ญาติคนตายฉะขี้เมาขวางรถกู้ชีพไร้ความเป็นมนุษย์ - แม่เครียดลูกสำนึกยังถูกด่า (คลิป)

22 ธ.ค. 63

กรณีคลิปวิดีโอเจ้าหน้าที่พยาบาลกู้ชีพของโรงพยาบาลสมุทรปราการ ตัดสินใจคว้ามือถือมาถ่ายคลิปวีดีโอไว้เป็นหลักฐาน ในระหว่างทางที่รถพยาบาลกำลังเดินทางไปรับผู้ป่วยฉุกเฉินหมดลมหายใจ และเจ้าหน้าที่กำลังช่วยกันปั๊มหัวใจอยู่ภายในบ้านพักหลังหนึ่ง ในซอยวิทยุการบิน ต.ท้ายบ้านใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ

979256

แต่ระหว่างทางบนถนนสุขุมวิทนั้น รถพยาบาลซึ่งเปิดสัญญาณและเสียงฉุกเฉินเพื่อขอทาง ปรากฏว่านายสัมฤทธิ์ มณีฤทธิ์ อายุ 38 ปี ได้ขับรถเก๋งขวางรถพยาบาลอยู่นาน จนเจ้าหน้าที่ตัดสินใจเปลี่ยนเลนเพื่อเร่งไปช่วยชีวิตผู้ป่วย

345975514431

แต่นายสัมฤทธิ์กลับไม่หยุดพฤติกรรมดังกล่าว และปาดเข้าซ้ายพร้อมเปิดกระจกควักมือเรียนรถพยาบาลให้จอดข้างทาง ก่อนจะเดินลงมาต่อว่าเจ้าหน้าที่ด้วยถ้อยคำหยาบคาย

839628708677

ด้านเจ้าหน้าที่พยาบาล พยามอธิบายและร้องขอให้รถพยาบาลเข้าไปรับผู้ป่วยก่อน เนื่องจากอาการวิกฤตและหยุดหายใจ แต่นายสัมฤทธิ์กับไม่ยินยอม ถึงแม้เจ้าหน้าที่พยาบาลจะบอกว่า หากไม่เชื่อให้ขับรถตามหลังมาตรวจสอบได้ว่ามีผู้ป่วยจริงหรือไม่ 

615933

ขณะที่คลิปวิดีอีกมุมที่มีเจ้าหน้าที่กู้ภัยท่านหนึ่ง บันทึกเหตุการณ์เอาไว้ แสดงให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่ทั้งทีมกู้ชีพและกู้ภัยพยามช่วยกันปั๊มหัวใจเพื่อยื้อชีวิตให้กับผู้ป่วยรายหนึ่ง เป็นชาย อายุ 46 ปี ระหว่างที่รอรถพยาบาลกู้ชีพจากโรงพยาบาลสมุทรปราการมารับตัว สุดท้ายผู้ป่วยรายนี้เสียชีวิต

701227

เหตุการณ์ไม่จบแค่นั้น หลังจากที่แยกย้ายกันระหว่างรถนายสัมฤทธิ์กับรถพยาบาล นายสัมฤทธิ์ได้โทรศัพท์ไปยังศูนย์สั่งการระบบบริการทางการแพทย์ฉุกเฉิน จ.สมุทรปราการ เพื่อร้องเรียนว่ารถพยาบาลคันดังกล่าว ไม่มีเหตุฉุกเฉินแต่เปิดสัญญาณไฟ หากมีเหตุจริงจะต้องขับเร็วกว่านี้

635039

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่กู้ภัยและทีมกู้ชีพได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจของ สภ.เมืองสมุทรปราการ เข้าจับกุมนายสัมฤทธิ์ คาบ้านพัก พร้อมกับพบรถคันก่อเหตุ จอดอยู่ที่หน้าบ้านพัก เจ้าตัวทันทีที่พบตำรวจและจะต้องถูกคุมตัวส่งโรงพักดำเนินถึงกับหน้าซีด ฝ่ายมารดาถึงกับเอ่ยปากร้องขอเจ้าหน้าที่ไม่ให้จับกุมตัวลูกชาย เนื่องจากไม่มีเงินประกันตัว

755574

ตำรวจจึงคุมตัวนายสัมฤทธิ์ ไปตรวจวัดแอลกอฮอล์ พบว่าเกินกว่ากฎหมายกำหนด สูงถึง 190 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จึงถูกคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหาขับรถในขณะเมาสุรา และขับรถกีดขวางเส้นทางรถพยาบาล นอกจากนั้นอาจถูกแจ้งข้อหาหนักอีกกระทง คือ เข้าข่ายกระทำความผิดโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย หรือกระทำโดยเจตนาเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งทางด้านเจ้าหน้าที่พยาบาลได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับทางด้านพนังสอบสวนแล้ว ขณะที่มีรายงานว่า ทางครอบครัวของผู้เสียชีวิต เตรียมแจ้งความเอาผิดเพิ่มด้วยเช่นกัน

974940

ขณะที่นายสัมฤทธิ์ ผู้ก่อเหตุ หลังถูกจับกุมเจ้าตัวออกมายอมรับผิดและกล่าวคำขอโทษสาเหตุที่ทำไป อ้างว่ารถพยาบาลจี้ตูดมา ยอมรับว่าเห็นไฟฉุกเฉิน แต่ว่าไม่ได้ยินเสียงเจ้าหน้าที่ จึงคุมตัวส่งเข้าห้องขังเพื่อรอสอบปากคำดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

877654

ล่าสุดวันที่ 22 ธ.ค.63 ทีมข่าวสอบถาม นางณัฐฐินันท์ บริบูรณ์ ภรรยาผู้เสียชีวิต ยังอยู่ในอาการเสียใจ ร้องไห้ระหว่างมารับศพ ซึ่งเป็นคนที่นอนอยู่กับผู้ตาย เปิดเผยว่า ช่วงเวลา 21.00 น. หลังจากกินข้าวที่บ้านเสร็จ สามีได้เข้านอน

803469781202883140

จากนั้นระหว่างนอน สามีก็มีอาการหายใจไม่ออก หายใจแรง ตนพยายามเรียกให้สามีตื่น แต่ก็ไม่มีการตอบสนอง ตนเรียกอยู่ 1-2 นาที กระทั่งไปเปิดไฟห้องนอนพบว่าสามีอยู่ในอาการชักเกร็ง เริ่มมีอาการกระตุก ตนจึงช่วยปั๊มหัวใจสามี ก่อนที่พี่ชายจะเข้ามาช่วยปั๊มหัวใจต่อ ตนก็ออกไปเรียกอาสากู้ภัยซึ่งอยู่ใกล้บ้านกัน

655515239549603027

เมื่อกู้ภัยมาถึงก็มาการเรียกกู้ชีพมาต่อ เรื่องจากรถกู้ภัยไม่มีอุปกรณ์ในการช่วยเหลือ ซึ่งใช้เวลารอกว่า 20 นาทีกว่ากู้ชีพจะมาถึง ตอนนั้นไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น ตนก็นั่งรถกู้ชีพไปพร้อมกับสามี ระหว่างทางเจ้าหน้าที่ประจำรถกู้ชีพก็ช่วยชีวิตสามี ปั๊มหัวใจตลอดทาง ซึ่งตอนนั้นสามียังมีชีพจร แต่ไม่หายใจ และเจ้าหน้าที่มีการพูดออกมาว่า ถ้ามาเร็วกว่านี้น่าจะดีกว่า ซึ่งตอนแรกตนก็ไม่ทราบว่าหมายถึงอะไร จนกระทั่งมาทราบเหตุภายหลัง

806491

ทั้งนี้สามีไม่ได้สั่งเสีย ไม่ได้พูดอะไรหลังจากมีอาการหายใจไม่ออก ส่วนตัวไม่พบว่ามีลางอะไร มีเพียงสามีแต่งตัวใส่สูทไปรับตนที่ทำงานช่วงค่ำเท่านั้น โดยสามีบอกว่าเขาหนาวจึงแต่งตัวแบบนี้มา ตนคิดว่าหากสามีตนได้รับการช่วยที่เร็วกว่านี้อาจจะรอด สามีเลี้ยงดูตนมา 27 ปี ไม่เคยมีปัญหอะไรไร สามีไม่มีโรคประจำตัว รักครอบครัว เรากำลังสร้างครอบครัว

อีกอย่างตนเพิ่งตรวจเจอมะเร็งปอดระยะแรก ตะต้องเข้าผ่าตัดวันที่ 28 ธ.ค.63 ซึ่งสามีเตรียมลางานมาเฝ้าไข้ตน แต่ก็มาจากไปเสียก่อน ส่วนตัวยังไม่รู้จะทำอย่างไรต่อ ตนก็จะนำศพสามีกลับบ้าน เพราะสามีเคยบอกว่าอยากกลับบ้าน

849598

ทีมข่าวสอบถาม นายขำ ก้านบัว พี่ชายผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ตนอยู่บ้านใกล้ ๆ ผู้ตาย ซึ่งมีคนข้างบ้านมาเรียกตนว่ามีเหตุเกิดขึ้นที่บ้านผู้ตาย ตนเข้าไปพบว่าภรรยาผู้ตายกำลังปั๊มหัวใจอยู่ ตนจึงไปช่วยปั๊มหัวใจต่อ โดยให้ภรรยาน้องชายไปเรียกกู้ภัย ก่อนจะประสานงานกู้ชีพมา ซึ่งค่อนข้างรอนาน ตอนนั้นไม่มีใครรู้ว่ามีเหตุอะไรเกิดขึ้นระหว่างทาง กระทั่งมาทราบเรื่องในภายหลัง "ถ้าเขาเป็นมนุษย์ มีจรรยาบรรณความเป็นคน ต้องมีสามัญสำนึก เราไม่ต้องการอะไร เพียงอยากให้คนพวกนี้มีจิตสำนึก เพื่อให้น้องชายเป็นเคสอุทาหรณ์"

