกแล้ว อีกความฝันหนึ่งคือ..
ลำยอง : อยากใส่ชุดเจ้าสาว แต่งงานเพราะพ่อแม่ด้วย เราทั้งคู่ก็ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันมาสักระยะหนึ่งแล้ว ประมาณ 4 ปีแล้ว อยู่ด้วยกันด้วยความเข้าใจ
ถาม มีคนถามว่าเป็นคนถึงนักร้องดัง ทำไมจัดงานแต่งเล็กๆ ขนาดนี้ ไม่กลัวเสียชื่อหรอ
ลำยอง : เสียชื่อกับเสียเงินเอาอะไรคะ (หัวเราะ) โควิดรอบสองก็เหมือนจะกลับมา เราไม่รู้ว่าชีวิตเราจะเป็นยังไงต่อไปในอนาคต อะไรที่ประหยัดได้ก็ประหยัดไว้ก่อน เราจัดงานผูกข้อต่อแขน เรียนเชิญผู้หลักผู้ใหญ่มาเป็นสักขีพยานในงาน ตอนแรกที่เราวางไว้มีแค่นี้ด้วย สองครอบครัวมาผูกข้อไม้ข้อมือแล้วส่งตัวเข้าบ้านเลยแค่นี้ แต่เนื่องด้วยเพื่อนฝูงฝ่ายเราก็รอ ฝ่ายเจ้าบ่าวก็รอว่าวันไหนจะแต่ง เราก็เลยจัดงานขึ้น ถือว่าผู้หลักผู้ใหญ่ เพื่อนฝูง มาทานข้าวด้วยกันเท่านี้ ก็อบอุ่นพอแล้ว เราคิดว่าอะไรก็แล้วแต่อยู่ด้วยความเข้าใจ อยากจะบอกว่าสินสอดอะไรไม่มีเลย เพราะว่าเราหาเงินมาด้วยกันสองคน ถ้าเราเอาเงินตรงนั้นมาเราก็จะไม่มีเงินเก็บไว้วันข้างหน้า เผื่อเรามีลูกขึ้นมาจะทำยังไง
ถาม รู้สึกยังไงบ้างที่ชีวิตเรามีข่าวดราม่าเยอะ โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่โซเชียลมันเข้ามามีบทบาทมาก มันมีผลกระทบต่อชีวิตของเรามากน้อยขนาดไหน
ลำยอง : มันเป็นเรื่องธรรมดา คนใหญ่ คนโต โดนมากกว่าเราเยอะ มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมาแล้วเดี๋ยวมันก็จะผ่านไป เรามานั่งอ่านคอมเมนต์ไหม ก็อ่านนะคะ แต่พอเราอ่านแล้วเราก็หัวเราะ บางคนก็บอกว่าเจ้าบ่าวเราเป็นทอม เราก็เลยโพสต์หน้าเฟสตัวเองแล้วก็แท็กเขาว่าตกลงเธอจะเป็นทอมหรือเป็นกะเทย เราก็แค่ทำทุกสิ่งทุกอย่างให้เป็นเรื่องสนุก ให้มันตลก อย่าไปซีเรียสกับมันทุกเรื่องอะไรขนาดนั้นก็พอ
ถาม ลำยอง แต่งตัวเซ็กซี่แบบนี้ คนรู้ใจห้ามบ้างไหม
ลำยอง : ไม่มีเลยค่ะ เขารู้ว่าเราเป็นคนยังไง เพราะอยู่กับบ้านคือแก่มาก ไม่แต่งตัว ไม่แต่งหน้าเลย ถ้าวันไหนที่จะมีงาน มีไลฟ์สดเราก็จะแต่งหน้า เขาเห็นเราเต็มที่กับงานเวลาอยู่บนเวที เขาเข้าใจ ยังบอกเราอีกด้วยว่าให้ทำเต็มที่ เพราะเขาจ้างเราแล้วเราต้องทำให้ดีที่สุด
ถาม อีกอย่างที่คนในวงการกลัวคือถ้าแต่งงานแล้ว กระแสจะตก เรากลัวไหม
ลำยอง : ไม่กลัว เอาอะไรมากลัว เพราะเราอายุเท่านี้แล้วเนอะ ถ้าเราไม่มีแฟน ไม่มีสามี เราสิกลัว
ถาม ถ้าเกิดมีลูกขึ้นมา เรากลัวไหม เรารับงานไม่ได้
ลำยอง : คนอื่นๆ เขามีทั้งบ้านทั้งเมือง บางคนยังเอาลูกมาเป็นดาราเลย ลำยองคิดว่าไม่มีอะไร เพราะตอนนี้โลกมันเปิดกว้างแล้ว แต่เราทุกคนต้องอยู่กับโลกของความจริง ลำยองคิดว่าทุกคนจะรักลำยอง และทุกคนที่พูดความจริง เราไม่โกหก
ถาม นอกจากจะเป็นนักร้องคิวฮอต คิวทองแล้ว ยังเปิดบริษัทปั้นศิลปินอีกด้วย
ลำยอง : ไม่ได้เป็นการปั้นหรอกค่ะ ด้วยความที่เราเป็นครูมาก่อน เราเลยอยากสานฝันให้กับน้องๆ เรานึกถึงตอนที่เราเด็กๆ เราอยากเป็นนักร้อง เราไม่ได้รับโอกาสตรงนั้น ทั้งๆ ที่เราขยันเต็มที่แล้ว เราเลยรู้สึกว่าพอเรามีโอกาส มีเงินเรา เลยทำห้องอัด แล้วก็ทำเพลงให้น้องๆ ซื้อเพลงมา ทำดนตรี ทำ MV ให้เลือกเฉพาะคนที่มีความกตัญญูมาเป็นอันดับที่หนึ่ง เพราะไม่ว่าคุณจะเสียงดีขนาดไหน ถ้าไม่มีความกตัญญู ปั้นไปก็เสียแรงเปล่า กตัญญู ขยันขันแข็ง เสียงดีมาเป็นอันดับสุดท้าย เรามองถึงตัวเราเอง เพราะที่เรามีทุกวันนี้เพราะเรามีสองข้อแรกเต็มที่มาก
ลำยอง : มีคนถามเราเยอะค่ะ ว่าเราได้อะไรจากการที่เราทำตรงนี้ ขาดทุนค่ะ สิ่งที่เราได้คือความสุขจากสิ่งที่เราให้ เรามาทำตรงนี้ให้น้องๆ เราขอแค่อย่างเดียว เมื่อหาเงินมาได้ ต้องแบ่งให้พ่อแม่เท่านั้นเอง
ถาม สมัยก่อนที่จะมาเป็นลำยอง ณ ตอนนั้นคือลำบากสุดๆ เลยใช่ไหม
ลำยอง : ลำบากทำนา สีข้าว แบกถุงข้าว ตอนนั้นเราไปทำนา มองไปกลางทุ่งเห็นแดดแรงๆ เราก็พูดขึ้นมากับตัวเองว่า เราจะไม่กลับมาเหยียบที่นี่อีก ฉันต้องทำให้ชีวิตฉันดีกว่านี้ ฉันจะไม่ทำให้พ่อแม่ลำบาก แต่พอเราโตขึ้น เรากลับคิดใหม่ เรารู้สึกว่าตรงนั้นเป็นจุดเริ่มต้นของเรา พอเราประสบความสำเร็จแล้ว เราก็กลับไปที่จุดเริ่มต้นของเราคือท้องไร่ท้องนา ทุกวันนี้เราก็กลับไปทำเลี้ยงวัวเลี้ยงควาย มันเป็นความสุขที่แท้จริง เราแค่อยากให้คนที่เขาเห็น เราแต่งตัวเซ็กซี่มันคืองาน และอยากให้เกียรติกันบ้าง สิ่งที่เราทำเราตั้งใจทำให้มันออกมาดีที่สุด ให้ทุกคนได้สนุก ชื่นชอบในผลงานเพลงเรา แต่ก็ลำยองคิดว่าคนที่แต่งตัวเซ็กซี่แบบลำยอง ชีวิตจริงเขาไม่ได้เป็นอย่างบนเวที เท่าที่เรารู้จักมานะคะ ส่วนใหญ่มันคือการแสดง เราเลยอยากให้เกียรติพวกเราบ้าง เพราะนั้นคือเป็นอีกบทบาทหนึ่ง หน้าที่หนึ่งในการนำเสนอ