ผัวช็อกฆ่าเมียห้ามเที่ยวปีใหม่ เจอความจริงเพิ่งตั้งท้อง แม่ยายก็อึ้งเพิ่งรู้มีหลาน (คลิป)

จากกรณีนายวัชระ จะเชิญรัมย์ หรือ เอี้ยง อายุ 30 ปี ใช้อาวุธมีปลายแหลมแทง น.ส.กรรณิกา ชั้นพิภพ หรือ ปุ้ม อายุ 32 ปี ภรรยาตัวเอง จนเสียชีวิตคาวงเหล้า ขณะนั่งดื่มฉลองส่งท้ายปีเก่าด้วยกันกับเพื่อนรวม 5 คน โดยเหตุเกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.45 น. วันที่ 31 ธ.ค. 63 ที่ผ่านมา

ซึ่งจากการสอบสวนทราบว่า วันเกิดเหตุนายวัชระได้พาภรรยาไปเลี้ยงฉลองปีใหม่ที่บ้านของเพื่อนภรรยา อยู่หมู่บ้านใกล้กัน หลังจากดื่มฉลองสังสรรค์กัน ฝ่ายหญิงได้มีการชักชวนกันในกลุ่มซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 5 คน ว่าจะไปเคาต์ดาวน์ที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่งในตัวเมืองบุรีรัมย์ แต่นายวัชระห้าม จึงเกิดมีปากเสียงกันรุนแรง

กระทั่งผู้ตายเดินเข้าไปตบหน้านายวัชระสามี พร้อมกับใช้ขวดเบียร์ตีศีรษะ 1 ครั้ง นายวัชระอยู่ในอาการมึนเมาและโมโห จึงใช้มีดปลายแหลมที่พกติดตัวมา แทงภรรยาเข้าไปบริเวณใต้ราวนมซ้าย จนล้มลงต่อหน้าเพื่อนที่ดื่มฉลองกันอยู่บาดเจ็บสาหัส และทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตในเวลาต่อมา

โดยหลังจากที่นายเอี้ยงก่อเหตุแล้วได้สำนึกผิด กลับไปนอนกอดรูปภรรยาตัวเองที่บ้านแม่ และยิ่งกว่าความเสียใจ เมื่อนายเอี้ยงทราบข่าวจากเพื่อนว่าภรรยาตั้งท้องได้ 2 เดือน และจะทำเซอร์ไพรส์ให้สามีทราบหลังปีใหม่ แต่กลายเป็นเรื่องเศร้าแทน

วันที่ 2 ม.ค. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ศาลากลางหมู่บ้าน หมู่ 2 ต.บ้านยาง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ สถานที่จัดงานศพของ น.ส.กรรณิการ์ ชั้นพิภพ หรือ ปุ้ม โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า ศพของผู้เสียชีวิตจะจัดฌาปนกิจในวันพรุ่งนี้

นางติว ทองคำ อายุ 52 ปี แม่ของนายเอี้ยง ระบุว่า ลูกชายเป็นคนรักเมียมาก วันเกิดเหตุลูกชายร้องไห้ มาบอกแม่ว่า "ผมพลาด ไม่ได้ตั้งใจ" เพ้อถึงชื่อบุ๋ม ภรรยาตัวเองตลอดเวลา ตอนแรกคิดว่าเกิดอุบัติเหตุ และมาทราบในเวลาต่อมาว่าเป็นคนแทงเมียตัวเองตาย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนเชื่อว่าเกิดจากความรักและความหึงหวง แต่ก็คงต้องปล่อยให้กระบวนการยุติธรรมตัดสิน หวังว่าศาลคงจะลงโทษในสถานเบา เพราะลูกชายยอมรับสารภาพ และมอบตัว

นางทองเพียน ใหญ่เลิศ อายุ 55 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ลูกสาวคบหากับนายวัชระตั้งแต่ 7 ก.ค. 61 และแต่งงานกันวันที่ 14 เม.ย. 62 ซึ่งที่ผ่านมานายวัชระเป็นคนดี ตั้งใจทำงาน รักครอบครัวมาก ไม่เคยสร้างปัญหา แต่ลูกสาวของตนนั้นเป็นคนชอบดื่มสังสรรค์และชอบความสนุกสนาน

ตอนเกิดเหตุนั้นตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่ทราบว่าเรื่องมันเกิดขึ้นจากความหึงหวงเพราะในคืนเกิดเหตุนั้นลูกสาวจะไปเคาต์ดาวน์ปีใหม่ที่ผับในเมืองบุรีรัมย์กับเพื่อนชายที่ชื่อต้อม แต่นายวัชระนั้นไม่ยอมให้ลูกสาวไป จนเกิดการทะเลาะกัน สุดท้ายนายวัชระก็ใช้มีดที่พกมาแทงลูกสาว หลังจากนั้นนายวัชระก็ขี่มอเตอร์ไซค์หนีกลับไปบ้านแม่ของเขา กลับไปนอนกอดรูปลูกสาวและร้องไห้สำนึกผิด มามอบตัวในวันที่ 1 ม.ค. 63 เวลา 08.00 น.

