เพื่อนแฉนาทีก่อนก๊วนปาร์ตี้เป็นศพเซ่นเคนมผงพี้กันทั้งคืน ปัดปล่อยตายแค่นึกว่าหลับ (คลิป)

กรณีชาวบ้านแจ้งตำรวจ สน.โชคชัย พบคนมั่วสุมเสพยาแล้วเสียชีวิตคาห้องพัก ในอพาร์ตเมนต์ย่านลาดพร้าววังหิน ซอย 7 แยก 5 พบผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 หญิง 1 ดังต่อไปนี้

1.นายพารวย ฉวีวรรณ หรือ ไอซ์ อายุ 27 ปี 2.น.ส.ปรีดาภรณ์ โพธิ์แก้ว หรือ กุ้ง อายุ 30 ปี มีอาชีพทำงานด้านเอนเตอร์เทน ทั้งคู่เสียชีวิต และ 3.น.ส.สุวรรณี อินทไทร หรือ ฝ้าย อายุ 27 ปี ภรรยาของนายพารวย ผู้เสียชีวิต ขณะนี้ยังนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล 

ล่าสุดวันที่ 15 ม.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้พูดคุยกับนายโก๋ (นามสมมติ) เพื่อนนายเต๋า กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุนายไอซ์ น.ส.ฝ้าย น.ส.กุ้ง และนายเต๋า นั่งปาร์ตี้อยู่บนห้องที่เกิดเหตุ โดยตนได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปรับ น.ส.ดรีม ที่ซอยเสือใหญ่ตามมาสมทบช่วงกลางดึก จากนั้นตนก็นั่งกินเบียร์และเล่นโทรศัพท์อยู่ห่าง ๆ ส่วนที่เหลือก็นั่งล้อมวงกัน คาดว่าน่าจะใช้สารเสพติดบางอย่าง และมีการดื่มเบียร์กัน

โดยช่วงที่ตนขึ้นไปบนห้อง ทุกคนดูเมากันแล้ว ก่อนที่ตนจะขอตัวกลับบ้านก่อนในช่วงเช้า ซึ่งนายไอซ์ และนายเต๋า ยังนั่งอยู่ ส่วนน.ส.ฝ้าย น.ส.กุ้ง และน.ส.ดรีม นอนหลับแล้ว หลังจากนั้นเวลาประมาณ 11.00 น. ตนขึ้นไปรับนายเต๋ากลับบ้าน เพราะเต๋าไม่มีรถ โดยช่วงที่เข้าไปรับ นายไอซ์ยังนั่งอยู่และพูดคุยได้ ส่วนน.ส.ฝ้าย น.ส.กุ้ง และ น.ส.ดรีมนอนอยู่ คิดว่าน่าจะหลับกันไปตามปกติ

ส่วนนายเต๋า ยังเดินและพูดคุยได้ กระทั่งนำตัวไปส่งที่บ้านนายเต๋าฟุบหลับไป และเริ่มหายใจแปลก ๆ เรียกแล้วไม่ได้สติ ตนจึงเช็ดตัวให้ ก่อนที่แม่นายเต๋า จะเรียกรถพยาบาลเข้ามารับไปส่งโรงพยาบาล โดยตนไม่รู้ว่าช่วงเกิดเหตุนายเต๋าใช้สารเสพติดไปมากน้อยขนาดไหน เพราะไม่ได้สังเกต และตนก็ไม่ได้ร่วมวงด้วย รวมถึงช่วงที่เกิดขึ้นตนไม่รู้ว่ามีการใช้เคนมผง เพราะเคยดูตามข่าวว่าใช้แล้วค่อนข้างอันตราย ซึ่งหากรู้ก็คงห้ามเพื่อน ทั้งนี้ไม่รู้ว่ากลุ่มผู้ตายไปนำเคนมผงมาจากไหน หลังเกิดเหตุได้เข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจในฐานะพยานเรียบร้อยแล้ว

ทีมข่าวเดินทางไปยังบ้านของน.ส.ดรีม ผู้ที่ร่วมวงปาร์ตี้แต่ออกมาจากที่เกิดเหตุหลังพบว่าเพื่อนเสียชีวิต ซึ่งวันนี้น.ส.ดรีม ได้เดินทางไปร่วมงานศพของน.ส.กุ้ง ที่อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี

ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายหนึ่ง (นามสมมติ) พ่อของดรีม กล่าวว่า วันเกิดเหตุลูกสาวดื่มเบียร์อย่างเดียว ไม่ได้ใช้สารเสพติด แต่ยอมรับว่าก่อนหน้านี้ลูกสาวติดยา และเคยดมยาเคจริง กระทั่งมีข่าวออกมาเรื่องเคนมผง ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตจากการใช้สารเสพติดชนิดดังกล่าวจำนวนหลายราย ตนก็เตือนลูกสาวว่า หากเสพแล้วเสียชีวิตไม่มีใครช่วยได้ คิดว่าลูกสาวน่าจะกลัว จึงไม่ได้ร่วมวงด้วย

โดยน.ส.ดรีม ตกใจ หลังเกิดเหตุจึงหลบออกมาก่อน แต่ไม่ได้กลับมาที่บ้าน จนเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาสอบถาม ญาติ จึงติดต่อและพาเข้าไปสอบปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งน.ส.ดรีม บอกว่า เป็นคนโทรเรียกเจ้าหน้าที่กู้ภัยด้วยตัวเอง ทราบว่าลูกสาวหลับอยู่ก่อนที่ลูกสาวนายไอซ์จะมาเคาะประตูจึงตื่น และพบว่าเพื่อนคนอื่น ทั้งนายไอซ์ น.ส.ฝ้าย และน.ส.กุ้ง นอนหลับเรียกแล้วไม่ตื่น จนภายหลังนายไอซ์กับน.ส.กุ้งเสียชีวิต

ทั้งนี้ตนก็คิดว่านายไอซ์ น.ส.ฝ้าย และน.ส.กุ้ง น่าจะใช้เคนมผงตามข่าว แต่ไม่รู้ว่าเอามาจากไหน ส่วนลูกสาวตนติดยาและมักจะไปร่วมปาร์ตี้กับกลุ่มเพื่อนที่เสียชีวิตเป็นประจำ โดยตอนนี้ลูกสาวเข้าให้ปากคำ และเข้าตรวจเลือดที่โรงพยาบาลแล้ว ซึ่งลูกยอมรับกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเคยใช้สารเสพติด เพิ่งเลิกไปไม่นาน ตอนนี้ก็รอผลเรื่องของคดี ทั้งนี้รู้สึกว่าโชคดีที่ลูกสาวไม่ได้เข้าไปร่วมวงเสพด้วย ไม่เช่นนั้นก็อาจจะเสียชีวิตเหมือนคนอื่น ๆ

จากนั้นทีมข่าวเดินทางไปยังบ้านนายเต๋า ได้พูดคุยกับนายต่อ (นามสมมติ) พี่ชายนายเต๋า กล่าวว่า ตอนนี้นายเต๋าอาการดีขึ้น พูดคุยได้แล้ว แต่ยังมีอาการสะลึมสะลือจากฤทธิ์ยา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำและส่งตัวไปตรวจเรื่องสารเสพติดในร่างกายแล้ว ขณะนี้จึงต้องรอผลว่ามีสารชนิดใดบ้าง

จากการสอบถามน้องชาย ระบุว่าวันเกิดเหตุรู้สึกง่วงนอน จึงขอตัวกลับออกมาก่อน โดยเพื่อนมาส่งที่บ้าน เมื่อมาถึงก็สลบไปจนแม่เห็นอาการไม่ดี จึงต้องเรียกรถพยาบาลมารับตัว นายเต๋าถือว่าดวงดีที่ตัดสินใจออกมาก่อน ไม่เช่นนั้นอาจจะอันตรายกว่านี้ เพราะก่อนออกมา นายเต๋าระบุว่า ยังเห็นนายไอซ์นั่งดูทีวี ดูมีสติ ส่วนคนอื่นไม่มั่นใจว่าอาการเป็นอย่างไร แต่เชื่อว่าช่วงที่นายเต๋าออกมา ทุกคนน่าจะยังมีชีวิต และอาการเกิดในภายหลัง แล้วไม่มีคนช่วยเพราะแย่กันหมด

