จากกรณีเมื่อเวลา 18.10 น. วันที่ 15 ม.ค. 64 พ.ต.ท.ประวิทย์ อุลานันท์ สว.(สอบสวน) สภ.ภูกระดึง จ.เลย รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตอยู่ในห้องน้ำ ภายในบ้านหลังหนึ่งใน อ.ภูกระดึง จ.เลย ที่เกิดเหตุเป็นบ้าน 2 ชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้ ภายในห้องน้ำหลังบ้าน พบศพหญิงชราเจ้าของบ้าน ทราบชื่อ น.ส.เภา ปัญญาสิน อายุ 74 ปี เสียชีวิตสภาพนอนหงายเปลือยกายไม่สวมเสื้อผ้า
ข้างศพผู้ตายพบผ้าถุงกองอยู่ที่พื้นด้านขวา จากการตรวจสอบพบฟันล่างหัก 4 ซี่ อวัยวะเพศมีร่องรอยฉีกขาด และมีเลือดออก ตามร่างกายไม่พบบาดแผล ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อคือ นายสำรุด อายุ 49 ปี ซึ่งเป็นหลานเขยของผู้ตาย อยู่ในสภาพมึนเมา หลังก่อเหตุไม่ได้หลบหนี เจ้าหน้าจึงจับกุมตัว
ล่าสุด วันที่ 16 ม.ค. 64 ที่ สภ.ภูกระดึง จ.เลย พ.ต.ท.ประวิทย์ อุลานันท์ สว.(สอบสวน) ให้ข้อมูลว่า ได้แจ้งข้อกล่าวหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและเสพยาเสพติดประเภทที่ 1 (ยาบ้า) กับนายสำรุด และได้ส่งตัวฝากขังแล้ว หลังจากได้ทำแผนประกอบคำรับสารภาพตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา
เบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การว่า ก่อนหน้านี้เคยมีเหตุทะเลาะและมีปากเสียงกับผู้ตายมาก่อน เพราะผู้ตายเป็นคนขี้บ่น ในช่วงเกิดเหตุนั้นดื่มเหล้าจนเมาและเสพยาบ้า ได้เข้าไปขอเงินจากผู้ตายเพื่อไปซื้อเหล้า แต่ผู้ตายไม่ให้เงิน จึงเกิดปากเสียงกัน นายสำรุดจึงตบผู้ตายจนฟันหัก 4 ซี่ แต่ผู้ตายได้ต่อสู้ จึงลงมือบีบคอจนเสียชีวิต หลังจากนั้นลากร่างของผู้ตายไปที่ห้องน้ำเพื่อล้างเลือด และจะเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ใหม่ เพื่อจะอุ้มมานอนที่เตียง หวังอำพรางว่ายายนอนตายเอง แต่เกิดเปลี่ยนใจ จึงทิ้งร่างยายเอาไว้ในสภาพเปลือยกายภายในห้องน้ำ
อย่างไรก็ตาม นายสำรุดอ้างว่าไม่ได้ข่มขืนผู้ตาย เพียงแต่เอานิ้วแหย่เข้าไปในอวัยวะเพศเท่านั้น แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ และได้ส่งร่างของผู้ตายไปชันสูตรพลิกศพอีกครั้ง
ทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุภายในพื้นที่หมู่ 14 ต.ศรีฐาน อ.ภูกระดึง จ.เลย บ้านถูกจัดเตรียมสถานที่เพื่อเตรียมจัดงานศพ แต่ศพของผู้เสียชีวิตจะมาถึงในวันที่ 18 ม.ค. 64 เพราะตอนนี้อยู่ระหว่างการชันสูตรว่าถูกล่วงละเมิดทางเพศหรือไม่
นางบานเย็น อายุ 45 ปี ภรรยาผู้ก่อเหตุ หลานสาวของผู้เสียชีวิต พาทีมข่าวไปยังหลังบ้านที่เป็นจุดที่ยายเภานั่งล้างจาน ก่อนจะทะเลาะกับนายสำรุด และถูกบีบคอตาย
นางบานเย็น เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ตนกลับมาจากทำไร่ในเวลา 17.30 น. ก็พบร่างของยายเภานอนเปลือยอยู่ในห้องน้ำ ส่วนนายสำรุด ผู้เป็นสามีก็ไม่ได้หนีไปไหน ขังตัวเองอยู่ในบ้าน ซึ่งตนได้แจ้งเจ้าหน้าที่และก็ได้รู้ความจริงทั้งหมด แม้ว่าสามีของตนจะปฏิเสธว่าเขาไม่ไปข่มขืนยายเภา แต่ตนเชื่อว่าเขาได้ลงมือกระทำชำเรายายเภา เพราะตนเห็นกับตาว่าอวัยวะเพศของยายเภาฉีกขาดและมีเลือดไหลออกมา ตอนนี้ก็รอผลแพทย์ว่ายายเภาถูกล่วงละเมิดหรือไม่ เพราะตนถามสามีตรง ๆ แต่เขาก็ไม่ยอมรับ
นางบานเย็น กล่าวต่อว่า สามีของตนนั้นเป็นคนนิสัยดี แต่ยอมรับว่าเมื่อดื่มเหล้าเมา นิสัยก็จะเปลี่ยนไปเป็นคนละคนทันที ซึ่งตนเชื่อว่าสาเหตุที่สามีลงมือก่อเหตุฆ่ายายเภา เพราะเขาเมาเหล้าและเสพยาบ้า อย่างไรก็ตาม ตนรับไม่ได้กับการกระทำของสามี และไม่เอาแล้วกับสามีคนนี้ ตนจะไม่ไปประกันตัว อยากให้เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นอุทาหรณ์ของคนที่ดื่มเหล้าว่ามันเป็นสิ่งไม่ดี ดื่มแล้วจะทำให้ขาดสติ
นางเคีย พี่สาวของผู้เสียชีวิต อายุ 81 ปี เปิดเผยว่า ยายเภา น้องสาวตนนั้นเป็นคนหูหนวกตั้งแต่เกิด และไม่มีครอบครัว ไม่มีลูก จึงมาอาศัยอยู่กับนางบานเย็นและนายสำรุด หลานสาวและหลานเขย เพื่อที่จะช่วยดูแลบ้านให้กับหลาน ๆ ซึ่งมาอาศัยอยู่เป็น 10 ปีแล้ว ก่อนหน้านี้นายสำรุดกับยายเภาก็ไม่เคยมีปัญหาทะเลาะกัน เพราะนายสำรุดก็เป็นคนดี แต่นิสัยเขาจะเปลี่ยนเมื่อดื่มเหล้าเมา จะกลายเป็นคนที่หน้ามืดตาลาย ทำอะไรไม่คิด โดยเมื่อวานในช่วงที่เกิดเหตุนั้น นายสำรุดก็ดื่มเหล้ามาจากนอกบ้าน และสุดท้ายก็มาขอเงินกับยายเภาไปซื้อเหล้า เพราะรู้ว่ายายเภามีเงินอยู่ แต่ยายเภาไม่ให้เพราะเคยให้เงินไปแล้ว จนนำไปสู่การทะเลาะกันและฆ่ากันตาย
อย่างไรก็ตาม ตนทำใจเพราะเรื่องมันเกิดขึ้นไปแล้ว และไม่อยากให้นายสำรุดกลับมาอยู่ในพื้นที่อีกแล้ว เพราะถ้ากลับมาก็คงจะมาฆ่ากันอีก