กรณีเพจเฟชบุ๊ก Surviive - สายไหมต้องรอด ได้รับแจ้งว่า มีชายคลั่งทำลายทุบข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้านได้รับความเสียหาย ทางญาติและเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง จึงได้ร่วมกันเจรจาเพื่อให้ได้เข้ารับการบำบัดโดยเร็ว และทำให้พี่น้องประชาชนรับรู้ถึงพิษภัยของสารเสพติดที่ชื่อว่า "เค นมผง" คาดว่ามีส่วนผสมของ เฮโรอีน ยาไอซ์ โรเช่ และอื่น ๆ อีกหลายชนิดนั้น
ล่าสุดวันที่ 11 ม.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่มายังจุดเกิดเหตุ ที่บริเวณเพิ่มสิน ซอย 4 เขตสายไหม กรุงเทพฯ ทีมข่าวได้พูดคุยกับนางเก๋ (นามสมมติ) แม่ของนายยี่ ผู้ที่เสพยาเค ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อประมาณ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อนของนายยี่ อายุ 25 ปี ลูกชายตน ได้นำยาเคตามีนสูตรใหม่ ที่เรียกว่า "เคนมผง" มาให้ลูกชายตนเสพ ตอนแรกลูกชายปฏิเสธ กระทั่งเพื่อนบอกว่าเป็นยาเคสูตรใหม่ ลูกชายจึงได้ตัดสินใจลองเสพยากับเพื่อน โดยซื้อต่อเพื่อนในราคา 500 บาท
หลังจากลูกชายเสพยาเคนมผง ตนสังเกตว่าลูกชายจะมีอาการเปลี่ยนไป เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา ลูกชายก็มีอาการคลั่ง ด่าแม่และยาย ทะเลาะมีปากเสียงกับภรรยา และเมื่อคืนนี้ลูกชายยังแสดงอาการคลั่งใช้ไม้ตีรถจักรยานยนต์จนไฟด้านหน้าพัง และทุบหน้าจอคอมพิวเตอร์จนพังยับอีกด้วย และเวลาลูกชายเดิน เขาก็จะเดินเซ ขาดสติไม่เป็นตัวของตัวเอง
ทั้งนี้ตนคาดว่าพฤติกรรมที่ลูกชายเป็นอยู่นั้น มาจากพิษของยาเคนมผง เพราะก่อนหน้านี้ลูกชายตนไม่เคยมีพฤติกรรมแบบนี้มาก่อน ลูกชายตนไม่เคยพูดคำหยาบ ไม่เคยเดินเซ ตนยืนยันว่าลูกไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่เสพยาเสพติดมาก่อน เพราะตอนเด็ก ๆ เขาเคยเห็นพ่อของเขาเสียชีวิต เพราะยาเสพติดมาแล้ว เขาจะไม่ทำตาม ตอนนี้ตนเห็นหน้าลูก ตนก็แทบจะเป็นลม ทำให้ตนย้อนกลับไปเห็นใบหน้าสามีที่เสพยจนเสียชีวิต
ตอนนี้ตนต้องขังลูกชายไว้ในบ้าน เพราะเขายังมีอาการอยู่ แต่หายคลั่งแล้ว ปกติลูกชายตนเป็นคนดี เรียบร้อย ตนสอนลูกมาดี หลังจากนี้ตนจะดูแลลูกให้ดีที่สุด สำหรับลูกชายตน อายุ 25 เพิ่งเบญจเพสและลูกชายกำลังจะบวชพระในช่วงเดือน มี.ค.64 ที่จะถึงนี้ แต่ลูกชายมามีอาการคลั่ง เหม่อลอยเพราะฤทธิ์ยา ตนจึงต้องดูอีกที ว่าจะเลื่อนงานบวชลูกชายหรือไม่ เมื่อวานตนได้พาลูกชายไปหาหมอแล้ว และได้ขอหมอให้ลูกชายตนบำบัดอยู่ที่บ้าน ซึ่งตนจะดูแลลูกชายตนให้ดีต่อไป
