จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ตัดพ้อว่า "ออกจากกักตัวโดนเลยแท็กซี่ๆๆๆๆไม่อยากให้เกิดขึ้นเลย #ค่าแท็กซี่จากโรงแรมแถวๆสุขุมวิท มาทีสายใต้แปดร้อยนะค้า นี่ละคะประเทศไทย คนแบบคุณกำลังไม่ซื่อสัตย์กับอาชีพที่คุณทำ สายด่วน1584ช่วยอะไรได้บ้างคะ ช่วยแชร์กันได้นะคะไม่อยากให้เกิดขึ้นในสังคมไทยแล้วยิ่งสถาณการ์ณตอนนี้"
โดยในโพสต์ มีภาพแท็กซี่สีเหลือง ทะเบียนกรุงเทพฯ มีคลิปความยาว 1.2 นาที เป็นบทสนทนาระหว่างผู้โพสต์และคนขับแท็กซี่ ใจความว่าแท็กซี่ไม่กดมิเตอร์ เรียกเก็บค่าโดยสารจากสุขุมวิท ไปยังสายใต้ ในราคา 800 บาท ซึ่งเป็นค่าโดยสาร 700 บาท และอีก 100 บาทเป็นค่าทางด่วน คนขับแท็กซี่อ้างว่าเป็นราคาในช่วงโควิด-19 อีกทั้งเป็นค่าความเสี่ยงที่คนขับต้องรับผู้โดยสารที่ต้องกักตัวและมีความเสี่ยง
วันที่ 24 ธ.ค. 63 น.ส.อุทัยทิพย์ แดงสี อายุ 38 ปี ผู้โดยสาร เล่าเหตุการณ์ว่า เมื่อเช้านี้ ตนออกจากสถานที่กักตัวที่โรงแรมแถวสุขุมวิท กรุงเทพฯ เพราะตนเดินทางมาจากต่างประเทศ จากนั้นพอครบกำหนดกักตัวจึงจะกลับบ้านที่ จ.กระบี่ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงเรียกรถแท็กซี่ให้
จากนั้นรถวิ่งต่อไปปกติเพื่อจะเดินทางต่อไปขึ้นรถทัวร์ที่สายใต้ใหม่ ถนนบรมราชชนนี แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพ ฯ มาถึงจุดจ่ายเงินค่าทางด่วน แท็กซี่บอกให้ต้นหยิบแบงก์ 1,000 บาท ออกมาเพื่อที่จะได้จ่ายค่าผ่านทาง 100 บาท
จากนั้น ตนให้แบงก์ 1,000 บาทไปจ่ายค่าทางด่วนเรียบร้อย แท็กซี่ไม่ยอมคืนตังค์ทอนให้ตน จนผ่านไปร่วม 10 นาที จากนั้นคนขับแท็กซี่ได้ยื่นเงินคืนกลับมาให้ตอน 200 บาท ตนก็ถามด้วยความสงสัยว่าทำไมได้เงินแค่นี้ แท็กซี่ให้คำตอบว่า 200 บาทที่ทอน ไปเป็นเงินทอน ส่วน 800 ที่หักมาแยกเป็นค่าทางด่วน 100 บาท และค่ารถ 700 บาท จากนั้นตนจึงหยิบโทรศัพท์มือถือมาถ่าย เพราะตนมองว่าเกินไปในราคานี้ และอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดำเนินการ ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับใครอีก
