ห้างฯ กลางกรุงสกัดโควิด-19 เข้ม! พบลูกค้าติดเชื้อผวาพนักงานตระเวนส่งของ 10 ห้างฯ (คลิป)

เมื่อวันที่ 30 ธ.ค.63 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. รายงานสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย ว่า วันนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 250 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 241 ราย ติดเชื้อแรงงานต่างด้าว 2 ราย ผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ และเข้าสถานกักกันโรค (Quarantine) 8 ราย และที่ไม่เข้าสถานกักกัน 1 ราย จาก รวมสะสม 6,690 ราย แบ่งเป็น การติดเชื้อในประเทศ 4,688 ราย กลุ่มแรงงานต่างด้าว 1,383 ราย รักษาหายแล้ว 4,212 ราย ยังอยู่ในโรงพยาบาล 2,417 ราย และมีผู้เสียชีวิตสะสมที่ 61 ราย

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ยังมีการออกประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง มีผลตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค2563 ได้แก่

1.ห้ามมั่วสุมในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค หรือการกระทำอันเป็นการฉวยโอกาสซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชน หรือการกลั่นแกล้งเพื่อแพร่เชื้อโรค ณ ที่ใดๆ ทั่วราชอาณาจักร

2. ห้ามการชุมนุม หรือการทำกิจกรรม ในพื้นที่ควบคุมสูงสุด หรือพื้นที่ควบคุม เว้นกิจกรรมภายในครอบครัว ในเคหสถานของตนเองหรือกิจกรรมทางราชการ

3. การชุมนุม หรือการทำกิจกรรม ในพื้นที่เฝ้าระวังสูงสุด หรือพื้นที่เฝ้าระวังต้องขออนุญาตต่อผู้ว่าฯ ก่อน เว้นกิจกรรมภายในครอบครัว ในเคหสถานของตนเองหรือกิจกรรมทางราชการ

โดยวานนี้ (29 ธ.ค.) นายแพทย์วิชาญ ปาวัน ผู้อำนวยการสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง (สปคม.) กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งมีพื้นที่ติดกับ จ.สมุทรสาคร พบว่า มีการแพร่ระบาดอยู่ใน 3 กลุ่มใหญ่ ได้แก่

1.เชื่อมโยงกับ จ.สมุทรสาคร โดยเฉพาะตลาดกลางกุ้ง
2.โรงงานผลิตรองเท้าย่านพระราม 2 เขตบางขุนเทียน
3.กลุ่มก้อนการระบาดในสถานบันเทิง พบผู้ป่วย 22 ราย โดยพบว่ามีร้านอาหาร 3 แห่งเกี่ยวข้อง คือ

- ร้านอีสานกรองแก้ว ปิ่นเกล้า
- ร้านแซ่บอีสานคาราโอเกะ เทเวศร์
- ร้านน้องใหม่พลาซ่า ปิ่นเกล้า

ในวันนี้ นพ.โสภณ ได้อัปเดตตัวเลข ระบุว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดจากกลุ่มสถานบันเทิง ร้านอาหารเพิ่มขึ้น 11 ราย รวมเป็นติดเชื้อทั้งหมด 33 ราย กลุ่มนี้ส่วนใหญ่ติดเชื้อแบบไม่มีอาการ

กระทรวงสาธารณสุขและกรุงเทพมหานคร จึงขอความร่วมมือให้ประชาชนทุกคนที่เข้าไปยัง 3 ร้านดังกล่าว ในช่วงวันที่ 15-20 ธ.ค.63 ขอให้สังเกตอาการตัวเอง และพักอยู่ที่บ้าน 14 วัน หากมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส ให้รีบไปยังสถานพยาบาลทันที

ทั้งนี้เมื่อทีมข่าวสรุปสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ กทม. วันที่ 30 ธ.ค.63 ติดเชื้อเพิ่มอีก 17 ราย รวมยอดสะสม 125 ราย 

กรณี ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพฯ เปิดเผยว่า ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) แถลงข่าววันที่ 27 ธ.ค.63 ที่ผ่านมา ว่า กทม. พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม 17 ราย อยู่ในพื้นที่ กทม. 16 ราย และอยู่ระหว่างสอบสวนโรค 1 ราย กทม.พบผู้ติดเชื้อ ตั้งแต่วันที่ 20–27 ธ.ค.63 รวม 75 ราย ซึ่งรวมกับที่ ศบค. แถลงสถานการณ์ประจำวันที่ 28 ธ.ค.63 พบว่า กทม. มีผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 19 ราย รวม 2 วันเพิ่มแล้ว 36 ราย 

