จากกรณีที่วันที่ 27 เม.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.โคกคราม ได้จับกุมนายอภิรักษ์ ชัชอานนท์ หรือ เสี่ยโป้ และพวก ที่บ้านของนางสาววิภากร ศุขพิมาย หรือ กานต์ โดยล่าสุด กานต์ โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีที่เสี่ยโป้ อ้างว่า ตนร้องไห้แล้วโทรศัพท์หาเสี่ยโป้ และบอกว่าจะฆ่าตัวตาย ซึ่งกานต์ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง
วันนี้ (29 เม.ย.) ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปที่บ้านพักของกานต์ โดยคุณแม่ของกานต์ เปิดเผยว่า วันนี้กานต์ไม่อยู่บ้าน เพราะเดินทางไปทำธุระที่ต่างจังหวัดกับคุณพ่อ ส่วนตัวยอมรับว่า หลังดูข่าวลูกสาวแล้ว หัวอกคนเป็นแม่ก็เครียด ซึ่งเมื่อมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ลูกสาวจะไม่ค่อยเล่าตนให้ฟัง และลูกสาวก็โตเป็นผู้ใหญ่ จึงไม่ได้มีการก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวกัน
ด้าน
นายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความ ในฐานะที่ตนรับเป็นที่ปรึกษาคดีกู้ยืมเงินระหว่างกานต์ วิภากร กับเสี่ยโป้ เปิดเผยด้วยว่า ในวันที่มีการจับเสี่ยโป้นั้น คุณกานต์ได้โทรศัพท์มาหาตนกลางดึก แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรมาก และบอกว่าได้อยู่ที่โรงพักแล้ว ตนก็ได้ตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็พบว่าได้ดำเนินคดีแล้ว ก็ถือว่าจบ
ส่วนกรณีเสี่ยโป้กล่าวในลักษณะว่าคุณกานต์ลวงให้เสี่ยโป้มาเพื่อแจ้งจับ ทนายเกิดผล ชี้แจงว่า ตนไม่ทราบเรื่องนี้ และหลังเกิดเรื่องก็ไม่ได้รับการติดต่อจากคุณกานต์อีก ซึ่งก่อนหน้านี้ตนได้รับทำคดีเรื่องกู้ยืมเงิน ระหว่างคุณกานต์กับเสี่ยโป้ โดยมีหนังสือกู้ยืมเงินกันจริง เกี่ยวกับเรื่องทำธุรกิจกันจำนวนเงินที่เห็นในเอกสาร 66 ล้านบาท ตอนนี้ยังไม่ฟ้อง เพราะได้คุยกับคุณกานต์ว่า หลังสงกรานต์จะดำเนินการต่อ และรอสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมจากคุณกานต์ด้วย จนมาเกิดคดีบุกจับเสี่ยโป้ก่อน ถึงตอนนี้คุณกานต์ก็ยังไม่ได้ติดต่อมา
โดยภายหลังจากที่กานต์ ได้เข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เคยถูกเสี่ยโป้ หลอกให้ร่วมลงทุนในการจัดการแข่งขันมวย เสียหายเงินไปกว่า 50 ล้านบาท และหลังจากนั้นก็มีการข่มขู่ขอเงินมาตลอด
ขณะที่
นายอภิรักษ์ ชัชอานนท์ หรือ เสี่ยโป้ ได้ชี้แจงว่า เมื่อวันที่ 27 เม.ย. กานต์ได้โทรศัพท์มาร้องไห้ แล้วพูดทำนองว่าอยากจะตาย เป็นเช่นนี้มาหลายครั้งแล้ว พร้อมยืนยันว่า วันนั้นตนไม่ทราบว่าเสือเล้ง ได้พกพาอาวุธปืนไปด้วย และส่วนตัวไม่เคยพกพาอาวุธปืนและไม่มีอาวุธปืนในครอบครองอยู่แล้ว
โดยเมื่อวันที่ 21-22 เม.ย. ตนได้เสียเงินค่าพนันฟุตบอลจำนวน 1,000,000 บาท ตกวันละ 500,000 บาท ซึ่งคุณกานต์ เป็นคนโอนเงินให้ตนด้วยเช่นกัน ส่วนวันเกิดเหตุตนเสียพนัน 500,000 บาท จึงได้มีการพูดคุยกันว่าจะไปเอาเงิน แต่ตนไม่เคยหลอกให้ร่วมลงทุนธุรกิจเกี่ยวกับค่ายมวย
นอกจากนี้ กรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะตรวจสอบเส้นทางการเงินนั้น ตนไม่ได้วิตกกังวล เพราะเงินในบัญชีที่มีการเข้าออกจำนวนหลายล้าน มาจากธุรกิจโรงงานสกรีนเสื้อ และการขายของออนไลน์ แต่ยอมรับว่ากำไรไม่เยอะ พร้อมกันนี้ยืนยันว่า ตนจะไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับคุณกานต์อีก ตอนนี้ไม่ได้พูดคุยกัน บล็อกการคุยทุกช่องทาง และรอวันขึ้นศาลอย่างเดียว ส่วนตัวยอมรับว่ากลัวคุณกานต์ เพราะมีลูกนักการเมืองมาอยู่เบื้องหลัง ตนจึงหวั่นอันตราย