ตนยอมรับว่ารู้สึกเสียใจที่ลูกสาวถูกฆ่าตาย เพราะผู้ก่อเหตุนั้นติดคุกไปก็ยังมีวันได้ออกจากคุกมาเจอครอบครัวเขา แต่ลูกสาวของตนนั้นเสียชีวิตและตนไม่มีวันได้เจอลูกสาวอีก ซึ่งตนรู้สึกทั้งรักทั้งโกรธนายวัชระมาก แม้จะรักและสงสาร แต่เขามาทำแบบนี้ตนก็ทำใจไม่ได้ ถ้ามีเวลาว่างตนก็จะไปเยี่ยมลูกเขยในคุก อย่างไรก็ตาม ตนไม่ทราบมาก่อนว่าลูกสาวท้อง ซึ่งเพื่อนลูกสาวก็เพิ่งมาบอกทีหลัง แต่หลังจากลูกสาวตายไปก็ไม่ได้เฮี้ยน ตนก็อยากจะเจอลูกสาว อยากให้เขามาหาเป็นครั้งสุดท้าย

ด้านนายวัชระ ผู้ต้องหา กล่าวจะถูกนำตัวส่งฝากขังว่า ตนเสียใจรักเมียมาก ขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจ ที่ทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ขอโทษ ตนไม่รู้ว่าภรรยาตั้งท้อง เพิ่งมารู้ทีหลังจากเพื่อนของภรรยา

ขณะที่ ร.ต.อ.พิทักษ์ สิงห์คำ รองสารวัตร (สอบสวน)สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้แจ้งข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย  พร้อมคัดค้านการประกันตัวในชั้นสอบสวน และทำเรื่องส่งฝากขังศาลจังหวัดบุรีรัมย์แล้ว

นอกจากนี้ ตรวจสอบเฟซบุ๊กของผู้ก่อเหตุ พบว่าเมื่อวานนี้ได้โพสต์รูปของเจ้าตัวคู่กับ น.ส.กรรณิการ์ และระบุข้อความว่า "คนที่รักสุดจากหัวใจ"

ทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุบ้านหมู่ 2 ต.บ้านยาง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ น.ส.อ้อม (นามสมมติ) เจ้าของบ้านซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ เพื่อนของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ในคืนวันที่ 31 ธ.ค. 63 ตนและแฟนหนุ่มได้จัดกินดื่มส่งท้ายปีเก่าที่บ้าน จึงได้โทรชวน น.ส.กรรณิการ์และนายวัชระ มากินดื่มด้วยเนื่องจากเป็นเพื่อนสนิท ซึ่งดื่มไปจนค่ำ น.ส.กรรณิการ์ ได้ไปรับเพื่อนชายอีกคนที่ชื่อนายต้อม มาร่วมวงดื่มสังสรรค์ด้วย และน.ส.กรรณิการ์ ก็บอกกับนายวัชระว่าจะออกไปเคาต์ดาวน์กับนายต้อมที่ผับกลางเมืองบุรีรัมย์ ซึ่งในตอนนั้นนายวัชระก็เริ่มไม่พอใจเพราะความหึงหวง จึงปฏิเสธไม่ให้ภรรยาไปกับเพื่อนชาย ทำให้ทั้งคู่มีปากเสียงกัน

ผ่านไปไม่ถึง 30 นาที นายวัชระก็ขี่มอเตอร์ไซค์กลับมาอีกครั้ง และมานั่งดื่มสังสรรค์กันอีก ซึ่งเวลา 23.40 น. จวนจะเที่ยงคืน ตนกับแฟนหนุ่มไปทำอาหารอยู่ในครัว ปล่อยให้ น.ส.กรรณิการ์ นายวัชระ และนายต้อมอยู่ด้วยกัน ซึ่งน.ส.กรรณิการ์ก็ยังยืนยันว่าจะไปกับนายต้อม ทำให้ทั้งคู่มีปากเสียงกันอีกครั้ง นายวัชระชักมีดที่พกไว้แทง น.ส.กรรณิการ์ เข้าที่ราวนมฝั่งซ้าย 1 ครั้ง หลังจากนั้นก็ขี่มอเตอร์ไซค์หนีกลับไปบ้าน

อย่างไรก็ตาม ตนเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะตนสนิทกับทั้ง 2 คน เมื่อคืนที่ผ่านมาตนได้ฝันถึง น.ส.กรรณิการ์ แต่งตัวสวยมาหาตนที่หน้าบ้าน เหมือนเขายังไม่รู้ว่าตัวเองตายแล้ว