เข้าประตูวิวาห์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับอดีตนักร้องบอยแบนด์ชื่อดังแห่งยุค 90 “เปปเปอร์ UHT” หรือ ดร.รัฐศาสตร์ กรสูต ที่วันนี้ (24 ธันวาคม 2563) ได้ฤกษ์งามยามดีจูงมือแฟนสาวนอกวงการคนสวย “ครีม ศุภากร หล่อพิพัฒน์” แต่งงานกันที่ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "เปปเปอร์ UHT" จูงมือแฟนสาวนอกวงการ "ครีม ศุภากร" เข้าพิธีวิวาห์สุดชื่นมื่น
โดยพิธีจัดขึ้นในช่วงเช้า มีตั้งแต่ พิธีไทย ผสมจีน มีการไหว้พระ รับพร มีพิธีสวดไทย รวมถึงการยกน้ำชา ซึ่งบรรยากาศก็เป็นไปอย่างอบอุ่น มีเพียงญาติๆ และเพื่อนสนิทไม่เกิน 200 คน ตามมาตรการของรัฐบาลในช่วงนี้ หลังจากนั้นก็ได้จูงมือกันมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน โดยฝ่ายชาย ได้หยอดหวานต่อหน้าสื่อว่า ที่เลือก น้องครีม มาเป็นเจ้าสาว เพราะอยู่ด้วยแล้วรู้สึกมีความสุข ไม่อยากไปไหน ทำอะไรเลย จึงคิดว่าคนนี้นี่แหละคือคู่ชีวิตที่เกิดมาคู่กัน เช่นเดียวกับ น้องครีม ที่บอกว่า ก่อนจะเจอหนุ่มเปป ก็ไม่เคยมีความคิดว่าอยากจะแต่งงานเลย แต่พอเจอเจ้าบ่าวกลับเปลี่ยนใจได้
ในส่วนของแพลนมีทายาท อาจจะรออีกสัก 2 ปี เพราะอยากใช้ชีวิตคู่ด้วยกันก่อน แล้วทั้งคู่ก็ยังมีงานของตัวเองที่ยังต้องโฟกัสอีกด้วย ทำให้เรื่องของการจดทะเบียนสมรสก็พักไว้ก่อน รอพร้อมแล้วค่อยว่ากันอีกที ด้านแพลนฮันนีมูน จองไปเชียงใหม่กันไว้ประมาณปลายปี แต่เมื่อเกิดสถานการณ์แบบนี้คงต้องมาคิดกันใหม่ ว่าจะเอายังไงดี
สุดท้ายฝ่ายชายบอกว่า วันนี้ขนสินสอดมามากถึง 39 ล้าน ประกอบไปด้วย เงินสด 5 ล้าน ทองคำ 50 บาท ที่ดินและบ้าน 4 แปลง แล้วก็เครื่องเพชร ทำให้ฝ่ายหญิงพูดติดตลกว่า เอามาขนาดนี้ ไม่แต่งไม่ได้แล้ว
ฝ่าวิกฤตโควิด-19 จนถึงวันนี้ได้
เปปเปอร์ : “เรียกว่าลุ้นกันมาตลอดตั้งแต่ตอนจะขอ พยายามดูข่าวว่าเมื่อไหร่จะปลดล็อค แต่ก็ไม่มีการปลดล็อค เลยตัดสินใจขอที่หมู่บ้านตัวเอง เราคิดว่าเราดูแลความปลอดภัยได้ จนกระทั้งถึงงานแต่ง จริงๆ คิดว่าสิ้นปีไม่น่าจะมีเหตุการณ์อะไร เตรียมงานมาตลอด เราเผื่อจำนวนคนไว้ตลอดเผื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน เราคิดว่าน่าจะกลับมาปกติได้ แต่ว่าอย่างที่ทราบดี เราก็กลับไปแผนเดิม คือจัดแบบ New Normal แขกไม่เยอะ เป็นงานที่อบอุ่น มีญาติพี่น้อง เพื่อนสนิทมาร่วมงานของเรา”
ครีม : “สิ่งสำคัญคืออยากให้อยู่ในเกณฑ์ที่ปลอดภัยค่ะ”
ต้องปรับแผนอะไรกันเยอะไหมกับงานแต่งของเรา
เปปเปอร์ : “ผมว่าโชคดีนะ ที่ตอนแรกเรามาจองโรงแรมประมาณกลางปีที่ผ่านมา เราตั้งใจที่จะทำให้อยู่ในปริมาณที่ไม่เยอะอยู่แล้ว วามารถดูแลความปลอดภัยได้ทั่วถึง ที่แรกตั้งใจจะขยายให้งานใหญ่ขึ้น แต่สุดท้ายมีเหตการณ์ เราก็กลับมาแผนเดิม”
มีแขกทั้งหมดกี่คน
ครีม : “ตอนแรกเลยเราวางไว้ 200 คน และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เป็น 300-400 คน แต่ตอนนี้กลับไปเป็น 200 คน เหมือนเดิม เพราะว่าทางรัฐมีมาตราการว่าถ้าเกิน 300 คนต้องแจ้ง”
ธีมงานวันนี้เป็นอย่างไรบ้าง ?
ครีม : “เราสองคนมีความเชื่อเรื่องของราศรี พี่เปปเป็นคนธาตุดิน ราศรีมังกร ตัวครีม ราศรีมีน ธาตุน้ำ ช่วงระหว่างที่คบกัน เราสังเกตุเห็นว่าลักษณะนิสัยของคู่เรา มีความคล้ายธาตุดินกับธาตุน้ำ เลยเป็นคอนเซ็ปต์ของงานวันนี้คือ ผู้ชายธาตุดิน ผู้หญิงธาตุน้ำ”
พิธีตอนเช้าเป็นอย่างไรบ้าง ?
เปปเปอร์ : “เป็นพิธีไทย ผสมจีน มีการไหว้พระ รับพร มีพิธีสวดไทยแล้วก็มีเรื่องของการยกน้ำชา มีผู้ใหญ่มาให้พรเราเยอะ”
มีเสียน้ำตาไหม
ครีม : “มีเสียน้ำตาตอนกั้นประตูมากกว่าค่ะ เพราะว่าเพื่อนๆ จัดเต็ม และมีไลฟ์ให้เจ้าสาวดูด้วยค่ะ”
เปปเปอร์ : “เราก็คุยกัน ด้วยว่าเจ้าสาวต้องอยู่อีกห้องทำยังไงดี ถ้ายังงั้นก็ไลฟ์แล้วกัน เจ้าสาวได้ดูด้วย แต่ว่าเขาไม่บอกผมเลยว่าทำอะไร ตอนแรกผมก็ถาม เพราะเข้าใจว่าต้องมีการเตรียมกันก่อน แต่นี้เขาไม่บอกผมเลย ทุกอย่างสดหมดเลย”
ทางคุณพ่อคุณแม่ได้มีฝากฝังยังไงบ้าง ?
ครีม : “ทางของครอบครัวบอกว่าให้คิดว่าชีวิตครอบครัวเหมือนกับการวิ่งมาราธอน ต้องใจเย็นๆ มีอะไรก็เดินไปด้วยกันค่ะ”
เปปเปอร์ : “ครอบครัวของครีมบอกว่า ถ้าเราทำผิดก็ให้ขอโทษ แต่ถ้าเราถูกก็ให้เราขอโทษเหมือนกันครับ(หัวเราะ)”
ต้องให้ฝ่ายหญิงเป็นผู้นำ ?
เปปเปอร์ : “ใช่ครับ ต้องให้คนหนึ่งยอม ถ้าอย่างนั้นผมเป็นฝ่ายยอมเองก็ได้ครับ”
ครีม : “ต่างคนต่างยอมกัน เพื่อความรักค่ะ”
คบกันมากี่ปีแล้ว ?
เปปเปอร์ : “ประมาณ 3 ปีครับ”
อะไรที่คิดว่าต้องแต่งกับคนนี้แหละ ?
เปปเปอร์ : “ผมรู้สึกว่าเวลาอยู่กับน้องครีม แล้วมีความสุข เป็นตัวของตัวเอง แล้วก็ไม่ต้องอะไรแล้ว ไม่อยากไปไหน ไม่อยากทำอะไร แค่ได้อยู่ด้วยกันก็มีความสุขแล้ว ก็เลยคิดว่าความรู้สึกนี้ น่าจะใช่ แล้วก็เราได้มองเห็นอนาคตว่าเราจะวางแผนกันยังไง ผมเห็นภาพอนาคตของตัวเองกับน้องครีม แล้วก็คิดว่าคนนี้แหละ ที่เราเกิดมาคู่กัน”
ครีม : “ต้องบอกว่าจริงๆ แล้ว เรา 2 คนเป็นคนที่ก่อนหน้านี้ ไม่มีภาพการแต่งงานอยู่ในหัวเลย ค่อนข้างไกลมาก เพราะหวงความโสดของตัวเองอยู่พอสมควร แต่ว่าพอเรามาเจอคนที่ใช่แล้วจริงๆ ถ้าเขาเปลี่ยนเราได้ขนาดนี้ แสดงว่าคงต้องมีอะไรที่น่าใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ไม่ว่าลักษณะนิสัย หรือการเติมเต็มต่างๆ การมองโลก วิสัยทัศน์ต่างๆ ทำให้เราอยากเปลี่ยนตัวเองขึ้นมา แล้วก็ก้าวไปสู่จุดใหม่ด้วยกัน”
วางแผนการมีน้องยังไงบ้าง ?