โดยเฉพาะรายที่ 26 อายุ 26 ปี เพศชาย อาชีพ เจ้าหน้าที่ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ทำงานในพื้นที่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี มีไทมไลน์ไปห้างโลตัสย่านบางมด ไปศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์-แพลตินั่ม และไปตลาดอินดี้ ไปต่อใบขับขี่ที่ขนส่งบางขุนเทียน ก่อนพบเชื้อโควิด-19

ทีมข่าวลงพื้นที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ พบว่ายังคงมีประชาชนเดินทางมาชอปปิง รับประทานอาหาร ซึ่งในวันนี้ยังคงอยู่ในช่วงการจัดการขายสินค้าหน้าศูนย์การค้าในเทศกาล The world food market ลานหน้าศูนย์การค้า จึงมีกลุ่มวัยรุ่นแวะเวียนมาจับจ่ายซื้อสินค้า แต่ภาพรวมจำนวนผู้คนก็ยังบางตากว่าช่วงที่ยังไม่มีการแพร่ระบาดระลอก 2 

ส่วนร้านค้าผู้ประกอบการต่าง ๆ จะมีการเซ็นชื่อหรือการให้สแกนไทยชนะ พร้อมกับมีการวางจุดเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ โดยเฉพาะร้านนาฬิกา จะมีการให้ลูกค้าสวมถุงมือก่อนลองสินค้าทุกครั้ง

นายปริญ ด้วงตะกั่ว อาชีพธุรกิจส่วนตัว หนึ่งในลูกค้าที่วันนี้ยังคงมาเดินที่ศูนย์การค้า กล่าวว่า ตนเชื่อมั่นว่าศูนย์การค้ายังคงมีความปลอดภัย เพราะยังคงมีมาตรการต่าง ๆ ให้ลูกค้าปฏิบัติก่อนและการเข้าห้างร้านต่างๆอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะวันนี้มีลานกิจกรรมที่หน้าศูนย์การค้าก็จะพบว่าทุกคนเซฟตัวเองและมีการสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากแบบผ้าตลอดเวลาในการเดินเที่ยว

หากให้คะแนนตนก็ให้คะแนนถึงร้อยละ 90 ส่วนอีกร้อยละ 10 ประชาชนทุกคนต้องมีความชะล่าใจและเผื่อใจ เพราะไม่รู้ว่าใครติดเชื้อโควิด-19 มาบ้าง เนื่องจากจำนวนประชาชนในกรุงเทพฯ มีเยอะมาก แต่หากมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น และกรุงเทพฯ ต้องล็อกดาวน์ ก็ไม่รู้สึกว่าได้รับผลกระทบในส่วนนี้ แต่ก็คงจะต้องจัดสรรเวลา ปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิต

อย่างไรก็ตาม ตนอยากให้ประชาชนทุกคนระวังตัว จุดไหนที่มีการประกาศห้ามเดินทางไป ก็ให้งดเดินทาง เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 และสิ่งที่จะป้องกันตัวได้มากที่สุด คือ การสวมหน้ากากอนามัย และล้างมือบ่อย ๆ 

กรณีเมื่อวันที่ 25 ธ.ค.63 แฟนเพจตลาดอ่อนนุช Onnuch Freshmart ประกาศ รายงานผลการตรวจผู้ค้าแผงอาหารทะเล ระบุว่า ตามที่ตลาดอ่อนนุช แจ้งให้ทราบว่ามีแผงค้ารายหนึ่งไปรับอาหารทะเลจากสมุทรสาครเป็นประจำ และได้สั่งให้ผู้ค้าของแผงนี้ที่เป็นคนไปรับสินค้าหยุดขายเพื่อกักตัวเองรวมทั้งไปรับการตรวจที่โรงพยาบาล รวมทั้งให้ปิดแผงค้านี้ตั้งแต่ช่วงบ่ายวันจันทร์ที่ 21 ธ.ค.63 แล้ว ซึ่งต่อมาได้เดินทางไปทำธุระ ที่ธนาคารกสิกรไทย สาขาบิ๊กซีอ่อนนุช

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ไปยังธนาคารกสิกรไทย สาขาอ่อนนุช พบว่าทางธนาคารได้ปิดประกาศไว้ว่า “สาขาบิ๊กซีอ่อนนุช หยุดให้บริการชั่วคราว”