ทั้งนี้น้องชายไม่ได้บอกรายละเอียดว่าสารที่ใช้ คือเคนมผงหรือไม่ แต่ตนคิดว่าน่าจะใช่ โดยอาจจะอยากรู้อยากลอง หรือไม่รู้ว่าเป็นเคนมผง จึงกล้าใช้ เพราะก่อนเกิดเหตุมีข่าวออกมาเรื่องอันตรายและพิษภัยจากเคนมผง และตนก็เคยเตือนเรื่องสิ่งเสพติดคิดว่าน้องน่าจะรู้

นอกจากนี้ น้องชายไม่ใช่คนที่ติดยาอย่างหนัก เป็นเพียงวัยรุ่นที่ชอบลองเท่านั้น คิดว่าน้องชายไม่น่าจะเป็นคนนำยาเสพติดเข้าไปในกลุ่ม โดยตอนนี้น้องอยู่ในความกดดัน เพราะต้องเข้าสอบปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเสียใจที่เพื่อนเสียชีวิต ทำให้สภาพจิตใจยังย่ำแย่

เวลา 18.00 น. ที่ศาลา 8 วัดลาดพร้าว มีพิธีสวดอภิธรรมศพ นายพารวย ฉวีวรรณ หรือไอซ์ โดยญาติและเพื่อนสนิทร่วมงาน

นางวชิราภรณ์ แม่ของนายไอซ์ กล่าวว่า ผลชันสูตรเบื้องต้นของลูกชายระบุแค่เสียชีวิตจากหัวใจล้มเหลว ตนยังไม่ทราบผลเรื่องสารเสพติดในร่างกายว่ามีสารชนิดใดบ้าง คาดว่าเป็นกระบวนการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ส่วนน.ส.ฝ้าย ภรรยานายไอซ์ ยังรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียูโดยยังไม่พ้นขีดอันตราย มีพ่อของเจ้าตัวคอยดูแล ตนก็ยังไม่ได้เข้าไปเยี่ยม เพราะวุ่นอยู่กับงานศพและอยู่ในช่วงโควิด-19

โดยนายไอซ์ กับน.ส.ฝ้าย มีลูกด้วยกัน 3 คน เป็นผู้หญิง 2 คน อายุ 11 ปี และ 10 ปี คนเล็กเป็นผู้ชายอายุ 5 ขวบ หลังเกิดเหตุทราบว่าลูกสาวคนโต เข้าไปเจอสภาพพ่อแม่นอนแน่นิ่ง ทำให้มีอาการช็อก สภาพจิตใจย่ำแย่ โดยเชื่อว่าลูก ๆ น่าจะรับรู้ว่าพ่อเสียชีวิต แม้ว่าตนจะยังไม่ได้บอก หลังจากนี้ตั้งใจจะให้หลาน ๆ มาร่วมในงานวันเผาศพวันที่ 17 ม.ค.64

โดยเมื่อวันที่ 14 ม.ค.64 ที่ผ่านมา น.ส.ดรีม หนึ่งในเพื่อนที่ร่วมปาร์ตี้ ได้มาร่วมงานศพช่วงค่ำ พร้อมกล่าวขอโทษตนเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งตนไม่ได้ถามรายละเอียด และไม่ได้โกรธอีกฝ่าย เพราะคิดว่าลูกตนเลือกเอง ถ้าจะผิดก็ผิดที่ลูกที่จิตใจอ่อนแอ ไม่ใช่เพื่อนหรือคนอื่น

