รวบคนขายเคทะเลทรายคร่าสาวเสิร์ฟ อึ้ง! ซัดทอดก๊วน "มายด์" แฟนเปิดอาการก่อนดับตัวซีด (คลิป)

จากเหตุการณ์ที่ตำรวจ สน.สุทธิสาร ได้รับแจ้งพบมีผู้เสียชีวิต น.ส.หนิง (นามสมมติ) อายุ 19 ปี เสียชีวิตในบ้านพักไม่มีเลขที่ สุดซอยรัชดาภิเษก 18 แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กทม. สภาพนอนหงาย สวมชุดนอนบนเตียงนอน สาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากเกอดอาการช็อกด้วยฤทธิ์ยาชนิดเอ็มเฟตามีน หรือส่วนผสมในยาเคนทผง 

ล่าสุดวันที่ 15 ม.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปเจอกันนายโม (นามสมมติ) อายุ 21 ปี แฟนหนุ่มของน.ส.หนิง เปิดเผยว่า ในวันที่ 9 ม.ค.64 ที่ผ่านมา แฟนสาวได้บอกกับตนว่า จะออกไปหาเพื่อน แต่ไม่บอกว่าไปย่านไหน ตนพยายามติดต่อจนกระทั่งทราบว่าไปโผล่ที่พระราม 3 โดยได้เจอกับเพื่อนชาย (นายคิด) ตนก็ได้พยายามพูดคุยกับแฟนสาวตลอดเวลา จนช่วงประมาณ 23.00 น. ขาดการติดต่อไป ซึ่งไม่รู้ว่าไปทำอะไรอยู่ กระทั่ง 01.00 น. ของวันที่ 10 ม.ค.64 แฟนสาวได้ติดต่อกลับมา และมีการพูดคุยทางโทรศัพท์ตามปกติ พร้อมกลับบอกว่า กำลังจะกลับบ้าน แต่ไม่ได้กลับมาในทันที กลับมาถึงบ้านอีกครั้งเวลา 08.00 น. โดยนั่งแท็กซี่มาจากพระราม 3 ซึ่งไม่มีใครมาส่ง

ลักษณะของแฟนสาว ตอนนั้นอยู่ในอาการมึนเมา มีกลิ่นแอลกอฮอล์เล็กน้อย และพอจะพูดจารู้เรื่องได้บ้าง ตนจึงได้สอบถาม ว่าไปไหน ทำอะไรมา แฟนสาวปฏิเสธและไม่ได้เล่าอะไรให้ฟัง โดยตนสงสัยว่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องยาเสพติด โดยเฉพาะยาเคนมผงที่กำลังระบาด ตนจึงได้พูดขึ้นมาว่า “ไปเสพยาเคปากีฯ มาใช่หรือไหม” ซึ่งตอนนั้นแฟนสาวบอกว่า “ไม่เสพ ไม่ได้ยุ่ง” ตนก็อุ่นใจ เพราะคิดว่าแฟนสาวเมาเหล้าแล้วง่วงนอน จึงได้ให้เข้าไปนอนในบ้าน และช่วงที่กำลังเข้าบ้าน สังเกตเห็นเล็บเท้า ซีดไม่มีเลือดไปเลี้ยง ปกติแฟนสาวจะเป็นคนทาสีเล็บเข้ม แต่วันนั้นค่อนข้างซีด ประกอบกับแขน 2 ข้าง และใบหน้า มีรอยแดงคลายกับอาการแพ้ จึงเป็นผลข้างเคียงเรื่องยาเสพติด

หลังจากที่พาเข้าไปในบ้านแล้ว ตนก็ได้เข้าไปดูแล โดยแฟนสาวยังขอดื่มน้ำเป็นระยะ ๆ และพยายามใช้มือเกาบริเวณใบหน้า เนื่องจากมีรอยแดงและผื่นคันขึ้นที่หน้า แต่ในช่วงกลางดึก แฟนสาวเริ่มมีอาการนิ่ง ไม่ได้ตื่นมาพูดคุยกัน พร้อมกับอยู่ในอาการอ่อนเพลีย ตนก็ปล่อยให้แฟนสาวนอนอยู่บนโซฟา กระทั่งเวลา 01.59 น. สังเกตว่าแฟนสาวเสียชีวิตแล้ว จึงได้รีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่พร้อมกับเพื่อนสนิท และในตอนนั้นได้มีการเปิดแชตข้อความ Facebook แต่โทรศัพท์แฟนสาว ซึ่งพบว่ามีการคุยกับเพื่อนสนิทคนหนึ่ง (นายคิด) มีการพูดคุยทำนองว่า นัดออกไปเจอกัน ให้สั่งยาเคมาเสพ แต่ด้วยยาเคนมผงขาดตลาด จึงได้สั่งให้เอายาเคทะเลทรายมาใช้ทดแทน หลังจากที่ตนเห็นข้อความแล้วนั้น ก็ได้มอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำไปเป็นหลักฐาน เพื่อสืบหาต้นตอของยาเคทะเลทราย และบุคคลที่เกี่ยวข้อง รวมถึงคนที่เอายามาให้แฟนสาวเสพ จนกระทั่งถึงแก่ความตาย

สำหรับเพื่อนสนิทผู้ชาย (นายคิด) ที่มีการพูดคุยกับแฟนสาว เป็นคนสุดท้ายในแชตข้อความ Facebook และยังเป็นคนที่คาดว่านำยาเสพติดมาให้แฟนสาวร่วมกันเสพ ส่วนตัวไม่ได้รู้จักหรือสนิท เพราะเป็นเพื่อนเก่าที่เลิกคบหากันมานานแล้ว เนื่องจากนิสัยเป็นคนเสพยาตนจึงเลิกคบ ส่วนแฟนสาวไปรู้จักกันได้อย่างไร ตนไม่รู้ แต่ก็รู้สึกตกใจมากที่มีข้อความปรากฏว่า มีการพูดคุยกันเรื่องจัดหายาเคมาเสพ

ที่สำคัญเพื่อนของแฟนสาว มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มที่แต่งรถซิ่ง แต่งรถแต่ง โดยมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มสายไหม หรือกลุ่มของนายตอ มิคาโดะ ที่อ้างตัวเองว่าเป็นแก๊งที่มียาเคทะเลทรายไว้ในครอบครอง โดยเชื่อว่าเพื่อนสนิทของแฟนสาว ได้มีการรับยาดังกล่าว มาจากกลุ่มมิคาโดะอย่างแน่นอน ทั้งนี้ตนได้แต่เพียงให้ปากคำเพิ่มเติม และส่งข้อมูลเท่าที่มีให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเชื่อมโยงไปหาต้นตอของที่มายาเสพติดดังกล่าว

สำหรับความแตกต่างระหว่างยาเคนมผง กลับยาเคทะเลทราย ส่วนตัวมองว่ามีความใกล้เคียงกัน ผลลัพธ์และการออกฤทธิ์คล้ายกัน โดยทำให้เกิดอาการขาดสติ ง่วง และหัวใจเต็มแรง ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นยาเคประเภทไหน ก็มีความรุนแรงเท่ากัน แต่หากเทียบกับยาเคนมผง และยาเคทะเลทราย ก็น่าจะเป็นตัวที่รุนแรงมากที่สุด เพราะทำให้แฟนสาวถึงขั้นเสียชีวิต และยังมีกลุ่มคนเสพอีกหลายคนที่ทยอยเสียชีวิตตามไปด้วย

อย่างไรก็ตาม ในวันนี้เป็นงานฌาปนกิจศพของน.ส.หนิง แฟนสาว ซึ่งจัดขึ้นใน จ.บุรีรัมย์ ตนไม่ได้มีโอกาสเดินทางไปร่วมแสดงความเสียใจและไปร่วมส่งแฟนสาวเป็นครั้งสุดท้าย เนื่องจากหลังเกิดเรื่องยังต้องเดินทางไปให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และนำข้อมูลเกี่ยวกับแชต Facebook ไปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อสืบหาเครือข่ายยาเสพติด

ตำรวจชุดสืบสวน สน.สุทธิสาร จับนายคิด อายุ 18 ปี พ่อค้าเคนมผง ซึ่งขายยาให้น.ส.ละลิตา หรือ หนิง อายุ 19 ปี สาวเสิร์ฟร้านอาหารย่านพระราม 3 ที่เสียชีวิตในห้องเช่าของแฟนหนุ่มในช่วงกลางดึกคืนวันที่ 10 ม.ค.64 ต่อเนื่องเช้าวันที่ 11 ม.ค.64 ในซอยรัชดาภิเษก 18 โดยสามารถจับกุมได้พร้อมของกลางเป็นยาเคนมผง 1 กรัม ทางเจ้าตัวอ้างว่า ยาดังกล่าวเป็นของนายวัชระ หรือ นายโบ้ ผู้ต้องหาคดียาเคนมผงของ สน.วัดพระยาไกร

ด้านพ.ต.อ.ภูริส จินตรานันท์ ผกก.สน.สุทธิสาร เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สามารถจับกุมนายคิดได้จากในชุมชนปู่เอี่ยม ย่านพระราม 3 พร้อมของกลางเป็นยาเคนมผง ที่ยังหลงเหลือจากล็อตที่รับมาจำหน่าย โดยฝ่ายสืบสวน เฝ้าติดตามหลังเกิดเหตุ และผู้ต้องหาได้มีการพยายามหลบหนีไปที่พื้นที่ จ.นนทบุรี ก่อนจะย้อนกลับมาในพื้นที่ดังกล่าว

จากการสอบปากคำผู้ต้องหารับสารภาพว่า เป็นผู้จำหน่ายเคนมผงให้กับผู้ตายในพื้นที่สุทธิสารจริง ซึ่งยาเคนมผงล็อตที่จำหน่ายให้ผู้ตายรับมาจากนายโบ้ โดยรับมากรัมละ 600 และตนมาบวกกำไร 100 บาท ส่วนเรื่องส่วนผสม ผู้ต้องหาระบุว่า มีการผสมยาเคร่วมกับแป้ง และเฮโรอีน ซึ่งตรงกับของกลางที่พบในพื้นที่จันทน์ 31 ทั้งนี้นายคิด ผู้ต้องหา ยังเป็นคน ๆ เดียวกับที่แชตคุยกับผู้ตายในประเด็นเรื่องยาเคทะเลทราย

ส่วนตัวของนายคิด ผู้ต้องหานั้น หลังควบคุมตัวมาได้ ชุดสอบสวนได้สอบปากคำและทำบันทึกการจับกุม ก่อนส่งตัวให้กับ ตำรวจสน.วัดพระยาไกร ดำเนินคดีและแจ้งข้อกล่าวหามียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยนายคิด เรียกว่าเป็นผู้ส่งยารายย่อย ที่โตมาจากเด็กเดินยา