ต่อมาทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้พูดคุยกับนายยี่ ผู้ที่เสพยาเคนมผง โดยนายยี่ ขณะคุยกับทีมข่าวก็สามารถโต้ตอบได้ตามปกติ โดยระบุว่าตนเพิ่งไปรับยาเคนมผงจากเพื่อนมาเมื่อวันที่ 10 ม.ค.64 ที่ผ่านมา โดยซื้อยาในราคา 500 บาท ซึ่งเพื่อนตนบอกกับว่า ยาชนิดนี้คือยาเคสูตรใหม่ หลังจากรับยามา ตนได้นำยาดังกล่าวมาเสพตนก็รู้สึกง่วงและนอนหลับ ตนยืนยันว่าหลังจากตนเสพยาแล้ว ตนไม่ได้มีอาการคลั่ง ทำลายข้าวของในบ้านแต่อย่างใด
แต่ที่ตนใช้ไม้ตีรถมอเตอร์ไซค์ เพราะว่าตนทะเลาะกับภรรยา วันเกิดเหตุเมื่อวานนี้ตอนเย็น ตนจะยืมรถมอเตอร์ไซค์ของภรรยาออกไปข้างนอกบ้าน แต่ถรรยาตนไม่ให้ยืม ตนจึงมีปากเสียงกับภรรยา และทุบรถมอเตอร์ไซต์ รวมถึงทุบตีหน้าจอคอมพิวเตอร์ และโน้ตบุ๊ก ซึ่งนายยี่ยืนยันว่า ที่โมโหคลั่งไม่เกี่ยวกับการเสพยาเคแต่อย่างใด
ส่วนที่คนในครอบครัวบอกว่า ตนมีอาการเดินเซ ง่วงซึม ตนยืนยันว่าเป็นเพราะตนกินยานอนหลับ ไม่ใช่เสพยาเคนมผง กรณีที่ตนได้หลงไปเสพยาเคนมผงนั้น ตนก็ตั้งใจว่าหลังจากนี้ตนจะเลิกเสพ และตนก็อยากจะขอโทษแม่และย่า ที่ตนเสพยาในครั้งนี้ ตนรู้สึกผิด และตนก็ได้ยินข่าวมาว่าก่อนนี้นี้มีคนเสพยาเคชนิดนี้แล้วเสียชีวิตอีกด้วย ตอนนี้ตนยืนยันว่าอาการของตนปกติ จำเหตุการณ์ทุกอย่างได้ ที่ผ่านมาตนอยากรู้อยากลอง ตนเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนไม่น่าไปดมยาเคนมผงเลย
หลังสัมภาษณ์ทีมข่าวสังเกตบริเวณหน้าผากของนายยี่ มีบาดแผล จึงสอบถามนายยี่ ถึงบาดแผลดังกล่าว โดยนายยี่ ให้ข้อมูลว่า เมื่อวานนี้ (10 ม.ค.64) ตอนเช้าตนได้ไปซื้อยาเคนมผงต่อจากเพื่อนในราคา 500 บาท จากนั้นตนได้นั่งเสพยาเคนมผง หลังจากสูดดมตนได้เห็นภาพหลอน คิดว่าเพื่อนจะมาทำร้าย จึงเข้าไปทำร้ายเพื่อนก่อน และเพื่อนก็มาทำร้ายตนกลับ จนตนได้รับบาดแผลดังกล่าว ซึ่งตนยืนยันว่า เหตุที่เกิดขึ้นเป็นเพราะตนกับเพื่อนเข้าใจผิดกันเท่านั้น ไม่ได้มีปัญหาส่วนตัวกันแต่อย่างใด
ด้านนางทองใส (นามสมมติ) ย่าของนายยี่ ผู้ที่เสพยาเคนมผง ให้สัมภาษณ์ว่า ตนเลี้ยงนายยี่ หลานชายมา หลานชายตนไม่เคยมีพฤติกรรมกร้าวร้าว กระทั่ง 2 วันที่ผ่านมา หลานชายตนมีอาการโวยวายอาละวาด คลั่ง มีปากเสียงกับแฟนสาว และทำร้ายข้าวของในบ้าน ตนจึงคิดว่าอาการที่หลานชายตนเป็นอยู่นั้น น่าจะมาจากพิษของยาเสพติด
ทั้งนี้ตนเองก็รู้สึกเป็นห่วงหลายชายมาก อยากให้หลานชายกลับมาเป็นเหมือนเดิม ตนยอมรับว่าที่ผ่านมา หลานชายตนยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดจริง เช้าของวันนี้ตนได้ให้หลานชายดื่มน้ำแดงโซดา และทานสุกี้ ซึ่งหลานชายตนก็อาการดีขึ้นแล้ว แต่ยังเดินโซเซอยู่