หลังจากที่ช่วงเช้าวานนี้ (27 เม.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกตัวศิลปินนักแสดงที่รีวิวโฆษณาสินค้าในเครือบริษัทเมจิกสกิน จำกัด กลุ่มแรกจำนวน 4 คน จากทั้งหมด 9 คน เข้ามาให้ปากคำต่อ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) (อ่าน :
“สายป่าน อภิญญา” เข้าพบเจ้าหน้าที่ แถลงชี้แจงปมเมจิกสกิน) และจะมีการออกหมายเรียกอีก 3 คน
วันนี้ (28 เม.ย.) ทอม อิศรา กิจนิตย์ชีว์ สมาชิกวง Room39 ได้ออกมาแสดงความรับผิดชอบขอโทษที่ได้รีวิวสินค้าในเครือ บริษัท เมจิก สกิน จำกัด ผ่าน Instagram โดยระบุข้อความว่า “ขอโทษทุกคน เรื่องการรับรีวิวสินค้าในเครือเมจิกสกิน โดยปกติในการรับงานสินค้าทุกตัว ทีมงานจะตรวจสอบข้อมูลและเอกสารทุกครั้ง ต่อไปนี้ทางเราจะระมัดระวังการรับงานรีวิวให้รอบครอบกว่าเดิม”
ส่วนกรณีเพจเฟซบุ๊ก ดอกจิก v.3 มีการเผยแพร่ภาพบุคคลที่แต่งกายคล้ายแพทย์ พยาบาล รีวิวผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และยาลดความอ้วน ซึ่งประกอบไปด้วยสารอันตราย รวมทั้งไม่มี อย. จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียล
ทีมข่าวได้พูดคุยกับ
พลอากาศตรี นายแพทย์ อิทธพร คณะเจริญ รองเลขาธิการแพทยสภา เปิดเผยว่า ปกติจะมีข้อห้ามในจริยธรรมของแพทย์เกี่ยวกับการรีวิวผลิตภัณฑ์ต่างๆ อยู่แล้ว โดยห้ามใช้คำว่านายแพทย์ หรือแพทย์หญิง ไปโฆษณา ซึ่งจากการตรวจสอบ การรีวิวสินค้า ซึ่งมีการร้องเรียนมาว่า มีแพทย์ไปรีวิวนั้น พบว่าส่วนใหญ่เป็นการแอบอ้าง ไม่ใช่แพทย์วิชาชีพจริงๆ ซึ่งประชาชนหรือผู้บริโภค ก็สามารถตรวจสอบได้หากมีการแอบอ้าง โดยเข้าไปตรวจสอบรายชื่อที่เว็บไซต์ของแพทยสภา ซึ่งจะมีช่องให้กรอกรายชื่อแพทย์ลงไป และเว็บไซต์ก็จะบอกรายละเอียดได้ว่าเป็นแพทย์จริงหรือไม่ รวมถึงเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านใด
ซึ่งเรื่องของแพทย์ที่แอบอ้าง ทางแพทยสภาสามารถดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์ได้ ในฐานะที่ทำให้วงการแพทย์เสียหาย แต่ต้องมีเจ้าทุกข์เป็นผู้ร้องเรียน และหากพบว่ามีแพทย์จริงๆ ไปรับรีวิวสินค้า ก็จะต้องตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ ซึ่งโทษก็จะมีตั้งแต่ตักเตือน ภาคทัณฑ์ และพักใช้ใบประกอบวิชาชีพ
ซึ่งตนก็อยากฝากเตือนประชาชน ให้ใช้สติ และวิจารณญาณในการเลือกซื้อสินค้า รวมถึงตรวจสอบให้รอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อ
ขณะเดียวกัน ทีมข่าวเดินทางไปยัง วัดบัวแก้วเกษร อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี ซึ่งมีการจัดงานบำเพ็ญกุศลศพ
นายประภัทร ลำไย นักธุรกิจ อายุ 48 ปี เสียชีวิตบนเตียงนอนในบ้านพักที่ จ.ปทุมธานี เป็นวันแรก โดยญาติระบุว่า ภายในห้องของผู้เสียชีวิตพบกล่อง
ยาลดความอ้วนยี่ห้อ Lyn จำนวน 2 กล่องวางอยู่ และกินยาดังกล่าวมาประมาณ 2 เดือนแล้ว
จากสอบถาม
นางวรางคณา สุเมธวัน แม่ภรรยา เปิดเผยว่า ตนทราบข่าวจากลูกสาว ซึ่งเป็นภรรยาของนายประภัทร ที่พักอยู่กรุงเทพ ได้โทรศัพท์ให้ตนมารับเพื่อจะกลับไปหานายประภัทร ที่ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี เพราะญาติที่อยู่บ้านใกล้กันแจ้งว่าลูกเขยตนสลบไป ตนจึงเดินทางมาที่บ้าน พอมาถึงก็พบลูกเขยเสียชีวิตแล้ว โดยไม่มีบาดแผลใดๆ ซึ่งทางครอบครัวก็ไม่ได้ติดใจ เรื่องสาเหตุการตาย เพราะนายประภัทร ทำธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตวัตถุมงคล ช่วงที่ผ่านมาต้องเร่งส่งงาน ทำให้ต้องนอนดึก ร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ
ส่วนผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ซึ่งเป็นยาลดความอ้วนที่พบในห้องนอน ครอบครัวทราบว่า นายประภัทร เริ่มกินยามาเกือบ 2 เดือนแล้ว เพราะเจ้าตัวบอกว่าอยากลดพุง จึงสั่งผลิตภัณฑ์ตัวนี้มาจากคำแนะนำของเพื่อนว่า เป็นยาบล็อกไขมัน โดยปกติ นายประภัทร สูง 179 เซนติเมตร หนัก 106 กิโลกรัม รูปร่างท้วมไม่ถึงกับอ้วน เมื่อทานยาได้ประมาณ 2 เดือน น้ำหนักก็ลดลงไป 4 กิโลกรัม ซึ่งเจ้าตัวเล่าว่า ต้องกินยาก่อนอาหาร 15 นาที จะทำให้กินอาหารได้น้อยลง แต่ยังไม่พบผลข้างเคียงอื่นๆ ซึ่งตอนนี้ตนก็ยังไม่สามารถระบุได้ว่า ลูกเขยเสียชีวิตจากการกินยาดังกล่าวหรือไม่ โดยต้องรอผลการชันสูตรอีกครั้ง
ด้าน
น.ส.จรัญญา ลำไย พี่สาวผู้เสียชีวิต เล่าว่า ตนอาศัยอยู่ในพื้นที่เดียวกันกับผู้เสียชีวิต เมื่อวาน (27 เม.ย.) ที่ผ่านมา พี่ชายโทรมาตามให้ตนไปดูน้องชายที่บ้าน เมื่อตนขึ้นไปที่ห้องนอน พบว่านายประภัทร นอนแน่นิ่งไม่มีชีพจร จึงโทรตามรถพยาบาลมา ซึ่งก็พบว่าน้องชายเสียชีวิตแล้ว
ทั้งนี้ ตนพบยาลดความอ้วนในห้องของน้อง จำนวน 3 ซอง จึงเก็บไว้ให้แพทย์ดู เพราะไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิต ซึ่งตนก็เพิ่งมาทราบภายหลังว่า น้องชายกินยาลดความอ้วน เพราะปกติน้องชายไม่ได้อ้วนมาก เนื่องจากตัวสูง ทั้งยังเป็นนักกีฬาแบดมินตันของโรงเรียน จนปัจจุบันก็ยังเล่นแบดมินตันอยู่เป็นประจำ
โดยผลชันสูตรออกมาพบว่า หัวใจล้มเหลียวเฉียบพลัน ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าเกิดจากสาเหตุใด แต่ช่วงที่ผ่านมาน้องชายพักผ่อนน้อยจากการทำงาน ส่วนจะเกี่ยวกับยาลดความอ้วนที่กินด้วยหรือไม่ ตนก็ไม่ทราบ
ขณะที่
พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางมาร่วมงานบำเพ็ญกุศลศพ กล่าวว่า จากการตรวจสอบผลิตภัณฑ์ที่พบในห้องของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ตัว คือ ลีน เอฟเอส-ทรี กล่องสีดำ มียาแผนปัจจุบัน ชนิด บิซาโคดิล ซึ่งยาตัวนี้จะออกฤทธิ์ทำให้ผนังลำไส้บีบตัว ทำให้อุจจาระเคลื่อนตัวหรือเป็นยาระบาย เมื่อระบายออกมาจะทำให้ร่างกายขาดน้ำและขาดเกลือแร่
นอกจากนี้ทาง อย.ได้ตรวจพบยาอีกตัว คือ ลีน บล็อก เบิร์น เบรก บิวท์ กล่องสีขาว พบยาแผนปัจจุบัน ไซบูทรามีน เป็นยาออกฤทธิ์กดประสาททำให้ไม่อยากอาหาร ซึ่งสารตัวนี้ทางองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกาได้ห้ามผลิต ตั้งแต่ พ.ศ.2533 และประเทศไทยก็ห้ามนำเข้ามาตั้งแต่ เดือนตุลาคม พ.ศ.2533 แล้ว ใครมีอยู่ถือว่ามีการลักลอบนำเข้ามา
เมื่ออาหารอะไรก็ตามมีตัวยาชนิดนี้ผสมอยู่ ก็จะเป็นอาหารปนเปื้อนสารอันตราย มีโทษจำคุก 2 ปี และหากยาชนิดใดมียาชนิดนี้อยู่ถือว่าเป็นยาอันตราย และเป็นยาที่ไม่ได้รับอนุญาต จะมีความผิดเช่นเดียวกัน ซึ่งสารตัวนี้ องค์การอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข ได้แจ้งให้บุคลากรทางการแพทย์และสถาบันทางการแพทย์ทุกแห่ง ห้ามสั่งจ่ายและจ่ายยาชนิดนี้ตั้งแต่ ตุลาคม พ.ศ.2533 แล้ว
ส่วนกรณีของนายประภัทร ขณะนี้ต้องรอผลการชันสูตร ว่าสาเหตุการเสียชีวิตเกี่ยวข้องกับยาชนิดดังกล่าวหรือไม่ นอกจากนี้ยังต้องตรวจสอบ จากคำให้การของญาติ ที่ระบุว่า สุนัขที่นายประภัทร เลี้ยงไว้เห่าเสียงดัง ก่อนญาติจะเข้ามาพบศพ ซึ่งมีความผิดปกติที่สุนัขจะเห่าเสียงดัง อาจเป็นไปได้ว่าผู้เสียชีวิตอาจมีการแสดงอาการใดๆ ออกมาก่อนเสียชีวิต