ครีม : “ยังเลยค่ะ จริงๆ จัดงานแต่งก็เหนื่อยแล้วนะคะ ช่วงโควิดก็เหนื่อย เลยอยากจะพักกันหน่อย แล้วก็ลุยเรื่องงานด้วย ก็ค่อยคิดเรื่องมีน้อง”
วางแผนชีวิตคู่หลังจากนี้ยังไงบ้าง ?
เปปเปอร์ : “ก็ยังทำงานทุกวันเหมือนเดิม เราก็คิดว่าการใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกัน คงต้องพยายามให้สเปซซึ่งกันและกัน น้องครีมก็มีงานของเขา ผมก็มีงานของผม เราก็พยายามหาตรงกลางที่สามารถใช้เวลามาเจอกัน มาทำกิจกรรมร่วมกันได้ โดยที่ทุกคนยังมีภาระหน้าที่ และโลกของตัวเองอยู่ แล้วการที่จะอยู่ด้วยกันแล้วหาตรงกลางให้กันได้ ก็จะทำให้ความสัมพันธ์ราบรื่น ก็ต่อไปได้ยาวนานขึ้น”
ครีม : “ ในมุมมองของเรา 2 คน ความสุขของเรา 2 คน คือการได้สร้างความสมดุลในเรื่องของครอบครัวแล้วก็งานด้วย แล้วการที่เราได้ทำงานต่อไป ก็จะมีประสบการณ์ไว้สอนรุ่นลูกรุ่นหลานเราต่อไปด้วย ก็อยากจะเก็บอย่างนี้ไปเรื่อยๆ”
ในเรื่องของสินสอดทองหมั้นโอเคไหม ?
ครีม : “โอเคสิคะ เขามาขนาดนี้ก็ต้องโอเคแล้วค่ะ”
มีอะไรบ้าง ?
เปปเปอร์ : “มีเงินสด 5 ล้าน มีทองคำ 50 บาท มีที่ดิน บ้าน 4 แปลง แล้วก็เครื่องเพชร ซึ่งรวมแหวนด้วย มูลค่า 39 ล้านบาท ซึ่งเป็นเลขมงคลของเรา 2 คนด้วย”
เรือนหอจะสร้างใหม่ไหม ?
เปปเปอร์ : “ก็จะมีที่ดินเปล่า ที่เราเก็บไว้ แล้วก็บ้านที่เราอยู่ปัจจุบัน”
ครีม : “อาจจะต่อเติมบ้าน ให้เหมาะกับการขยายครอบครัว”
แพลนฮันนีมูน ?
ครีม : “ตอนแรกมีแพลนไปเชียงใหม่กันค่ะ เราของทริปกันก่อนจะเกิดเหตุการณ์ เราก็ดูไปแต่ละวันเลยค่ะ ว่าเป็นยังไง”
เปปเปอร์ : “ไปประมาณปลายปี วัน-สองวัน คิดว่าจะไปฮันนีมูนเปลี่ยนบรรยากาศซักหน่อย แต่ก็เดี๋ยวดูอีกที”
จดทะเบียนสมรส?
ครีม : “อันนี้น่าจะเป็นในอนาคต ยังไม่ได้รีบ แต่ถ้าถามว่าอยากจดไหมเรารักกันเราก็อยากจด คำนำหน้านี่ได้หมดเลย ไม่ได้ซีเรียสเรื่องนี้”
ทั้งคู่ไม่เชื่อเรื่องการแต่งงาน พอได้มีวันนี้จริงๆ แล้วความรู้สึกเปลี่ยนไปไหม?
