จากกรณีนายพงศธร พุ่มราตรี หรือเอ็ม อายุ 27 ปี พร้อมมารดา นางสาวองุ่น พุ่มราตรี อายุ 52 ปี ได้ออกมาร้องเรียนสื่อฯ เพื่อขอเป็นธรรม พร้อมยืนยันว่าตนไม่ได้เป็นผู้ร่วมก่อเหตุฆ่าคนตาย ในพื้นที่ สน.สายไหม แต่ตำรวจยืนยันว่ามีหลักฐานเอาผิดเป็นภาพจากกล้องวงจรปิด
ล่าสุดวันนี้ (7 พ.ค.) ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุอีกครั้ง ซึ่งอยู่บริเวณกลางซอยพหลโยธิน 54/1 แยก 4-7 แขวงคลองถนน เขตสายไหม กทม. ซึ่งมีชาวบ้านรายหนึ่งชี้ให้ดูร่องรอยของกระสุนที่ทะลุเข้ามาในบ้านจำนวน 2 นัด แต่หลายคนปฏิเสธให้ข้อมูล เนื่องจากกังวลเรื่องความปลอดภัย
จากการสำรวจกล้องวงจรปิด พบว่ามีกล้องของกรุงเทพมหานคร เขตสายไหม ที่ส่องเข้ามาภายในซอย และมีกล้องของชุมชนที่อยู่หน้าบ้านประธานชุมชน และอีกหนึ่งตัวที่บ้านติดกัน แต่ชาวบ้านไม่แน่ใจว่าใช้การได้หรือไม่
ขณะที่ความคืบหน้าทางคดีนั้น
พันตำรวจเอกทนงศิลป์ มณีโชติ ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลสายไหม ระบุว่า ตำรวจได้หลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดริมถนนของกทม.แล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยต่อสื่อมวลชนได้ เพราะเกรงจะเสียรูปคดี แต่ยืนยันว่าหากหลักฐานไม่เพียงพอ ศาลคงไม่อนุมัติหมายจับตั้งแต่แรก ขณะที่ผลการตรวจชนิดของกระสุน ตอนนี้อยู่ระหว่างรอผลการตรวจสอบ
ส่วนผู้ต้องหาและแม่ออกมาร้องเรียนต่อสื่อฯ โดยนำหลักฐานเป็นใบรับรองแพทย์มาแสดงนั้น ก็เป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหา ส่วนเรื่องการโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กนั้น ตนเข้าใจถึงหัวอกของคนเป็นแม่ แต่หากยังไม่มีการหยุดโพสต์ ก็อาจจะต้องดำเนินการตามกฎหมาย และในส่วนของ รอง ผกก.สส.สน.สายไหม ที่ถูกพาดพิงว่าทำร้ายร่างกายนายเอ็ม ก็ยังคงปฏิบัติงานอยู่เช่นเดิม
ขณะที่วัดเกาะสุวรรณาราม เป็นสถานที่ตั้งศพนายเอกชัย ยินดีวงษ์ หรือ ซิ่ง ทีมข่าวพบกับ
นายปรีชา ยินดีวงษ์ คุณพ่อของนายซิ่ง อายุ 63 ปี โดยเปิดเผยว่า ในส่วนของคดีความลูกชายของตนก็ถือว่าจบแล้ว ส่วนการชดเชยครอบครัวผู้เสียชีวิตที่ลูกชายตนยิงไป 2 ศพนั้น ทางฝั่งครอบครัวผู้เสียหายก็ไม่ได้มีการเรียกร้อง
ส่วนกรณีของนายเอ็ม ผู้ต้องหาอีกรายนั้น ตนไม่ทราบว่าจะดำเนินการอย่างไร เพราะตนไม่รู้จักนายเอ็ม ส่วนเรื่องความรู้สึกตอนนี้ ยังคงคิดถึงลูก ส่วนลูกของนายซิ่ง 3 คน ทางพ่อแม่ฝ่ายหญิงดูแลให้อยู่แล้ว