“จวบ ร้อยศพ” ฉุนโดนเหยียบหน้าจับฆ่าหนุ่มยัดถุงปุ๋ย เมียป้อง “พี่จวบคนดี” ไม่เศร้าผัวตาย (คลิป)

กรณีพบศพชายไทยถูกฆ่าตาย มัดมือมัดเท้า และใช้ผ้าขาวม้ารัดคอ ศพยัดกระสอบโยนทิ้งไว้กลางทุ่งนา ในพื้นที่หมู่ 2 ต.วังบ่อ อ.หนองบัว จ.นครสวรรค์ เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 63 ซึ่งเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า ผู้ตายน่าจะถูกฆาตกรรมมาจากที่อื่น แล้วนำศพยัดกระสอบมาทิ้งไว้

ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นายคนึง เจริญรัตน์ อายุ 48 ปี ชาว อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ แต่พักอาศัยอยู่กับภรรยาและลูก อยู่ในพื้นที่ อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เมียหนุ่มถูกฆ่ายัดกระสอบโดดป้อง "จวบ ร้อยศพ" ฉะผัวอยากกร่างปัดแอบกิ๊กกัน
- จับแก๊งฆ่าหนุ่มยัดกระสอบร่วมหัวกับญาติฆ่า แค้นแอบตีซี้เมียแต่ผัวดันมาเจอ
- เบาะแสศพมัดมือเท้ายัดกระสอบทิ้งป่า คาดเป็นหนุ่มทะเลาะวัยรุ่นในเพชรบูรณ์ถูกฆ่าทิ้งอำพราง

ล่าสุด วันที่ 23 ธ.ค. 63 นายสุเทพ มาลัยกุล หรือ จวบ  อายุ 65 ปี ผู้ก่อเหตุ ได้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วงเช้า หลังจากหลบซ่อนตัวอยู่ที่ป่าอ้อยใน จ.เพชรบูรณ์ มาดำเนินคดี เบื้องต้น ตำรวจได้แจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น

นายสุเทพ เปิดใจเล่าเหตุการณ์ว่า วันที่ 19 ธ.ค. 63 ตนเองได้ไปตีไก่อยู่ที่ตากฟ้า จ.นครสวรรค์ แล้วนางไพลิน เมียคนตายได้โทรมาถามตนว่าอยู่ไหน จะกลับเมื่อไร ตนจึงบอกไปว่ากลับตอนเย็น ภรรยาผู้ตายก็บอกว่า "ถ้ากลับมาแล้วมาหาหนูที่เพชรละครนะ หนูจะเข้าบ้านแล้วเข้าไม่ได้ เพราะกลัวถูกผัวตี" จึงอยากให้ตนพาเข้าบ้าน และเมื่อตนกลับมาจากตีไก่ประมาณ 19.00 น. ตนได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปหาเมียผู้ตาย ที่ทางแยกเข้าบ้านเพชรละคร

จากนั้น เมื่อไปถึงก็ได้พาเข้าบ้าน ประกอบกับตนตั้งใจจะไปคุยกับแม่ของนางไพลินพอดี เรื่องจะเช่าที่ดินให้ตนทำไร่ แล้วตนก็นั่งคุยกับแม่เขา ตอนนั้นผู้ตายไม่อยู่ ไปกินเหล้านอกบ้าน

ต่อมาผู้ตายก็กลับมาบ้าน ตนเห็นท่าไม่ดี จึงไปคุยกับแม่ฝ่ายหญิงที่ข้างกองไฟ พร้อมขอเงินตนไปซื้อเหล้าและเบียร์มากิน ตนก็กินด้วย 1 แก้ว จากนั้น ผู้ตายได้เดินดิ่งเข้ามาหาที่กองไฟพร้อมถามตนว่า "ป๋าจวบรึ" ตนก็ตอบว่า "ใช่ครับ" เขาก็คว้าคอเสื้อตนแล้วต่อยทันที ตนก็ได้ต่อยสวนคืนไป 

ขณะนั้นทั้งภรรยาผู้ตายและแม่ก็ช่วยกันห้าม และจับแยกออกจากกัน แต่ผู้ตายไม่ยอมหยุด คว้าท่อนไม้ฟืนที่ติดไฟยาวกว่า 1 เมตร ฟาดใส่ตนก่อน แล้วเกิดการกอดรัดฟัดเหวี่ยงอยู่นานราว 10 นาที จนตนดิ้นหลุด แม่ฝ่ายหญิงก็รีบช่วยตนออกมา พร้อมพาออกไปนอกบ้าน

จากนั้น ตนก็ได้โทรกลับไปหาหลานให้เอารถมารับกลับบ้าน มากัน 2 คัน รถหลานเขยกับรถหลานชาย ตนได้ขึ้นรถเก๋งหลานชายพร้อมวกรถกลับไปที่บ้านเกิดเหตุอีกครั้ง พร้อมถามว่า "เมื่อกี้ต่อยผมทำไม" แต่ผู้ตายตะโกนออกมาว่าถูกซ้อมถูกรุมตีก่อน ซึ่งที่จริงตนโดนเขาเปิดฉากต่อยก่อนด้วยซ้ำ จึงทำให้ตนโกรธ

ตนตรงเข้าล็อกคอเอาขึ้นรถหวังมาพูดคุยกันที่บ้าน แต่ปรากฏว่าไม่รู้ว่าคอหักตอนไหน เพราะตอนอยู่ในรถก็มีการสู้กันล็อกคอกันจนขาดอากาศหายใจตาย ตนยืนยันไม่ได้ใช้ไม้ตี และเมื่อรู้ว่าเสียชีวิตจึงคิดเอาศพไปทิ้ง

ทั้งนี้ ตนยืนยันว่าตอนเกิดเหตุสายชลไม่รู้เรื่อง เพราะตนเป็นคนให้นายสายชล ลูกชาย เอารถตามไปทีหลัง หลังเกิดเหตุตนได้ให้นายสายชลขับรถจักรยานยนต์ตามหลังรถเก๋งไป ตอนนั้นยังไม่คิดว่าผู้ตายเสียชีวิตไปแล้ว แต่หลังจากรู้ว่าตาย ตนกับนายสายชลจึงขับรถจักรยานยนต์กลับมาเอารถนายกันต์ไป พร้อมแวะเติมน้ำมัน 200 บาท เพื่อนำศพไปทิ้ง ยืนยันว่าต่อจากนี้จะติดต่อให้นายสายชลมามอบตัวแน่นอน แต่ตอนนี้ยังติดต่อไม่ได้

ตนยอมรับว่า ที่ทำไปเพราะความโกรธที่ผู้ตายลงมือทำร้ายร่างกายตนเองและใช้เท้าเหยียบหน้า ตนจึงเรียกนายสมศักดิ์ หรือ กันต์ กับนายระพีพัฒน์ หรือ โก้ มาเคลียร์ปัญหา และเรียกนายคม หรือ สายชล มาช่วยในการเคลื่อนย้ายศพไปทิ้ง

นางไพลิน แฟนไธสง ภรรยาของนายคนึง ผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ตนเองยืนยันเหมือนเดิมว่าวันเกิดเหตุ นายจวบไม่ได้ทำอะไรผิด แต่นายคนึง สามีตนไปทำร้ายนายจวบก่อน นายจวบจึงบันดาลโทสะก่อเหตุ ซึ่งนายจวบมาคุยธุระเรื่องเช่าที่ดินกับแม่ตนเท่านั้น ไม่ได้มาเรื่องชู้สาวกับตนเอง และตนก็ฝากถึงนายจวบ ถ้าเขามามอบตัว คดีก็จะคลี่คลายได้ง่าย

ทั้งนี้ สามีตนเสียชีวิต ตนก็ไม่เชิงว่าเสียใจ เพราะตนไม่รู้ว่าจะนั่งร้องไห้ไปทำไม สามีตนก็ตายไปแล้ว ตนไม่สนใจว่าชาวบ้านจะพูดถึงตนอย่างไร เพราะปัญหาในครอบครัวของแต่ละครอบครัวไม่เหมือนกัน ส่วนกรณีที่มีข่าวว่านายจวบเคยเป็นอดีตมือปืนนั้น ตนก็พอรู้เรื่อง แต่นายจวบเขาก็วางมือจากอาชีพนี้มานานแล้ว

สำหรับงานศพของสามีตน ก็ตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดของเขาใน จ.สุรินทร์ ตนไม่ไปร่วมงานศพสามี เพราะตนไม่มีเงินติดตัวแม้แต่บาทเดียว ตนจึงไปร่วมงานศพสามีไม่ได้ อีกทั้งตนอยากฝากถึงนายจวบว่าถ้าพี่ทำผิดก็ให้พี่มามอบตัว แต่ถ้าพี่ไม่ได้ทำความผิด พี่ก็หาคนที่ทำความผิดจริง ๆ มามอบตัว "นายจวบเป็นคนดี มีความเป็นผู้ใหญ่ แต่สามีตนไปทำเขาก่อน คนตายไม่ใช่ว่าจะถูกเสมอไป ตอนนี้ตนก็อโหสิกรรมให้สามีตนแล้ว"

นางมะระ (นามสมมติ) ชาวบ้านในหมู่บ้านหนองแดง เล่าว่า ตนเองก็รู้สึกหดหู่ใจกับการกระทำของนายจวบ และถือว่าเป็นการกระทำที่ไร้คุณธรรมมาก ตนก็อยากให้กฎหมายเอาผิดเต็มที่

สำหรับเหตุการณ์ในอดีตของนายสุนทร ธรรมวงษ์ศรี ที่ถูกนายจวบยิงเสียชีวิตเมื่อปี 2550 ที่ผ่านนั้น ตนก็พอทราบเหตุการณ์วันเกิด 26 มี.ค. 2550 นายสุนทรได้ไปที่ ต.สระแก้ว อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ ขากลับเวลาประมาณ 01.30 น. ถูกนายจวบที่เป็นมือปืนรับจ้างในตอนนั้นยิงจนเสียชีวิต

โดยนายจวบ หลังจากเขาไปก่อเหตุฆาตกรรมใครมา ก็จะมานุ่งผ้าถุงอยู่ที่บ้าน 7 วัน เพื่อเป็นเคล็ดของมือปืน ไม่ให้ถูกตำรวจจับ และไม่ให้วิญญาณของคนที่เขาฆ่ามาครอบงำได้ นอกจากนี้ เพื่อความปลอดภัยของชาวบ้าน ตนก็อยากให้เจ้าหน้าที่จับกุมนายจวบไปดำเนินคดี ชาวบ้านจะได้นอนหลับกันทุกคน

ต่อมาทีมข่าวย้อนรอยคดีเก่าของนายจวบ เดินทางมายังบ้านของนายสุนทร ผู้เสียชีวิตในคดีดังกล่าวที่ ต.กันจุ อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ โดยนางต่าย ภรรยาของนายสุนทร ผู้เสียชีวิต เล่าว่า สามีตนเองก็เคยถูกนายจวบยิงจนเสียชีวิต เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อปี 2550 สามีตนได้ไปเล่นการพนันที่ ต.สระแก้ว อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ ขับรถมอเตอร์ไซค์กลับบ้าน มีผู้หญิงที่สามีไปได้มาจากโต๊ะพนันซ้อนท้ายสามีมาด้วย 1 คน ถูกผู้ชาย 2 คน แต่งกายด้วยชุดสีดำดักรอที่ข้างถนนดักรอ ใช้อาวุธปืนยิงสามีตนเองจนเสียชีวิต

ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าสามีตอนนั้นไปมีเรื่องกับอริที่ไหน แต่เท่าที่ทราบข้อมูลคนที่มายิงสามีตนนั้นคือนายจวบ ตอนนั้นตนก็รู้สึกเสียใจมาก แต่ตนไม่รู้ว่าในวงการพนันสามีไปผิดใจกับใครบ้าง ส่วนกรณีที่นายจวบพ้นโทษแล้วมาก่อเหตุอุ้มฆ่านายคนึง เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 63 ที่ผ่านมานั้น ตนก็ตกใจว่าเขาไปก่อเหตุฆ่าคนอีกแล้วหรือ ตนอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจประหารชีวิตนายจวบ เพราะเขาก่อเหตุแล้วหลายครั้ง

หลังจากที่สามีตนถูกฆ่าตาย ตนก็ขาดเสาหลักของครอบครัว และค่อนข้างที่ใช้ชีวิตลำบาก ถึงจะผ่านมากว่า 13 ปีแล้ว ทุกวันนี้ตนก็ยังนึกเห็นภาพศพของสามีที่นอนเสียชีวิตอยู่กลางถนน

ด้านนายอัครชัย เจริญรัตน์ หลานชายของนายคนึง ผู้เสียชีวิต กล่าวพร้อมชี้หน้าผ่านกล้องว่า ที่นายจวบอ้างว่าแค่ล็อกคอน้าตนเอง อยากถามว่าบาดแผลที่ตัวคนตายมาจากไหน ใครเป็นคนทำกันแน่ อยากให้นายจวบและหลานมาหาตนเอง มาให้ล็อกคอบ้าง พร้อมขอบคุณที่มามอบตัว ขอบคุณสื่อมวลชนที่ช่วยติดตามทำข่าวด้วย

"ให้มาเจอตนเองได้เลย ตนรออยู่ที่ จ.สุรินทร์ จะลองล็อกคอบ้าง แล้วจะส่งนายจวบให้เป็นศพตามน้าชายไป ตนไม่เชื่อว่านายจวบแค่ล็อกคอน้า เพราะพบบาดแผลตามร่างกาย อยากถามกลุ่มผู้ก่อเหตุว่าตอนที่ทำร้ายไม่สงสารคนตายบ้างเหรอ ตนเองเสียคนสำคัญของครอบครัว ทุกคนรู้สึกเสียใจมาก" หลานผู้ตาย กล่าว