กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย และผู้ใหญ่บ้าน ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ ก่อนจะเข้าไประงับเหตุผัวเมียทะเลาะกันตามที่ชาวบ้านแจ้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจนำส่งตำรวจสาหัสไปยัง รพ.เมืองกระบี่ คนก่อเหตุ คือนายเรืองศักดิ์ เรือนแก้ว หลบหนีพร้อมภรรยาและลูกน้อยวัย 10 วัน
โดยคนขับรถคือ ร.ต.ท.ทรงฤทธิ์ หนูสาย อายุ 57 ปี รองสวป.สภ.ทรายขาว กระสุนเข้าบริเวณโหนกแก้มซ้าย 1 แผล กลางอก 2 แผลเสียเลือดมากอาการสาหัส, คนนั่งข้างคือ ร.ต.ท.สุทัศน์ นวลจันทร์ อายุ 57 ปี รองสวป.สภ.ทรายขาว กระจกกระเด็นใส่ตามแขนขวาบาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนคนนั่งในรถตอนหลังคือนายปรีชา ชาวนา อายุ 53 ปี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 6 ต.คลองพน กระสุนถูกแขนขวา 2 นัด
ล่าสุด ตำรวจติดตามล้อมจับคนร้าย แต่ผิดคันเนื่องจากเป็นรถสีขาวเหมือนกัน แต่ยี่ห้อรถและทะเบียนไม่ตรงกัน ไปจับพลเมืองดีที่ไม่เกี่ยวข้อง พร้อมจับคนขับรถใส่กุญแจมือ มีการยิงจนคนในรถที่มาด้วยกัน 3 คน ได้รับบาดเจ็บ 2 คน ในรถเก๋งสีขาวมีนายสุทธิราช หมาดแด้หวา เป็นคนขับขี่รถยนต์เก๋ง ทะเบียนจังหวัดกระบี่, น.ส.หนึ่งฤทัย วงศ์ประเสริฐ อายุ 30 ปี และน.ส.สุดารัตน์ หมาดแด้หวา อายุ 23 ปี นั่งโดยสารมาด้วย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ล่าไอ้คลั่งดักอุ้มเมียวุ่น! ตำรวจยิงพลาดโดนรถชาวบ้านเจ็บ 2 ฝ่าย ชุดล่าถูกสวนเจ็บ 3
วันที่ 5 ม.ค. 64 น.ส.กาญจนาพร คิดรอบ ลูกพี่ลูกน้องของ น.ส.กัซมาร์ เปิดเผยว่า คนร้ายมาถึงที่บ้านช่วง 12.00 น. เมื่อลงจากรถก็เห็นเป็นผู้ชายที่ก่อเหตุ นายเรืองศักดิ์เอ่ยปากถามตน 2 ครั้งว่ากัซมาร์อยู่บ้านหรือไม่ ตนเองก็ตอบไปว่าอยู่ ตอนนั้นตนยังไม่เห็นอาวุธ นายเรืองศักดิ์มาด้วยท่าทีปกติ ไม่มีการโวยวาย จากนั้นตนเองก็เข้าไปในบ้านเพื่อตามแม่ตนออกมาดูเหตุ นายเรืองศักดิ์เดินเข้าไปในบ้านเพื่อหานางกัซมาร์แล้ว แม่ตนออกมาจึงไปยืนที่หน้าต่างข้างบ้านของ น.ส.กัซมาร์ เพื่อฟังการเจรจา รายละเอียดเท่าที่จับใจความได้ มีการพูดคุยทำนองว่านายเรืองศักดิ์มาชวนกัซมาร์กลับบ้าน แต่กัซมาร์ปฏิเสธ เห็นมีปืนกระบอกเล็กเหน็บอยู่ด้วย ซึ่งนายเรืองศักดิ์ก็พา น.ส.กัซมาร์ และลูกน้อยขึ้นรถไป
นางจอย (นามสมมติ) ญาติของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า นายเรืองศักดิ์ก่อนไปก่อเหตุก็ออกจากที่บ้านไป ปกตินายเรื่องศักดิ์จะพักกับย่า แต่ช่วงนี้ย่าป่วยเข้าโรงพยาบาล อย่างไรก็ตามช่วงเช้าวานนี้ นายเรืองศักดิ์เข้ามาคุยกับแฟนตนที่บ้าน บอกทำนองว่าจะออกไปตามภรรยากลับบ้าน ซึ่งปกตินิสัยอารมณ์ร้อนอยู่แล้ว แต่ไม่เคยถึงขั้นก่อเหตุแบบนี้ ตนเองเคยคุยกับ น.ส.กัซมาร์ ในฐานะสะไภ้ ในมุมของเพื่อนก็เป็นคนดี แต่เอาแต่ใจสำหรับมุมคนเป็นภรรยา ส่วนเรื่องการทำร้ายร่างกาย นายเรืองศักดิ์เคยทำร้ายภรรยาอยู่บ้าง แต่ไม่ถึงขั้นเอาปืนมายิง ยอมรับว่าตกใจกับเหตุที่เกิดขึ้น
ด้านพ่อนายเรืองศักดิ์ ยืนยันว่า ตนเองกำลังเกลี่ยกล่อมลูกชายให้มอบตัว ยืนยันจะให้ลูกมอบตัวให้ำด้ ตนเองไม่เคยสนับสนุนลูก ส่วนที่ลูกเตรียมปืนไปก็อาจเป็นเพราะแค่พกไปด้วย เนื่องจากไปต่างพื้นที่ ตนเองไม่ต้องการให้ตำรวจวิสามัญลูกชาย อีกทั้งเป็นห่วงสะไภ้และหลานด้วย ส่วนก่อนเกิดเหตุลูกชายโทรมาหาตนบอกว่าจะไปรับสะไภ้ ต้องการให้ลูกเมียกลับมาอยูบ้าน ตนก็ไม่คิดว่าจะมีเหตุแบบนั้ อีกทั้งหลังเกิดเหตุ ลูกโทรมาบอกตน ตนจึงแนะนำให้มอบตัว หลังจากนั้นลูกชายก็โพสต์เฟซบุ๊กว่ารักตน ตอนนี้ตนเองเพียงรอลูกชายติดต่อกลับมา
ทั้งนี้ เฟซบุ๊กของนายเรืองศักดิ์โพสต์ข้อความ 2 โพสต์ก่อนมาก่อเหตุ ระบุข้อความว่า "พอแล้วกับความดี เจ็บกี่ทีก็ต้องให้อภัย" ซึ่งคนก่อเหตุยังไปแสดงความเห็นใต้โพสต์ที่คนบอกให้ใจเย็น ๆ ว่า "ม้ายๆๆๆ หมาเพ่ไม่คน" และอีกโพสต์คือ "พ่อ ผมรักพ่อมา"