จากกรณีวันที่ 29 ธ.ค. 63 เกิดเหตุเพื่อนบ้านติดกัน แย่งกันเป็นเจ้าของต้นมะละกอที่ปลูกขึ้นอยู่ในพื้นที่ของคนอื่น จนถึงขึ้นทำลายข้าวของกันนั้น
ที่เกิดเหตุบริเวณซอยไพศาล ถนนเจ้าฟ้า ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต นางสุกัลยา ส้มเกลี้ยง ผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนเพิ่งมาซื้อที่ดินแปลงติดกับโรงเหล็ก เมื่อประมาณ 6 เดือนที่ผ่านมา และได้มีเรื่องทะเลาะกันเล็ก ๆ กับเพื่อนบ้านมาโดยตลอด โดยฝ่ายโรงเหล็กเป็นผู้เข้ามาหาเรื่องทุกครั้ง
ล่าสุด เหตุเกิดเพราะต้นมะละกอที่คู่กรณีบ้านโรงเหล็กเป็นผู้ปลูกเอาไว้ในที่ดินอีกหนึ่งแปลงที่ติดกับบ้านตน แล้วมีเพื่อนบ้านมาขอมะละกอไปแกงไตปลา ตนจึงแจ้งเพื่อนบ้านว่าให้ไปขอกับคนที่ปลูกเอาไว้ แล้วตนก็อนุญาตให้เพื่อนบ้านเข้ามาเก็บมะละกอได้ แต่คู่กรณีบ้านโรงเหล็กได้ยินพี่ตนพูดกับเพื่อนบ้าน จึงเดินเข้ามาถามว่า "ก่อนที่จะอนุญาตให้ใครมาเก็บมะละกอ กรุณาถามคนปลูกก่อน ไม่ใช่ใครใครก็เก็บได้"
หลังจากนั้น ก็มีการประทะคารมกันเกิดขึ้น บ้านโรงเหล็กไม่พอใจตนเป็นอย่างมาก ใช้หินปาเข้ามาที่บ้านตน ถูกกระจกหน้าต่างแตก ก้อนหินทะลุกระจกหน้าต่างไปโดนผนังห้องน้ำแตก หลังบ้านกับห้องน้ำเป็นแผ่นกระเบื้องกระเด็นเข้ามาในบ้าน ลูกสาวและลูกชายอยู่ในบ้างวิ่งออกมาพร้อมกับเสียงร้องด้วยความตกใจ ลูกชายได้วิ่งออกไปบอกเพื่อนบ้านให้แจ้งตำรวจให้เข้ามาช่วย หลังจากนั้นบ้านโรงเหล็กจึงเข้าไปตัดต้นมะละกอทิ้ง ซึ่งตนเองได้แจ้งเจ้าของที่แปลงดังกล่าวแล้ว เจ้าของที่ก็ได้อนุญาตให้ตนเป็นผู้ดูแลแล้ว
นางสุกัลยา กล่าวต่อว่า ตอนนี้ยังรู้สึกกลัว ไม่ทราบว่าบ้านโรงเหล็กคู่กรณีจะเข้ามาทำร้ายร่างกายตนกับลูกอีกเมื่อไร เพราะเขาชอบทะเลาะหาเรื่องตนอยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่ตนมาซื้อที่แปลงนี้และปลูกบ้านจนเสร็จ มีเรื่องกันมาโดยตลอด
น้องเอ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี ลูกของนางสุกัลยา บอกว่า ตอนนี้หนูยังตกใจและกลัวอยู่ หนูไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน รู้สึกกลัวมาก ช่วงเกิดเหตุหนูไม่รู้จะช่วยแม่อย่างไร ได้แต่ร้องไห้ และตั้งสติโทรบอกพ่อ ซึ่งทำงานอยู่ต่างจังหวัดให้กลับมาบ้าน เพื่อดูแลแม่
ด้านนายธรรมศักดิ์ สมศักดิ์ อายุ 56 ปี อาชีพก่อสร้างโครงเหล็ก คู่กรณี เปิดเผยว่า หญิงบ้านหลังติดกันมีปัญหากับตนมาระยะหนึ่งแล้ว ตั้งแต่ช่วงแรกที่มาปลูกบ้านเสร็จ เขาพยายามมาก่อกวนตนให้ตนไปช่วยทำงาน ช่วยรางวัดที่ดิน ตนจึงบอกไปว่าต้องเป็นของเจ้าหน้าที่ที่ดิน ไม่ใช่ตน หญิงคนดังกล่าวก็ได้ใช้ตลับเมตรมาวัดเองและให้ตนช่วยเอาเหล็กไปปักให้แทนหมุดของที่ดิน
ส่วนเรื่องต้นไม้อายุกว่า 80 ปี ก็หาว่ากิ่งไม้ไปเข้าในที่ของเขา ทำให้ตนตัดปัญหาโค่นต้นไม้เก่าแก่ทิ้ง ต่อมาก็มาบอกตนอีกว่าน้ำจากหลังคาบ้านไหลไปเข้าในบ้านเขาอีก หาว่าสุนัขตนเห่าเสียงดัง ตนก็ไปปิดกรงสุนัขให้อีกเพื่อตัดปัญหา แล้วก็มีปัญหากันอีกหลายครั้ง
วันเกิดเหตุมีเพื่อนบ้านมาขอมะละกอไปแกง แต่มาขอกับคู่กรณี เขาพยายามพูดให้เสียงดังทำให้ตนได้ยิน แล้วบอกว่า "เก็บเอาเลยมะละกอลูกเดียวคงไม่เป็นไร ตนเป็นคนปลูกเอาไว้เอง เข้ามาเก็บเอาได้เลย" ตนจึงเดินออกไปถามว่าทำไมไม่บอกว่าให้มาขอมะละกอกับตนเอง เพราะตนเป็นคนปลูกเอาไว้ ทั้งนี้ ตนยอมรับว่าโมโหจริงเพราะถูกด่าว่าเสียเสียหายมาก จนทำให้ระงับความโกรธเอาไม่ได้ อีกทั้งคู่กรณีกระชากสร้อยคอของตนขาด ที่ทำด้วยงาช้างลูกปัดทองมีมูลค่าประมาณ 50,000 บาท กระจายหล่นลงพื้นสูญหายไปก็เยอะ ใช้มีดอีโต้วัดแกว่งไปมาพยามจะฟันตนอีก ตนจึงใช้หินขว้างเข้าไปในบ้านถูกกระจกหน้าต่างบ้านคู่กรณีแตก
ด้านมุมกฎหมาย ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ให้ข้อมูลว่า การที่ปลูกมะละกอในพื้นที่ดินของใคร ผู้นั้นถือเป็นเจ้าของมะละกอด้วย
ส่วนกรณีที่หากผู้ใดเข้ามาเก็บมะละกอโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของที่ดิน จะมีความผิดฐานลักทรัพย์ และหากผู้ใดที่ไม่ใช่เจ้าของที่ดิน แต่อนุญาตให้ผู้แื่นเข้ามาเก็บมะละกอออกไป จะมีความผิดฐานร่วมกันลักทรัพย์ ซึ่งเจ้าของที่ดินดำเนินการเอาผิดได้