ส่วนใครเป็นคนนำยาเสพติดหรือเคนมผง เข้ามาในกลุ่มตนไม่รู้ ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้ดำเนินการ และจับกุมตัวการใหญ่มาลงโทษให้ได้ ทั้งนี้ก็อยากเตือนถึงผู้ที่คิดจะใช้ยาเสพติดให้คิดถึงผลที่จะตามมา เพราะตอนนี้ก็มีข่าวนำเสนอทุกวัน 

ทีมข่าวเดินทางไปยังวัดชำโสม ต.กบินบุรี อ.กบินบุรี จ.ปราจีนบุรี ภายในศาลาวัดถูกจัดงานฌาปนกิจศพของ น.ส.ปรีดากรณ์ โพธิ์แก้ว อายุ 31 ปี โดยกำลังอยู่ในการจัดงานอยู่ ซึ่งมีเพียงแค่เหล่าบรรดาญาติ ๆ บางส่วนเท่านั้น ยังไม่เพื่อนในก๊วนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด

จากนั้นทีมข่าวได้พูดคุยกับนายคึกฤทธิ์ ดินม่วง อายุ 33 ปี แฟนหนุ่มของน.ส.ปรีดากรณ์ เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ตนคบกับน.ส.กุ้ง มานานกว่า 6 เดือนแล้ว โดยไม่ค่อยได้เจอกันเท่าไร แต่จะติดต่อสื่อสารกันอยู่เรื่อย ๆ เนื่องจากเวลาไม่ค่อยตรงกัน และน.ส.กุ้ง ค่อนข้างมีโลกส่วนตัวสูง ซึ่งตนก็เข้าใจ

แต่เพื่อนของน.ส.กุ้ง แต่ละคนตนก็ไม่เคยรู้จัก อย่างเช่น น.ส.ดรีม ตนก็เคยได้ยินชื่อ แต่ไม่เคยเจอ ส่วนตัวยังคิดว่าน.ส.ดรีม เป็นผู้ชายด้วยซ้ำ สิ่งที่ตนยังคงคาใจอยู่ก็คือ อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านี้ คนที่ตอบคำถามได้ดีที่สุดคือเพื่อนของน.ส.กุ้ง และก็เสียชีวิตไปแล้ว เนื่องจากตนไม่สามารถติดต่อน.ส.กุ้ง ได้ตั้งแต่วันที่ 11 ม.ค.64 ตนเข้าใจว่าฝ่ายหญิงงอน ที่ตนไม่ได้พาไปเอ็กซเรย์ตา เนื่องจากเพิ่งประสบอุบัติเหตุ ซึ่งตอนนั้นตนอยู่ที่ จ.นครศรีธรรมราช กุ้งจึงขาดการติดต่อไป ในขณะที่ตนพยายามติดต่อกุ้ง แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ ในวันที่ 12 ม.ค.64 ตนก็เข้าใจว่ากุ้งน่าจะเมาเหล้า เพราะปกติตนเข้าใจดีว่า เวลากุ้งเมา จะไม่แตะโทรศัพท์มือถือเลย กระทั่งวันที่ 13 ม.ค.64 ตนถึงมาทราบข่าวจากพี่สาวของน.ส.กุ้ง ว่าแฟนสาวของตนได้เสียชีวิตแล้ว

อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวยังคงรู้สึกเสียใจและยังทำใจไม่ได้ที่ น.ส.กุ้ง เสียชีวิตไปอย่างกะทันหัน เนื่องจาก 3 วันที่แล้ว ก่อนน.ส.กุ้ง เสียชีวิต ยังคุยกันอยู่เลย ส่วนเรื่องเพื่อน ๆ ที่พาน.ส.กุ้ง ไปลองยาเคผงนมจนเสียชีวิต ตนก็ไม่ได้โกรธเหมือนวันแรก ๆ ตอนนี้คนตายไปแล้ว ทำอะไรไม่ได้ ตอนนี้ตนแค่อยากรู้เรื่องราวจริง ๆ ที่เกิดขึ้นมากกว่า