เปปเปอร์ : “ผมว่าเปลี่ยน อย่างตัวผมเองผมไม่เคยคิดว่าจะต้องมีการแต่งงาน มีชีวิตคู่ อยู่ร่วมเป็นครอบครัวกับใคร เมื่อก่อนเรามองภาพตัวเองไม่ออกจริงๆ เรามีความสุข สนุกกับการทำงาน แต่วันนี้ผมได้เจอน้องครีม ผมรู้สึกว่าผมมีความฝันใหม่เกิดขึ้น เมื่อก่อนผมฝันแต่เรื่องานอย่างเดียวเลย มีแต่งาน งาน งาน อยากสำเร็จ ตอนนี้ผมเริ่มมีความฝันใหม่ๆ อยากจะมีครอบครัวที่อบอุ่น อยากจะมีลูก อยากที่จะมีคนอยู่ข้างๆ ทำอะไร คิดอะไรก็ปรึกษากัน ทำด้วยกัน ชีวิตแบบนี้มันเติมเต็มกว่า มีความสุขมากกว่า”
ครีม : “ตัวครีมเป็นคนที่ค่อนข้างมีมาตรฐานในการมีชีวิตครอบครัวค่อนข้างสูง เราจะคิดว่าถ้าคนไหนที่ทำให้เรามีความสุข แล้วเขาทำให้เรามีความสุขได้ไม่เท่ากันก็ไม่แต่งดีกว่า เพราะรู้สึกว่าจะทำให้เขาผิดหวัง แล้วตัวเราเองก็ผิดหวังด้วย แต่พอมาเจอพี่เปปก็มีความรู้สึกว่าคนนี้คือเขาไม่เหมือนใครจริงๆ ทำให้เรารู้สึกท้าทายที่จะเป็นคนที่ดีขึ้น เพื่อที่จะทำให้เขามีความสุขมากขึ้น แล้วเขาก็ทำให้เรามีความสุขด้วย”
แพลนไว้ว่าจะมีทายาทเมื่อไหร่?
ครีม : “น่าจะ1-2ปี”
เปปเปอร์ : “คุยกันว่าอยากจะใช้ชีวิตคู่กันสักพักหนึ่งก่อนปีหนึ่ง ให้ทุกอย่างเรียบร้อยค่อยคุยกันเรื่องของการมีทายาท”
ครีม : “เรื่องนี้เราก็ซีเรียสเหมือนกัน รู้สึกว่าสภาพจิตใจของคนเป็นพ่อเป็นแม่ต้องพร้อมด้วย ก่อนที่จะตัดสินใจ”
มีอะไรอยากจะขอบคุณใครเป็นพิเศษไหม?
เปปเปอร์ : “ขอบคุณ คุณพ่อคุณแม่ของน้องครีม รวมถึงญาติๆ ทุกคนเลยทั้งของผมและน้องครีม รวมไปถึงเพื่อนฝูงที่ช่วยกันและกัน มีปัญหาเราก็ปรึกษากัน มีเรื่องดีๆ เราก็แชร์กัน ต้องขอบคุณน้องครีมที่เข้ามาในชีวิตผม ทำให้ผมได้เข้าใจและรู้จักกับความรัก วันนี้เป็นวันที่พิเศษของผม เป็นวันที่ผมได้มีครอบครัวจริงๆ คิดว่าจะทำให้ดีที่สุด หลังจากวันนี้ก็จะอยู่ในสถานะใหม่ สถานะที่ต้องคิดถึงคนข้างๆตลอดเวลา ต้องพยายามที่จะสร้างครอบครัวที่เป็นพื้นฐานสำคัญของชีวิตให้ดีที่สุด”
ครีม : “ขอบคุณโชคชะตาที่ทำให้เราได้มาเจอกัน เหมือนเรื่องราวของเราที่มาพบเจอกันมันเป็นเรื่องที่บังเอิญมากๆ เลย จังหวะหลายๆอย่างที่อยู่ดีๆ ก็ทำให้เราได้มาเจอกัน ก็ขอบคุณคนรอบข้างที่ทำให้เราได้มาเจอกัน”
คำมั่นสัญญาที่ให้กัน?
เปปเปอร์ : “ผมเคยสัญญากับครีมว่าผมจะจับมือกับครีมอย่างนี้ตลอดไปไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น”
ครีม : “ครีมสัญญาว่าพอเราแต่งงานกันแล้วเราก็จะมีบทบาทที่มากขึ้น เป็นทั้งภรรยาและเป็นทั้งแม่ ครีมจะทำทุกบทบาทให้ดีที่สุดค่ะ”
