กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย และผู้ใหญ่บ้าน ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ ก่อนจะเข้าไประงับเหตุผัวเมียทะเลาะกันตามที่ชาวบ้านแจ้ง ได้แก่ คนขับรถคือ ร.ต.ท.ทรงฤทธิ์ หนูสาย อายุ 57 ปี รองสวป.สภ.ทรายขาว, คนนั่งข้างคือ ร.ต.ท.สุทัศน์ นวลจันทร์อายุ 57 ปี รอง สวป.สภ.ทรายขาว ส่วนคนนั่งในรถตอนหลังคือ นายปรีชา ชาวนา อายุ 53 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ต.คลองพน
คนก่อเหตุคือ นายเรืองศักดิ์ เรือนแก้ว หลบหนีพร้อมน.ส.กัซมาร์ พวงนุ่น ภรรยาและ ด.ช.กฤต ลูกน้อยวัย 23 วัน ล่าสุดวันที่ 5 ม.ค. 64 นายเรืองศักดิ์ทิ้งรถและปล่อยให้ภรรยากับลูกน้อยกลับมาอย่างปลอดภัย แต่เจ้าตัวหลบหนีไป ซึ่งตำรวจตั้งด่านสกัดคนร้าย ยิงใส่ผู้เสียหายผิดคัน บาดเจ็บ 2 ราย เนื่องจากลักษณะสีรถคล้ายกัน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- พ่อเรืองศักดิ์หวั่นลูกถูกจับตาย พลาดยิงหัวตำรวจ ญาติขออภัยทำวุ่นยิงผิดตัว
- ฟังอีกด้าน! ตำรวจถูกยิงหัวโคม่าไม่โต้ไอ้คลั่งฉุดเมีย ห่วงเด็กเล็ก วอนสังคมเข้าใจ
- ปล่อยตัว 2 แม่ลูก "เรืองศักดิ์" หนีต่อ สุดโฉดรัว 20 นัดใส่ตร. อึ้งภาพ "เมีย" ถูกซ้อมน่วม
- เหยื่อถูกยิงมั่วฉะตำรวจไร้สมอง ถามถ้าตายใครรับผิด ผู้การขอโทษแจงชัดรถคล้าย
- ล่าไอ้คลั่งดักอุ้มเมียวุ่น! ตำรวจยิงพลาดโดนรถชาวบ้านเจ็บ 2 ฝ่าย ชุดล่าถูกสวนเจ็บ 3
วันที่ 6 ม.ค. 64 นางวันดี พวงนุ่น แม่ของน.ส.กัซมาร์ พวงนุ่น เปิดเผยว่า ตนเองได้ดูข่าวแล้วเห็นวินาทีที่ลูกสาวอุ้มหลานเดินเข้าโรงพักอย่างปลอดภัยแล้วรู้สึกดีใจ เพราะเดิมทีตนเองกลัวว่าคนร้ายจะไม่ปล่อยตัว จะเอาไว้เป็นตัวประกัน ลูกสาวคุยโทรศัพท์กับตนระบุว่าปลอดภัย ไม่เจ็บ ไม่ถูกทำร้าย ตอนที่ถูกพาตัวไป ไม่ได้กินข้าว 1 คืน ได้ดื่มแค่นมกับน้ำเปล่า ขณะนี้ลูกสาวยังไม่กลับบ้าน ตนเองก็เพิ่งทราบจากทีมข่าว เนื่องจากทารกยังเล็กมาก จึงกลัวไม่ปลอดภัย
ลูกสาวยังบอกกับตนว่า นายเรืองศักดิ์ขู่ไว้ก่อนจะปล่อยตัวว่าหากกลับมาที่บ้านที่ จ.กระบี่ เขาจะตามกลับมาที่นี่ ลูกสาวจึงยังไม่กลับมาที่บ้าน แต่หากนายเรืองศักดิ์ถูกจับแล้วจะกลับมา ตนยอมรับว่ายังกังวล โดยนายเรืองศักดิ์พาหลบหนีที่ป่ายางที่มีขนำลูกสาวก็ไม่ทราบว่าที่ไหน เนื่องจากตอนหลบหนีไปค่อนข้างมึด แต่ตนเองเชื่อว่าเป็นป่ายางในพื้นที่ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช
ทั้งนี้ ตนเองอยากฝากไปถึงนายเรืองศักดิ์ ขอให้เข้ามอบตัว ตอนนี้ยังมีโอกาสกลับมาปรับตัว ขอให้คิดใหม่ ทำใหม่ ปรับปรุงตัว ยอมรับว่าตนยังโกรธนายเรืองศักดิ์ ตกใจ ใจเสียที่ตนเองถูกเอาปืนออกมาขู่ ตนยังผวาอยู่แต่หากอนาคตนายเรืองศักดิ์ออกจากคุกมาแล้วปรับปรุงตัว ตนก็พร้อมให้อภัยให้โอกาส เพราะมีลูกกับลูกสาวตน หลังจากนี้ ควรขอขมา มาทำพิธีทางศาสนาอิสลามให้ถูกต้อง
ทีมข่าวเดินทางมาที่บ้านของนายเรืองศักดิ์ นางนุชจรี บุญจันทร์ศรี ยายของนายเรืองศักดิ์ เปิดเผยว่า ตั้งแต่เกิดเรื่องตนเองไม่ได้ติดต่อกับหลานชาย ไม่รู้ว่าหนีไปอยู่ไหน ญาติ ๆ ก็ไม่ทราบ แต่ยืนยันว่าไม่ได้กลับมาที่บ้าน สมัยที่ น.ส.กัซมาร์ และนายเรืองศักดิ์อยู่บ้านหลังนี้ ส่วนตัวไม่เคยเห็นทะเลาะกัน ทั้งคู่รักกันดี
วันเกิดเหตุ 4 ม.ค. 64 ตนเองได้เจอกับนายเรืองศักดิ์ที่หน้าบ้าน ช่วง 8.00 น. นายเรืองศักดิ์กำลังจะออกไปข้างนอก และบอกกับตนว่าจะไปรับลูกรับเมียที่ จ.กระบี่ ขอฝากลูกชายคนโตไว้ที่ตน โดยนายเรืองศักดิ์ระบุว่า น.ส.กัซมาร์ โทรศัพท์มาให้เข้าไปรับ จากนั้นก็ขึ้นรถยนต์สีขาวคันเกิดเหตุออกไป ส่วนอาวุธปืนตนเองไม่เห็น ไม่ทราบว่ามีปืน
ตนเองอยากฝากไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ "ขออย่าใช้ความรุนแรงกับหลานตน อย่าทำให้หลานตนต้องตาย จะติดคุกกี่ปีก็ได้ หลานยังจะได้กลับออกมา" ตอนนี้พ่อของนายเรืองศักดิ์ก็ค่อนข้างเครียด เดิมมีโรคประจำตัวเป็นเบาหวานอยู่แล้ว ย่าเรืองศักดิ์ก็อยู่ระหว่างพักรักษาตัวหลังจากผ่าตัดนิ้วเท้าเนื่องจากเบาหวาน ตอนนี้ตนเองอยากขอให้หลานเข้ามอบตัวจะได้รอดชีวิต
ที่โรงพยาบาลห้วยยอด อ.ห้วยยอด จ.ตรัง นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ได้เดินทางเข้าเยี่ยมครอบครัวผู้เสียหาย ที่ถูกตำรวจยิงใส่รถยนต์ซึ่งเข้าใจผิดว่าเป็นรถคนร้าย พร้อมมอบกระเช้าและให้กำลังใจ พูดคุยกับ น.ส.หนึ่งฤทัย ผู้ได้รับบาดเจ็บ พร้อมด้วยคุณแม่ และน้องสาว ซึ่งอยู่ในรถคันเกิดเหตุดังกล่าว
อาการล่าสุดของ น.ส.หนึ่งฤทัย สามารถลุกเดินด้วยตนเองได้แล้ว มีนายแพทย์โรงพยาบาลห้วยยอดเข้าให้ข้อมูล เบื้องต้นพบว่าอาการดีขึ้น ใช้เวลาพักประมาณ 2-3 วัน สามารถออกจากโรงพยาบาลได้ แต่ขณะที่ทางผู้เสียหายและคุณแม่ยืนยันว่าจะอยู่โรงพยาบาลจนหายปกติ
น.ส.หนึ่งฤทัย ยืนยันว่า การที่ตำรวจยิงผิดคนนั้นทั้งที่รถก็ไม่เหมือนกันถือว่าเป็นความสะเพร่า หลังจากตนได้รับบาดเจ็บ ได้คุยกับทางตำรวจแล้ว ทางครอบครัวไม่ติดใจแล้ว เพราะตำรวจยืนยันว่าจะรับผิดชอบทุกอย่างทั้งหมดอย่างเต็มที่ รวมทั้งรถจะซ่อมให้ทั้งหมดด้วย ซึ่งสภาพจิตใจของครอบครัวดีขึ้น ยิ้มแย้มแจ่มใสได้ ส่วนค่ารักษาพยาบาล ตำรวจรับผิดชอบเองทั้งหมดเช่นกัน
ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวว่า วันนี้ตนเองก็ได้มาเยี่ยมครอบครัวคนเจ็บ ซักถามในเรื่องของอาการ โดยมี ผอ.โรงพยาบาลห้วยยอดมาให้ข้อมูลด้วย อาการของน้องตอนนี้ไม่หนักมากนัก กระสุนที่เฉียด ไม่ได้ฝังลึก