เมื่อวันที่ 12 ม.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้พูดคุยกับ นายมณฑา มั่นมูเสือ อายุ 57 ปี พ่อสามีของผู้เสียชีวิต เล่าว่า ตนทราบข่าวจากทางเฟซบุ๊ก เพราะเพื่อนของลูกสะใภ้ส่งข้อมูลมาให้ดู หลังจากทราบแล้วได้เดินทางไปยังบ้านที่เกิดเหตุ ขณะนั้นไม่เชื่อว่าคนที่ปรากฏในข่าวเป็นลูกสะใภ้
เมื่อไปถึงยอมรับว่าตกใจมาก ได้ขึ้นไปดูสภาพศพของลูกสะใภ้ ไม่คิดมาก่อนว่าลูกสะใภ้จะยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด และได้พยายามสอบถามการเสียชีวิตของลูกสะใภ้จากชาวบ้านระแวกดังกล่าว พบเพียงเห็นลูกสะใภ้มาสังสรรค์ดื่มเบียร์เป็นเวลา 2 วันแล้ว ตนคาดว่าที่ผ่านมาลูกสะใภ้น่าจะเครียด
โดยเมื่อช่วงปีใหม่ลูกสะใภ้มาปรึกษาบอกว่าตกงาน เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ร้านเหล้าต้องถูกปิด ซึ่งจะไม่มีเงินจ่ายค่าบ้าน ค่าเลี้ยงดูบุตรทั้ง 3 คน จึงหันไปเสพยาเสพติด ขณะนั้นตนก็ได้ตอบกลับไปว่าหากไม่มีเงินก็มาขอที่ตนได้ ที่ผ่านมาตนก็คอยส่งเสียเลี้ยงดูหลาน
นายมณฑา ยังเผยอีกว่า ที่ผ่านมาตนไม่ทราบว่าลูกสะใภ้เสพยาเสพติด ขณะนี้สภาพจิตใจครอบครัวของลูกสะใภ้ย่ำแย่มาก ตนสงสารผู้เป็นพ่อแม่และลูกหลาน 3 คนของลูกสะใภ้ ที่ต้องขาดเสาหลักของครอบครัวไป
สำหรับนิสัยใจคอของลูกสะใภ้ไม่เคยเถียง สั่งสอนก็เชื่อฟัง ไม่เคยเห็นพฤติกรรมที่ดื่มเหล้าเมายา และตนก็อยากให้ลูกสะใภ้ของตนไปดี อย่าคิดมาก ส่วนการเลี้ยงดูหลานนั้น ก็ต้องมาคุยกันอีกที ตนช่วยได้ก็ช่วยกันไป และตนไม่อยากจะให้สังคมนี้มีสารเสพติด
โดยก่อนหน้านี้ ลูกชายของตนก็ถูกจับกุมในข้อหาคดียาเสพติด เป็นเวลา 2 ปีแล้ว ซึ่งตนเสียใจมากเพราะลูกชายของตนนั้นไม่ได้เสพ แต่ไปอยู่กับเพื่อนจนติดร่างแหไปด้วย ตนไม่มีเงินประกันตัวจึงได้ปล่อยเลยตามเลย ขณะนี้ลูกชายที่ยังอยู่ในเรือนจำ ยังไม่ทราบว่าลูกสะใภ้เสียชีวิตแล้ว
โดยนายวิรัฐ ลูกชายเจ้าของบ้าน เล่าถึงเหตุการณ์ก่อนเกิดเหตุว่า วันที่ 10 ม.ค.64 ที่ผ่านมา กลุ่มพวกตนเริ่มเสพยาเคนมผง และดื่มสังสรรค์กับเพื่อน ซึ่งตนเป็นคนเริ่มเสพยาเคนมผงเป็นคนแรก ขณะที่เสพนั้นได้นั่งดื่มเบียร์ จนมึนเมา และเผลอหลับไป ส่วนคนอื่นนั่งเสพต่อ เมื่อตนตื่นมาอีกทีก็พบผู้ตายเข้ามาในบ้านแล้ว โดยไม่ทราบว่าใครเป็นคนพามา
สำหรับยาเคนมผงที่นำมาใช้เสพนั้น นำมาจากโรงสีย่านพระราม 3 ซึ่งมีคนแนะนำมา โดยซื้อมา 1 ห่อ ราคา 600 บาท โดยตนไม่ทราบว่าเป็นยาเสพติดชนิดใหม่ ทราบเพียงว่ามีลักษณะเป็นนมผง ตนคาดว่าน่าจะมีส่วนผสมอย่างอื่น จึงทำให้ผู้เสพเสียชีวิต และตนเพิ่งเคยลองเสพยาชนิดดังกล่าวเป็นครั้งแรก โชคดีที่ตนไม่เสียชีวิต
ทั้งนี้ตนรู้สึกเสียใจและอยากขอโทษผู้เสียชีวิต เพราะเพิ่งรู้จักกันแค่ 2 วัน และส่วนตัวเป็นห่วงครอบครัวผู้เสียชีวิต เพราะมีลูกถึง 3 คน พร้อมยืนยันไม่ได้ตั้งใจให้เหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น
ส่วนกรณีโลกออนไลน์เผยแพร่ตามหานายน้ำ ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นคนจัดหายาเคนมผง มาให้กลุ่มของน.ส.มายด์ ผู้เสียชีวิต โดยเป็นคนที่รับยามาจากเอเจนต์รายใหญ่ เพื่อกระจายให้กับผู้เสพรายอื่น ๆ ซึ่งตอนนี้เจ้าตัวยังหายเข้ากลีบเมฆ
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ยังได้พูดคุยกับนายเค (นามสมมติ) ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของนายน้ำ ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า ตนในฐานะเพื่อนสนิทของนายน้ำ ออกมาให้ข้อมูลกับทีมข่าว แต่ไม่ได้มีเจตนาที่จะปกป้อง หรือต้องการที่จะบอกว่านายน้ำไม่ใช่คนผิด เพียงแค่ต้องการบอกว่า “นายน้ำก็คือผู้เสพคนหนึ่ง” ที่เวลาเสพก็จะมีการหาซื้อตามเว็บไซต์ หรือขอให้เพื่อนที่สนิทกันสั่งซื้อของมาให้
โดยนายน้ำไม่เกี่ยวข้องหรือเป็นเอเจนต์ หรือแม้กระทั่งการจัดหายาเคนมผงที่มีจำนวนมากพอที่จะเอามาให้คนเสพได้ เพราะตนรู้จักเพื่อนคนนี้เป็นอย่างดี เวลาที่เสพยังเคยโทรศัพท์มาสอบถาม และยังเคยถามถึงแหล่งซื้อ แม้ว่าตนจะแนะนำเพื่อนได้ แต่ก็ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้
อีกทั้ง ตนรู้จักกับนายน้ำเป็นอย่างดี เพราะเจ้าตัวเป็นคนขี้กลัว ไม่กล้าทำเรื่องใหญ่ แต่ในวันนั้นเพียงแค่นายน้ำเป็นคนนั่งเฝ้าศพ อยู่กับศพเป็นคนสุดท้าย ประกอบกับอยู่ในอาการเมา และไม่สติจึงคิดไม่ได้ว่าจะต้องแจ้งใคร ก็เลยถูกมองว่าเป็นผู้จัดหายาเคนมผงมาให้นางสาวมายด์ รวมถึงอาจถูกซัดทอดจากเจ้าของบ้าน หรือแม้แต่กลุ่มเพื่อนผู้ชายที่รอดชีวิต ดังนั้นตนอยากจะขอความเป็นธรรมให้กับนายน้ำ เพราะตนรู้ดีว่าเพื่อนไม่เคยเป็นผู้ค้า เป็นเพียงผู้เสพตัวเล็กคนหนึ่งที่หลงผิดเข้าไปเสพต่อเนื่อง 2 ปีเท่านั้น
สำหรับการเสพเค ยอมรับว่าทุกครั้งที่นายน้ำเสร็จไปแล้ว ก็จะอยู่ในอาการมึนเมา ขาดสติ ทำอะไรไม่ทันคิด รวมถึงไม่รู้ว่าช่วงที่ผ่านมาเป็นการใช้ยาเคประเภทไหน แต่เคยมีเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ประมาณ 1 สัปดาห์ นายน้ำมีการเสพยาเค แล้วมีการวิดีโอคอลมาหาตน ซึ่งอยู่ในอาการคลั่งและหลอน หยิบมีดขึ้นมากรีดหน้าโชว์ พร้อมทั้งบอกว่า “กูมีเนวัดดาว” เป็นเน็ตไอดอล จึงได้ก่อเหตุดังกล่าวขึ้นโดยไม่ทันคิด ซึ่งตนก็ได้สั่งห้าม โดยบอกว่า “ถ้าไม่หยุด จะไม่วิดีโอคอลคุยเป็นเพื่อน” นายน้ำก็ได้หยุดพฤติกรรมดังกล่าว
หลังจากเกิดเรื่องขึ้น นอกจากตนจะตกใจที่โซเชียลฯ แห่ตามหาตัวของนายน้ำว่าเป็น “น้ำ 7 ศพ” ตนได้พูดคุยกับนายน้ำ ซึ่งสอบถามเกี่ยวกับส่วนผสม และตัวยาที่อยู่ในเคนมผง โดยนายน้ำไม่รู้ เพราะเป็นการรับมาจากที่อื่น แต่ส่วนผสมที่อยู่ด้านในตัวยา ที่ทำให้เกิดเรื่องบานปลายจนกระทั่งมีคนตาย เป็นเพราะมีส่วนผสมของยาไอซ์ ยาเค เฮโรอีน และยานอนหลับชนิดรุนแรง หรือมีการผสมยาต้องห้ามอื่น ๆ
ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายมครินทร์ พุ่มสะอาด หรือ เน วัดดาว กล่าวว่า รู้สึกแย่มากที่มีคนบอกว่า เสพเคนมผง เพราะมีตนเป็นไอดอล ตนบอกตรงนี้เลยว่าการเสพเคนมผง ไม่เกี่ยวกับตนแน่นอน เพราะเคนมผงเพิ่งจะเข้ามา อีกอย่างตอนนี้ตนก็ใช้ชีวิตใหม่แล้ว ควรจะเลือกทำตามตนแต่ในสิ่งที่ดี ๆ ส่วนเรื่องกรีดหน้า ตนพูดไม่ออกเลย เพราะรู้ตัวว่าผิดเองที่ทำให้มีคนเลียนแบบ
สำหรับกรณีเคนมผง ตนได้โพสต์เตือนไปในเฟซบุ๊กก่อนหน้าจะมีคนเสียชีวิตแล้ว แต่กลับโดนแจ้งสแปม ทำให้โพสต์นั้นหายไป เพราะตนจะบอกเสมอว่าใครเจอทิ้งให้หมด เพราะเมื่อ 1 สัปดาห์ก่อน ตนเจอเหตุการณ์ ที่มีเด็กแถวบ้านไปเสพเคนมผง อารมณ์เกรี้ยวกราด เริ่มทะเลาะกันเอง คุยไม่รู้เรื่อง ไม่มีสติ จำใครไม่ได้ แถมตนยังเกือบโดนแทง แล้วมีคนหนึ่งต้องปั๊มหัวใจ ซึ่งตอนนี้ยังไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร
อย่างไรก็ตาม ตนเคยนำเคนมผงไปละลายน้ำ ปรากฏว่ามีการแยกชั้น ส่วนหนึ่งลอย ส่วนหนึ่งจม และตนได้ลองเอานิ้วจิ้มเพื่อลองชิม เนื่องจากตนจำรสชาติได้ ปรากฏว่าไม่มีรสของเคตัวเดิมเลย และเหมือนมีเฮโลอีนผสมอยู่ด้วย แล้วก็ผสมอย่างอื่นมั่วไปหมด ซึ่งตนเชื่อว่าตอนนี้เคตัวเดิมขาดตลาด ใครที่มีเคอยู่ในมือก็น่าจะเป็นเคนมผงทั้งหมด ซึ่งตนขอพูดคำหนึ่งถึงคนที่อยากลอง เพราะตอนนี้ฮิตว่า “มันอาจเป็นฮิตสุดท้ายในชีวิต” ขนาดตนยังกลัวเลย
เมื่อตรวจสอบเฟซบุ๊กของน.ส.เอมมี่ วันที่ 7 ม.ค.64 เวลา 06.18 น. โพสต์ภาพครอบครัว ระบุว่า "กำลังกลับไปกอดนะงับ"
วันที่ 7 ม.ค.64 เวลา 12.04 น. โพสต์ข้อความว่า "55555 หนูว่าไม่เหนื่อย นอนยาว ๆ" หลังจากที่เจ้าตัวตกงานไม่มีงานทำ
วันที่ 7 ม.ค.64 เวลา 19.52 น. โพสต์ข้อความระบุว่า "กูจะหลุดอะไรกันวะเนี้ย"
วันที่ 9 ม.ค.64 เวลา 23.36 น. โพสต์ข้อความระบุว่า "ฆ่ากูเถอะ" พร้อมกับแนบภาพใบเสร็จการชำระเงิน รวมทั้งสิ้น 9 รูป
จากเหตุการณ์ ที่ ตำรวจ สน.สุทธิสาร ได้รับแจ้งพบมีผู้เสียชีวิตไม่ทราบเหตุเพิ่ม น.ส.หนิง (นามสมติ) อายุ 19 ปี เสียชีวิตในบ้านพักไม่มีเลขที่ สุดซอยรัชดาภิเษก 18 แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กทม. สภาพนอนหงาย โดยสวมชุดนอนบนเตียงนอน ไม่มีร่องรอยการใช้กำลัง หรือการต่อสู้
เมื่อตรวจสอบไปยังเฟซบุ๊กของ น.ส.หนิง เมื่อวันที่ 30 ธ.ค.63 เวลา 00.05 น. โพสต์ข้อความระบุว่า "Happy birthday to me ของขวัญที่ดีที่สุด คือ ตัวเราที่มีความสุขในทุก ๆ วัน"
แต่เมื่อย้อนกลับไปวันที่ 23 ธ.ค.63 เวลา 21.33 น. โพสต์ข้อความระบุว่า "I walked away to save myself ที่ฉันเดินออกมาก็เพื่อที่จะรักษาตัวเอง"
ทีมข่าวเดินทางมายังงานศพใน ต.หนองศรีชัย อ.หนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งทางญาติยังอยู่ในอาการโศกเศร้าเสียใจ ซึ่งญาติยังรับไม่ได้กับการจากไปของผู้เสียชีวิต
โดยทีมข่าวได้พูดคุยกับ นางประจวบ เทินสระเกษ อายุ 50 ปี ผู้ใหญ่บ้านโนนสูงน้อย เปิดเผยว่า น้องหนิง ผู้เสียชีวิตนั้นไปทำงานอยู่กรุงเทพฯ ประมาณ 2 ปีแล้ว โดยไปทำงานและแยกออกไปอยู่ส่วนตัว ซึ่งญาติ ๆ เองก็ไม่รู้รายละเอียดการเสียชีวิต แต่สภาพจิตใจของคนในครอบครัวย่ำแย่มาก เพราะเขาเสียชีวิตอย่างรวดเร็ว ทำให้ครอบครัวยังคงช็อก และไม่สะดวกที่จะให้ข้อมูล
อย่างไรก็ตาม ตนก็อยากฝากเรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ให้กับวัยรุ่นและเด็กรุ่นหลังถึงอันตรายของยาเสพติด ให้ดูเป็นตัวอย่างว่าติดยา เพราะไม่ทำให้อะไรดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย
ขณะเดียวกัน ทีมข่าวเดินทางไปยังวัดเรืองยศสุทธาราม แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กทม. เป็นที่ตั้งศพของ นายธงชัย หรือเบิร์ด อายุ 35 ปี และ น.ส.พาณิภัค หรือ เอมี่ อายุ 21 ปี ที่เจ้าหน้าที่สงสัยว่าเสียชีวิต เพราะเสพเคนมผง
โดยวันนี้ ทางครอบครัวนายธงชัย เดินมาขอทีมข่าวว่าไม่ให้สัมภาษณ์ พราะคนตายก็ตายไปแล้ว ส่วนงานศพ น.ส.พาณิภัค หรือ เอมี่ ทางเพื่อน ๆ ได้บอกว่า อยากให้เรื่องนี้เหมือนฝันร้ายจบลงไว ๆ
ย้อนเหตุการณ์ก่อนพริตตี้เอมมี่ช็อกดับ วันที่ 9 ม.ค.64 น.ส.เอมมี่ ไปร่วมงานวันเกิดเพื่อน ๆ ดื่มกินกันก่อนแยกย้าย และวันที่ 10 ม.ค.64 เวลา 00.00 น. น.ส.เอมมี่ พร้อมแฟนหนุ่มและเพื่อนกลับมานั่งเล่นเกมต่อที่บ้าน ยืนยันไม่มีการเสพยา
วันที่ 10 ม.ค.64 เวลา 11.00 น. เพื่อน ๆ ทั้ง 3 คน แยกย้ายกันกลับบ้าน เห็นพริตตี้เอมมี่ และแฟนหนุ่มนอนหลับ กระทั่งเวลา 13.00 น. พริตตี้เอมมี่เสียชีวิต ส่วนแฟนหนุ่มอาการสาหัส
สำหรับความเคลื่อนไหวของน.ส.เอมมี่ ในเฟซบุ๊กวันที่ 3 ม.ค.64 เวลา 01.57 น. โพสต์ภาพกำลังดื่มสังสรรค์ พร้อมข้อความว่า "เมาแล้วเพี้ยน 5555"
วันที่ 5 ม.ค.64 เวลา 22.11 น. โพสต์ข้อความว่า "จบแล้ว หมดแล้ว ไม่มีสิทธิ์โหยหาอะไรทั้งนั้น พัง"
วันที่ 8 ม.ค.64 เวลา 17.07 น. โพสต์ข้อความระบุว่า "เรื่องเมียไว้ทีหลังก่อนก็ได้"