“หมอปลา” จ่อเชือด “ลุงพล” สร้างเรื่องเครื่องดักฟัง ขีดเส้นตาย 2 วันไม่แจ้งความเจอฟ้อง (คลิป)

จากกรณีที่นายไชย์พล วิภา ลุงของน้องชมพู่ ให้ข่าวเกี่ยวกับมีการแอบวางเครื่องดักฟังไว้ในรถยนต์ จนเป็นกระแสข่าวพูดถึงหมอปลา และคุณน้ำฟ้า ภรรยา รวมถึงประเด็นที่หมอปลาเคยเตือนลุงพลเรื่องการเปิดรับบริจาคนั้น

ล่าสุด วันที่ 16 ม.ค. 64 นายจีระพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา เปิดเผยว่า กรณีการที่ลุงพลพูดออกสื่อไม่ได้โทษตน แต่เขาพูดกับทนายโนบิ โดยเฉพาะป๊อบบี้ ช่างติดกล้องที่ไปติดตั้งบ้านลุงพลต่อหน้าสื่อฯ เขาพูดจาให้น่าสงสาร แต่เขาได้พูดอีกอย่าง

ตนขออธิบายว่าที่เขาไลฟ์ในช่องยูทูบเหตุการณ์เมื่อ 5 พ.ย.63 ลุงพลแวะเติมน้ำมันแล้วบังเอิญเจออะไรในรถ แต่กลางเดือน พ.ย.63 ได้โทรหาช่างป๊อบบี้ ให้ไปติดวงจรปิดที่บ้านอีก 4 ตัว ตนขอถามว่าวันที่ 5 พ.ย. ไปเจอเครื่องดักฟัง แล้วคุณยังให้ช่างไปติดกล้องที่บ้านให้อีก มันแปลกไหม

จนวันที่ 11 ธ.ค. 63 คุณเตะกล่องเพราะอารมณ์เสีย ซึ่งเก็บอารมณ์ไว้เป็นเดือนเลยหรือ ทำไมไม่เตะตั้งแต่ 5 พ.ย. 63 วันเกิดเหตุ ทั้งนี้ ตนได้ปรึกษาทนายโนบิกับทนายเกิดผลในเบื้องต้น ขอท้าให้เขาไปแจ้งความ แม้ว่าเขาไม่อยากรู้ แต่ตนอยากรู้ว่าใครแอบติดเครื่องดักฟัง

ตนอยากให้ลุงพลแจ้งความหาตัวผู้กระทำ ตนจะรอถึงวันจันทร์ หากไม่ดำเนินการแจ้งความ วันอังคารหน้าตนจะดำเนินคดีเอง ฐานหมิ่นประมาท เพราะตนอยากรู้ว่าใครคือเจ้าของเครื่องดักฟัง

ส่วนเรื่องภาพที่เปิดบัญชีรับบริจาค มีภาพตน ตนก็ได้โทรศัพท์หาน้องไอซ์ สารวัตร นักข่าวอมรินทร์ ทีวี ก็บอกไม่เห็นด้วยที่มีภาพตน ครอบครัว และทนายโนบิ ไปเปิดรับบริจาคแล้วใช้ชื่อบัญชีตัวเอง ตนไม่เห็นด้วย ตอนนั้นได้รับเงินบริจาค 3 วัน จำนวน 880,000 บาท ซึ่งเตือนมาตลอดเรื่องการเปิดรับบริจาค

ส่วนเรื่องต้นตะเคียนที่บ้านลุงพล หมอปลาระบุว่า ตนเห็นมีคนจุดธูปบูชาที่ต้นตะเคียนหากนางตะเคียนศักดิ์สิทธิ์ คงจะปลอมตัวเป็นอะไรสักอย่างเพื่อให้เขาหลุดพ้นได้ แต่ตนไม่ได้กังวล เพราะนางตะเคียนศักดิ์สิทธิ์ และต้องตรวจสอบว่าการครอบครองนั้นจะมีความผิดหรือไม่

จากการตรวจสอบความผิดทางกฎหมายที่อาจเข้าข่ายการครอบครองไม้หวงห้าม ผู้ใดที่มีไม้หวงห้ามอันยีงมิได้แปรรูป โดยไม่มีรอยตราค่าภาคหลวงหรือรอยตรานัฐบาลขาย เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าได้ไม้นั้นมาโดยชอบด้วยกฎหมาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ขณะที่ นายกฤษฎา โลหิตดี หรือ ทนายโนบิ ยืนยันว่าแม้ลุงพลเป็นผู้เสียหายโดยตรง แต่ก็มีการพาดพิงหรือพูดถึงหมอปลาและทีมงาน อาจจะทำให้เสียหายหรือไม่ ก็อาจเป็นการหมิ่นประมาท หมอปลาสามารถใช้สิทธิดำเนินคดีกับลุงพลฐานหมิ่นประมาทได้ เพื่อหาผู้กระทำความผิด พร้อมเรียกวัตถุพยานจากตัวลุงพล ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดักฟัง หรือซิมที่ใช้ เลขซิมต่าง ๆ เพื่อนำมาพิสูจน์

หากลุงพลไม่ดำเนินการเอง ทางหมอปลาก็ต้องใช้สิทธิ์ที่ตัวเองถูกกล่าวหา ดังนั้นถือว่าเป็นเหตุที่สามารถตรวจสอบได้เช่นกัน ซึ่งมองว่ายุคนี้หาตัวไม่ยาก เพราะเป็นยุค 5G แล้วปี 2021 หากจะรู้ว่าใครก็เอาซิมการ์ดมาตรวจสอบ หากตรวจสอบแล้วพบว่าใคร มีการจ้างวานมาไหมก็เป็นขั้นตอนต่อไป เพื่อความเป็นธรรมทุกฝ่าย จะต้องมีการดำเนินการเข้าสู่กระบวนการที่ถูกต้อง ส่วนประเด็นใช้รูปหมอปลาไปแอบอ้างเรี่ยไรเงินนั้น แม้หมอปลาจะไม่เห็นด้วย แต่ได้ตำหนิไปแล้ว จึงขอวางเฉย

อุ๊บ-วิริยะ พงษ์อาจหาญ พูดถึงรูปภาพตัวเองที่อยู่ในเลขบัญชีเพื่อรับบริจาคว่า เมื่อเห็นภาพก็รู้สึกไม่สบายใจ มองว่าเป็นการละเมิดสิทธิ์ เพราะเป็นการรับบริจาค และเจ้าของภาพไม่ได้รู้เรื่อง ส่วนตัวได้ปรึกษาทนายความแล้ว สามารถดำเนินการแจ้งความได้ แล้วที่สำคัญตัวเลขเงินที่รับบริจาคเราก็ไม่รู้ว่าเงินเท่าไร เงินอยู่ที่ไหน อย่างไร

ทั้งนี้ ตนยืนยันจะดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะเป็นสิ่งไม่ควรทำ ถึงจะรักกัน ไม่รักกัน ก็ไม่ควรจะทำ ควรต้องได้รับการอนุญาตก่อน ยอมรับช่วงแรกไม่เฉลียวใจจนรู้สึกว่าแบบนี้ไม่ใช่ ขนาดดารายังมีการแจ้งความเอาเรื่องเอาราวกัน จนเป็นคดีกันมาก็มีแล้ว จนวันนี้ได้มาบ้านหมอปลาก็เพื่อมาปรึกษากัน และยืนยันว่าตนเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเปิดบัญชีรับบริจาคแต่อย่างใด สำหรับเรื่องไม้ตะเคียนที่บ้านลุงพลปมที่ป่าไม้จะมาตรวจสอบว่าได้มาอย่างถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่