หนุ่มเพี้ยนบุกแทงข้างบ้านเจอแทงสวนสาหัส ญาติอ้างไบโพลาร์ฉุนยิงป่วนโดนแจ้งจับ (คลิป)

จากกรณีเมื่อเวลา 13.25 น. ของวันที่ 8 ม.ค. 64 ตำรวจสน.บางบอน รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาท มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และผู้ก่อเหตุมีอาวุธหลบหนีเข้าไปกบดานอยู่ในบ้าน ถนนบางบอน 5 ซอย10 แขวงและเขตบางบอน กรุงเทพฯ

เหตุเกิดบริเวณหน้าบ้าน พบนายพีระพงศ์ วงศ์ณศรี อายุ 60 ปี เจ้าของบ้าน เป็นรปภ.ของหมู่บ้าน ถูกอาวุธมีดแทงเข้าที่ต้นขาขวาด้านนอก 1 แผล เลือดไหลโกรก เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำส่งโรงพยาบาลหลวงพ่อทวีศักดิ์

ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อนายชุ่มชัย ชุ่มชื่น อายุ 59 ปี เจ้าของบ้านอีกหลัง ซึ่งถูกนายพีระพงศ์แย่งมีดได้แล้วแทงสวนเข้าไปที่หน้าอกใต้ราวนมซ้าย 1 แผล วิ่งหลบหนีเข้าไปเก็บตัวอยู่ภายในบ้าน

ภายหลังภรรยาได้เข้าเกลี้ยกล่อมนายชุ่มชัย ปรากฏว่าพบตัวนายชุ่มชัยนอนจมกองเลือดอยู่กลางบ้าน เจ้าหน้าที่รีบทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น นำตัวส่งโรงพยาบาลบางปะกอก 8 อินเตอร์เนชั่นแนล

นายพีระพงศ์ วงศ์ณศรี อายุ 60 ปี ผู้บาดเจ็บ เปิดเผยว่า วานนี้ตนได้ขับรถออกไปซื้อไม้กวาดให้กับเพื่อนบ้านอีกราย หลังจากซื้อเสร็จแล้วได้ขับรถมาจอดที่บริเวณหน้าบ้านของตัวเอง ตนกำลังจะลงจากรถ แต่ทางผู้ก่อเหตุโผล่เข้ามากล่าวว่า "กวนอะไรหนักหนา" ก่อนจะควักมืดพกออกมา ตนเห็นจึงจะปิดประตูรถ แต่ไม่ทัน ก่อนจะถูกแทงไปที่ต้นขา ตนยังมีสติรีบถอดมีดออกและผลักผู้ก่อเหตุออกจากประตูรถ ยื้อแย่งมีดกัน มือขวาของตนจับที่ปลายมืดทำให้ถูกบาด ส่วนผู้ก่อเหตุนั้นตนไม่ทราบว่ามีดแทงตรงบริเวณไหนบ้าง เพราะเหตุการณ์ชุลมุนวุ่นวาย และตนไม่เห็นรอยเลือด

ขณะนี้ตนได้รับบาดเจ็บตรงบริเวณต้นขาขวาแผลลึก ไม่ทราบว่าเย็บกี่เข็ม นอกจากนี้บริเวณฝ่ามือขวามีรอยมีดบาดจำนวนมาก สำหรับปมปัญหาในก่อเหตุครั้งนี้ ตนและผู้ก่อเหตุเคยมีเรื่องกันมาก่อนประมาณ 5 ปีแล้ว โดยตนและเพื่อนบ้านคนอื่น ๆ ไปแจ้งตำรวจให้ยึดอาวุธปืนยาวของผู้ก่อเหตุ เพราะผู้ก่อเหตุชอบมีพฤติกรรมที่ยิงปืนขึ้นฟ้า ทำให้ชาวบ้านและตนรู้สึกหวาดกลัวว่าจะได้รับอันตราย หลังจากนั้นมาผู้ก่อเหตุก็โกรธเคืองกัน พยายามที่จะหาเรื่องครอบครัวของตน และในวันปีใหม่ ผู้ก่อเหตุก็ได้ใช้ปืนยิงขึ้นฟ้า

ตนและผู้ก่อเหตุเป็นเพื่อนบ้านมานานกว่า 10 ปีแล้ว ก่อนหน้านั้นเขายังมีพฤติกรรมปกติ แต่ช่วง 5 ปีหลังเริ่มมีอาการผิดปกติที่คล้ายกับไบโพลาร์เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย พอก่อเหตุชกตีกับตนก็มาขอโทษ พอสักพักก็กลับมาทำร้ายและก่อกวนอีก ทั้งนี้ หากครอบครัวของผู้ก่อเหตุมาขอโทษ ตนก็คงจะไม่ให้อภัยแล้ว เพราะผู้ก่อเหตุเคยมาขอโทษอยู่บ่อยครั้ง ตนยืนยันไม่เคยไปหาเรื่องผู้ก่อเหตุก่อน เพราะตนก็อายุมากแล้ว หลังจากเกิดเรื่องตนจะสอบถามกับผู้ก่อเหตุว่าจะให้ตนย้ายออกไปหรือเขาจะย้ายออกไป เพื่อให้เรื่องมันจบ ไม่อยากอยู่ใกล้กันแล้ว และยังคงกลัวว่าผู้ก่อเหตุจะก่อเหตุซ้ำอีก

วันที่ 9 ม.ค. 64 นายเจ (นามสมมติ) อายุ 45 ปี เพื่อนบ้าน เปิดเผยว่า ขณะที่เกิดเหตุการณ์ตนไม่ได้ยินเสียงว่ามีคนทะเลาะกัน มาทราบอีกทีคือได้ยินเสียงรถกู้ภัยจึงวิ่งออกจากบ้านมาดู พบว่านายพีระพงศ์ ผู้บาดเจ็บ ทำอาชีพเป็น รปภ.ของหมู่บ้าน ถูกแทงบริเวณต้นขาขวา และที่มือขวามีบาดแผล ส่วนนายชุ่มชัย ผู้ก่อเหตุ ตนไม่เห็น

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนไม่ได้ตกใจ เพราะทั้งผู้ก่อเหตุและผู้บาดเจ็บมักทะเลาะกันอยู่เป็นประจำด้วยการชกต่อยกัน ส่วนปมปัญหาที่ทะเลาะกันนั้น ตนไม่ทราบเพราะตนอาศัยหมู่บ้านได้ไม่ถึงปี แต่คาดว่าบ้านของผู้บาดเจ็บไปพูดกระทบกระเทือนจิตใจบ้านของผู้ก่อเหตุหรือไม่ ที่ตนสังเกตบ้านของผู้ก่อเหตุนั้นค่อนข้างชอบความสันโดษ ไม่ชอบเสียงดัง แม้กระทั้งบ้านของตนนั้นสตาร์ตรถหรือกำลังก่อสร้าง ก็ถูกผู้ก่อเหตุมาตักเตือน นอกจากนี้ ผู้ก่อเหตุยังมีพฤติกรรมชอบยิงปืนขึ้นบนฟ้า ซึ่งตนชินแล้ว ยอมรับว่าหวาดกลัวจะได้รับอันตราย เพราะไม่ทราบวิถีของกระสุน ทั้งนี้ หากทราบว่ามีเพื่อนบ้านอย่างผู้ก่อเหตุมีพฤติกรรมดังกล่าวก่อน ตนจะไม่มาซื้อที่ดินและสร้างบ้านตรงนี้

สำหรับลักษณะนิสัยของนายพีระพงศ์ เป็นคนดี ทักทายลูกบ้านทุกคน อย่างไรก็ตาม ตนก็อยากจะให้ครอบครัวของผู้ก่อเหตุดูแลใกล้ชิดและพาไปตรวจสภาพจิตใจ ไม่แน่ใจว่าผู้ก่อเหตุมีอาการทางจิตหรือไม่ และหากออกมาตนก็กลัวว่าผู้ก่อเหตุจะมีพฤติกรรมรุนแรงกว่านี้หรือไม่