นายขำ ถึงกับเสียงสั่นน้ำตาคลอ ระบุว่า ตนเคยดูข่าวแบบนี้มาเยอะ แต่หากไม่ใช่ญาติคนที่สูญเสีย จะไม่รู้สึกเลยว่า คนที่เรารักอยู่ในมือเรา แล้วกำลังจะหลุดไปจากมืเรา มันรู้สึกอย่างไร ตนแน่นไปหมด มันเหมือนเรากำลังพยายามช่วยชีวิต แต่ระหว่างทางก็มีมัจจุราชมาพรากชีวิตญาติเราไป ตนเสียใจมาก น้ำตาตกใน คิดว่าถ้าไม่มีเหตุแบบนี้น้องชายต้องรอด น้องชายเป็นคนแข็งแรง ไม่มีเหตุอะไรที่น้องตนจะต้องจากไปแบบนี้

314863

หลังจากนั้นครอบครัวได้ติดต่อขอรับศพกลับ จ.เพชรบูรณ์ โดยจะนำไปตั้งศพไว้ที่วัด อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ ยังไม่กำหนดจำนวนวันที่จะสวด ต้องรอปรึกษาทางญาติก่อน นางณัฐฐินันท์ ผู้เป็นภรรยา ร้องไห้ด้วยความเสียใจ มาลูบหน้าศพ และบอกกับสามีว่า “นอนหลับให้สบาย” ก่อนจะเคาะโลง เรียกให้สามีกลับบ้าน และเดินทางออกจากนิติเวชไป

ทีมข่าวจึงเดินทางมาที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ พบว่านางเล็ก มณีฤทธิ์ มารดาผู้ก่อเหตุ ซึ่งเดินทางมาเยี่ยมลูกชายที่อยู่ในห้องคุมขังของโรงพัก นอกจากนี้ยังมีการสอบถามเรื่องการประกันตัว เบื้องต้นนายสัมฤทธิ์ ถูกคุมขังด้วยข้อหาเมาแล้วขับ และรอการเรียกไปสอบปากคำ เนื่องจากตำรวจอยู่ระหว่างการสอบปากคำพนักงานประจำรถกู้ชีพอยู่

927940

ทีมข่าวสอบถาม นางเล็ก เปิดเผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาลูกชายกลับมาถึงบ้าน ลูกไม่ได้ลงจากรถ ทำให้ตนไม่ได้คุยอะไรกับลูก กระทั่งได้ยินเสียงคนที่หน้าบ้านพบว่ามีกู้ภัยมาที่หน้าบ้านแล้ว ตนก็พยายามเรียกลูกชายให้ออกมาพูดคุยหากทำอะไรผิดพลาดไป

368057

ทั้งนี้ตนจึงทราบว่า ลูกชายไปขับรถขวางรถพยาบาล ซึ่งลูกชายอ้างว่า เขาไม่ได้ยินเสียง เห็นแต่แสงไฟ ซึ่งตนเข้าใจ และรู้ว่าลูกชายกระทำผิดไปแล้ว มันแก้ไขอะไรไม่ได้ ตนก็ได้ขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิตไป แต่ญาติฝ่ายผู้เสียชีวิตเขาไม่รับ ปกติลูกชายตนหากกินเหล้าจะไม่ขับรถ แต่ไม่รู้ง่าวานนี้ทำไมลูกถึงขับรถกลับ

813566

ตอนนี้ตนติดต่อเรื่องการประกันตัวลูกชายอยู่ ซึ่งตนก็เครียด เพราะบ้านหลังนี้อาศัยอยู่กันแค่ 2 คนแม่ลูก ลูกชายเป็นคนเลี้ยงดูตน เงินตนก็ไม่มี ตนไม่มีเงิน คงหาเงินจากไหนไม่ได้ และคงปล่อยให้ลูกติดคุกรับโทษไป ตนอยากขอความเมตตาให้ลูกชาย ลูกชายไม่ได้ตั้งใจ หากลูกไม่กินเหล้าจะเป็นคนเงียบ ๆ แต่หากกินเหล้าจะพูดเยอะ ใครพูดไม่เข้าหูจะอารมณ์ร้อน ส่วนที่ทำงานลูกชาย วันนี้เพียงโทรมาสอบถามข้อมูล ยังไม่ได้มีการแจ้งว่าจะไล่ออกหรือไม่ ส่วนเรื่องคดียังไม่มีการแจ้งข้อหาอะไรเพิ่ม ต้องรอสอบปากคำก่อน 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส