กรณีเกิดเหตุมูลนิธิ 2 กลุ่ม ตะลุมบอลกันในวัดโคกช้าง ต.อุทัย อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา ขณะที่ทางกลุ่มมูลนิธิร่วมกตัญญูนั่งอยู่ในจุดของวัด ขณะรอฟังเหตุการณ์ต่าง ๆ และปรากฏว่ามีกลุ่มของมูลนิธิพุทไธสวรรย์ ซึ่งใส่ชุดนอกเครื่องแบบมารถของมูลนิธิพุทไธสวรรย์กระบะ 2 คัน ประมาณ 10 คนลงมาถามชื่อคนในกลุ่มมูลนิธิร่วมกตัญญูที่กำลังนั่งอยู่
จากนั้นพอทราบว่าชื่อที่ถาม จึงกระโดดต่อยทันที ทางกลุ่มของมูลนิธิร่วมกตัญญู จึงช่วยตะลุมบอลแต่พอดีทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นสายตรวจมาในที่เกิดเหตุ หลังจากชาวบ้านแจ้งว่ามีกลุ่มวัยรุ่นต่อยกันภายในวัดและตะโกนด่ากัน จากนั้นจึงขับรถมาในที่เกิดเหตุ และได้ห้ามปรามวัยรุ่นมูลนิธิ 2 กลุ่มแล้วแยกย้ายกันไป แต่โชคดีไม่มีการเสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัส
นายณรงค์ ดีมงคล อายุ 36 ปี หรือ อ้วน ผู้บาดเจ็บ เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า เหตุการณ์เมื่อวานนี้ (15 ม.ค.64) เกิดขึ้นเวลาประมาณ 21.00 น. ขณะที่ตนและกลุ่มมูลนิธิร่วมกตัญญู กำลังประชุมงานการจราจรอยู่ที่บริเวณวัดโคกช้าง ต่อมามีวัยรุ่นประมาณ 20 คน บุกเข้ามาในวัด และถามหาคนที่ชื่อธร และคนชื่อธรก็ยกมือ และแสดงตัว จากนั้นกลุ่มวัยรุ่นที่ยกพวกมาก็ลงมือต่อยทันที ตนจึงเข้าไปห้าม แล้วตนก็โดนต่อยที่ปาก และหลังจากนั้นก็เป็นช่วงชุลมุน เพราะตนก็พยายามป้องกันตัวอยู่ และรถที่มาจอดรออยู่หน้าวัดเป็นรถของมูลนิธิ พุทไธสวรรย์
ทั้งนี้ตนก็ไม่ทราบว่าเรื่องเกิดขึ้นได้อย่างไร เพราะอะไร มาถามชื่อ และต่อยทันที คาดว่าน่าจะเกิดจากเรื่องการคอมเมนต์ ประเด็นรถของร่วมกตัญญูส่งเสียงดังผ่านมูลนิธิพุทธไธสวรรย์ ซึ่งพูดคุยกันจบไปแล้ว และคนชื่อธร ก็ไปตักเตือนอีกฝ่าย ว่าอย่าไปคอมเมนต์ต่อกันจะพากันยุยง และบาดหมางกันยืดยาว จึงทำให้เกิดการท้าทาย และเกิดเรื่องขึ้น ที่ผ่านมาทั้ง 2 มูลนิธิ ไม่เคยมีปัญหาบาดหมางกันมาก่อน
ส่วนตนได้รับบาดเจ็บ คล้ายเหล็ก ของมีคมต่อยที่ปาก ปากทะลุ ทั้งด้านในและด้านนอก จำนวน 5 เข็ม ซึ่งก่อนหน้านี้ตนไม่เคยมีปัญหากับใครมาก่อนเลย หลังจากเกิดเหตุแล้วไม่ได้มีการพูดคุยกันแต่อย่างใด แต่ส่วนตัวได้มีการดำเนินการแจ้งความแล้ว ยอมรับว่าต่อจากนี้ก็กลัว แต่ตนยืนยันว่าตนมาช่วยสังคม และไม่ได้จ้องจะมาหาเรื่องใคร
นอกจากนี้ทีมข่าวยังได้ภาพจากกล้องวงจรปิด ขณะเกิดเหตุพบว่า มีกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 10 คน เข้ามาทางประตูวัด แต่งกายชุดบอล ก่อนจะเข้ามาตะลุมบอล รวมทั้งมีชาวบ้าน และเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในเหตุการณ์