จากกรณีที่ "แม่นกน้อย อุไรพร" หัวหน้าหมอลำคณะเสียงอีสาน ไลฟ์เฟซบุ๊กเปิดใจผ่านเพจ "เสียงอิสาน นกน้อย อุไรพร" ถึงสถานการณ์ของวงตอนนี้ ที่เจอโควิด-19 รอบ 2 เล่นงานหนักมาก จนทำให้ทางคณะขาดสภาพคล่องทางการเงิน 392 ชีวิตได้รับผลกระทบ รวมเสียหายกว่า 100 ล้านบาท
รวมถึง "พ่อหลอด" สามีของแม่นกน้อยป่วยหนักอีก จึงได้ตัดสินใจประกาศขายบ้านเพื่อต่อลมหายใจให้กับคนในวง รวมถึงนำมาใช้เป็นค่ารักษาพยาบาลสามี สร้างความตกใจกับแฟนคลับอย่างมาก
"แม่นกน้อย" อุไร ฉิมหลวง เปิดใจว่า ตนตัดสินใจขายบ้านตองห้า เนื้อที่กว่า 4 ไร่ บ้านหลังนี้สร้างมาตั้งแต่ พ.ศ.2550 อายุ 14 ปีตอนสร้างราคา 100 กว่าล้านบาท หากผู้ที่สนใจอยากซื้อบ้าน สามารถเข้ามาพูดคุยขอต่อราคาได้ ในใจมีตัวเลขอยู่ 70 ล้านบาท หากบ้านขายได้จริงก็ตั้งใจจะเอามาดูแลสามีที่เคียงคู่กันมาตลอด และจะใช้หนี้สิน ทั้งในและนอกระบบประมาณ 30 ล้านบาท
ส่วนตัวยืนยันที่จะไม่ยุบวงเสียงอีสาน ตอนนี้ทั้งวงไม่มีใครรู้ก่อนว่าตนจะประกาศขายบ้าน ตนและสามีปรึกษากัน 2 คน ลูก ๆ ในวงเพิ่งทราบตอนไลฟ์เฟซบุ๊กพร้อมกัน บางคนเดินทางกลับบ้านเกิดไปทำมาหากิน "ยอมรับว่าโควิดรอบนี้ทำเจ็บหนัก เพราะเราบอบช้ำมาตั้งแต่รอบแรก รอบแรกยังมีการปรับพักชำระหนี้บ้าง แต่รอบนี้ไม่มีเลย"
ความจริงเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา เป็นเทศกาลงานแสดงหมอลำ ได้เปิดการแสดงไปได้แค่ 2 เดือนคือตุลาคม-พฤศจิกายนเท่านั้นเดือนธันวาคมเริ่มหายไปหมด งาน 100 กว่าคิวเลื่อนไปหมดถึงปี 2566 ทำให้เสียหาย 100 กว่าล้านบาท
สำหรับอาการของพ่อหลอด สามีตนตอนนี้เป็นมะเร็ง ต้องตัดม้ามทิ้ง มีอาการตับอ่อนล้า มีโรคหัวใจ และปอดติดเชื้อร่วมด้วย อีกทั้งมีโรคประจำตัวเบาหวาน ความดัน อาการค่อนข้างหนัก ยิ่งมาเจอโควิดรอบ 2 ทำให้เสียกำลังใจไปใหญ่ ตนเหมือนเห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์แล้ว แต่พอมาเจอโควิดอีกรอบ ความหวังก็สลายหายไปหมด เหมือนต้องรับชะตากรรมที่ทุกคนก็คงต้องเจอ อาจจะต้องตกงานยาวทั้งปี
ในส่วนของบ้านตองห้า ตอนนี้มีคนมาติดต่อเข้าเยอะมาก ทั้งนายหน้า นายทุน แต่ยังไม่ได้คุยรายละเอียด ตนขอบคุณทุกคนที่อยากช่วยเหลือ ซึ้งน้ำใจ และขอบคุณพลังใจที่ส่งมา ขณะนี้คนในวงการยื่นมือช่วยเหลือเยอะมาก หมอลำทุกคนมาด้วยใจ ไม่มีค่าตัว ตนเองก็เกรงใจมาก เพราะในสถานการณ์แบบนี้รู้ว่าทุกคนก็ลำบาก ส่วนตนทำธุรกิจทั้งปลาร้า แจ่วบอง ก็ขาดทุน และศิลปินคนในวงการเดียวกันก็ออกมาทำกันหมด ไม่รู้ใครจะซื้อใคร ตอนนี้ตนก็พยายามช่วยเหลือตัวเองให้รอดให้ได้
โดยวันที่ 19-20 ม.ค. 64 หมอลำและศิลปินทุกคนจะจัดเป็นมินิคอนเสิร์ต ที่บ้านตองห้า ผ่านทางไลฟ์ให้แฟน ๆ ได้รับชมกัน เป็นการส่งพลังใจให้เสียงอีสาน แม่นกน้อยอาจจะปักหมุดเลขบัญชีให้แฟน ๆ ใครที่อยากช่วยเหลือ แล้วแต่ความสะดวกของท่าน
ด้าน "ปอยฝ้าย มาลัยพร" ศิลปินเสียงอีสาน ที่โด่งดังจากเล่นตลกและแม่นกน้อยเป็นคนผลักดัน เปิดใจว่า ตนรู้สึกตกใจ ไม่คิดว่าจะถึงจุดนี้ คุณแม่ก็คงลำบากจริง ๆ หมอลำทุกคณะก็ลำบาก แต่สภาวะของคุณแม่อาจลำบากมากกว่า เพราะว่าพ่อหลอดก็ไม่สบาย เรื่องที่แม่นกน้อยประกาศขายบ้าน ตนยอมรับว่าไม่คิดว่าแม่จะขาย แต่ที่รับทราบคือท่านมาระบาย ปรึกษาเรื่องหนี้สิน เรื่องวงจะไปแบบไหนถึงจะอยู่รอด แวดวงหมอลำเราจะไปได้ทิศทางไหนในช่วงโควิด-19 แบบนี้
ส่วนตัวทราบเรื่องหนี้สินแม่นกน้อยมาตลอด ตนอยากฝากให้กำลังใจแม่นกน้อย ซึ่งเมื่อวานนี้ก็ไปดูไลฟ์ขายบัตรทางเพจเฟซบุ๊ก ได้ยินข่าวว่าพ่อหลอดเข้าโรงพยาบาล ก่อนหน้านี้ตนก็ได้ไปเยี่ยมพ่อแล้ว พ่อก็บอกว่าอาการหนัก จึงตัดสินใจประกาศขายบ้าน อีกทั้งตอนนี้ลูก ๆ ศิลปินกำลังคุยกันอยู่ว่าจะจัดคอนเสิร์ตหารายได้ช่วยค่ารักษาพ่อหลอดเบื้องต้นก่อน ศิลปินแจ้งเข้ามาเมื่อเช้านี้มี ฝน ธรสุนธร, ไหมไทย ใจตะวัน เหล่าบรรดาลูกศิษย์ ลูก ๆ ของคุณแม่นกน้อย
ขณะที่แดนเซอร์ในวงเสียงอีสาน เปิดใจเล่าความรู้สึกว่า ตนรู้เรื่องที่แม่นกน้อยไลฟ์เฟซบุ๊ก ความรู้สึกก็ใจหายที่อยู่ ไ ก็มาไลฟ์ขายบ้าน ส่วนตัวมีความผูกพันกับบ้านหลังนี้เยอะ เพราะมาอยู่นานแล้ว ตนก็พูดไม่ออก ตอนนี้ไม่มีงาน และตนก็ไม่เคยคิดจะไปจากแม่นกน้อย ตนอยากช่วยงานแกไปไลฟ์ขายของในวง ถ้าเจอมรสุมแบบนี้แม่ยุบวงตนก็อาจจะไปหางานใหม่ทำ แต่ถ้าไม่ยุบตนก็จะอยู่ต่อกับแกต่อไป อยากบอกแม่ว่าให้แม่สู้ ๆ เดี๋ยวพ่อแกก็หาย แกก็กลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม คนขอเป็นกำลังใจให้เสมอ
"ฝน ธนสุนธร" ศิลปินลูกทุ่ง เปิดเผยว่า ตนเห็นว่าแม่นกน้อยมีปัญหาก็รีบยื่นมือเข้าช่วยทันที เพราะตนเปรียบเสมือนลูกสาวของแม่นกน้อย เนื่องจากเคยเดินสายอยู่ด้วยกันมานาน จากการเป็นพรีเซ็นเตอร์ผลิตภัณฑ์หนึ่งร่วมกัน อีกทั้งยังเป็นคน จ.อุดรธานี เหมือนกัน ทำให้สนิทกันมากจนถึงขั้นแม่นกน้อยคุยเล่นกับตนว่าถ้าแม่วางมือจะยกวงให้ตน
ทั้งนี้ การที่ลงไปช่วยแม่นกน้อยในยามที่เขาลำบากก็เหมือนเป็นหน้าที่ อย่างน้อยตนก็เคยอยู่ใต้ร่มโพธิ์ของท่านมาก่อน ตนต้องตอบแทนบุญคุณของแม่นกน้อย "ที่ผ่านมาไม่มีใครเคยได้เห็นน้ำตาของแม่นกน้อย เพราะผู้หญิงคนนี้แข็งแกร่งมาก แต่ครั้งนี้คงจะเหนือบ่ากว่าแรงจริง ๆ ตนเลยอยากจะบอกศิลปินคนอื่น ๆ ที่อาจจะไม่เคยร่วมงานกับแม่นกน้อย ออกมาช่วยเหลือกันได้ เพราะอย่างน้อยแม่นกน้อยก็สร้างคุณูปการให้กับวงการหมอลำ และศิลปวัฒนธรรมของคนอีสาน เหมือนท่านทิ้งมรดกไว้ให้"
คุณฝน กล่าวต่อว่า เมื่อเช้านี้ตนได้โทรศัพท์ไปบอกแม่นกน้อยว่าตนจะไปช่วยเหลือ ท่านก็ปล่อยโฮทันที ตนก็ได้แต่ปลอบใจว่าแม่ต้องเข้มแข็งนะ แม่ต้องสู้นะ ท่านก็ร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างเดียว แม่คงจะพูดอะไรไม่ออก แต่แม่พูดมาคำหนึ่งว่าขอไปนอนก่อน ยังไม่ได้นอนเลย เพิ่งกลับจากเฝ้าพ่อหลอด