นางภัทรินทร์ สมผดง เจ้าของร้านเสื้อผ้าที่อยู่ติดกับธนาคาร กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบด้วยซ้ำว่าผู้ที่ติดโควิด-19 มาใช้บริการที่ธนาคารแห่งนี้ เพราะจากที่ทราบคือในพื้นที่ของตลาดอ่อนนุชอย่างเดียวที่เป็นจุดเสี่ยง ซึ่งตนเพิ่งมาทราบตอนนี้รู้สึกตกใจมาก เนื่องจากร้านของตนก็อยู่ใกล้กัน โดยตนกับเพื่อนร้านอื่น ๆ ก็แปลกใจว่าทำไมทางธนาคารถึงปิดในวันนี้ เนื่องจากปกติจะเปิดทำการทุกวัน ผู้จัดการทางห้างยังไม่แจ้งให้ผู้ค้าทราบด้วย ตนยังกล่าวต่ออีกว่า ตั้งแต่มีโควิด-19 เข้ามารอบที่ 2 ขายได้ค่อนข้างน้อยมาก แต่ก็ต้องเข้าใจเนื่องจากประชาชนรู้สึกกลัว น้อยคนที่จะเข้ามาเดินภายในห้าง

ในขณะเดียวกันทีมข่าวได้พบเจอกับ นางวชิรา แซ่เตียว ผู้มาใช้บริการทางธนาคาร กล่าวว่า ตนรู้สึกข้องใจกับการปิดของธนาคาร เนื่องจากปกติธนาคารเปิดทุกวัน และตนมาใช้บริการที่นี่ทุกครั้ง แต่พอตนมาทราบว่าผู้ติดโควิด-19 เข้ามาใช้บริการ ทำให้ทางธนาคารต้องปิดให้บริการลง ก็รู้สึกกลัวและตกใจมาก ไม่คิดว่าจะเข้ามาใกล้ในพื้นที่ที่ตนใช้บริการ ซึ่งปกติลูกค้าทางธนาคารจะเยอะมาก เข้าแถวยาวมาจนถึงด้านหน้าของธนาคารเกือบทุกครั้งที่ตนมาใช้บริการ

ต่อเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ที่พบผู้ติดเชื้อมาใช้บริการห้างดังย่านปิ่นเกล้า โดยล่าสุดทางทีมข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจบริเวณห้างสรรพสินค้าเมเจอร์ปิ่นเกล้า ปรากฏว่าทางห้างสรรพสินค้าดังกล่าวได้มีปิดทำการทั้งในส่วนของบริเวณภายในห้าง ตลอดจนในส่วนรอบนอกห้างที่เป็นจุดตลาดให้พ่อค้าแม่ค้ามาตั้งแผงขายของ

ทั้งนี้ทางทีมข่าวได้เดินไปใกล้ ๆ ทางเข้าห้างพบว่ามีการติดป้ายประกาศเป็นกระดาษขนาด A4 โดยเขียนว่า "ขออภัย ปิดให้บริการ Big Cleaning" โดยเป็นการติดโดยรอบประตูทางเข้าห้างประมาณ 5-6 แผ่น ขณะเดียวกันยังมีแผงเหล็กมากั้นอีกชั้นหนึ่ง เพื่อไม่ให้คนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไป

ต่อมาทีมข่าวได้พูดคุยกับ นางพรทิพย์ คำคุณา อายุ 53 ปี แม่ค้าขายไส้กรอกทอด บริเวณทางเข้าห้างสรรพสินค้าเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า ยอมรับว่าส่วนตัวรู้สึกกลัวหลังมีกระเเสข่าวออกมา แต่ในมุมหนึ่งในฐานะแม่ค้าก็คงต้องทำมาหากินต่อไป ทั้งนี้เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดที่เชื้อโควิด-19 ทางร้านเองได้มีมาตรการยกระดับเพื่อสร้างความอุ่นใจมากขึ้น คือการทำแผงกั้นบริเวณหน้าร้าน ตลอดจนทำความสะอาดและล้างให้บ่อยครั้งมากยิ่งขึ้น ทั้งในส่วนของแม่ค้า และลูกค้าที่มาใช้บริการ เรียกว่าลงทุนเพิ่มเพื่อความอุ่นใจทั้งสองฝ่าย

เมื่อถามถึงผลกระทบที่ได้รับจากกระเเสข่าว ตนยอมรับว่ามาก ได้รับผลกระทบมาตั้งแต่ช่วงต้นเดือน ธ.ค.63 ที่ผ่านมา ยอดขายตกลงจากเดิมก่อนหน้านี้ขายได้ประมาณ 5-6 พันบาท ตอนนี้ยอดลดลงไปเกือบครึ่งเลยทีเดียว รวมทั้งจากเดิมจะเปิดร้านตั้งแต่ 08.00 น. และปิดประมาณ 22.00 น. เมื่อมีการแพร่ระบาดโควิด-19 อีกรอบ ทำให้คนเริ่มเดินห้างน้อยลง เลยทำให้ปิดร้านเร็วขึ้น 1 ชม. ยอมรับแม้จะได้ผลกระทบ แต่ส่วนตัวก็ต้องเดินหน้าทำมาหากิน พร้อมป้องกันในส่วนของตัวเองให้ดีที่สุด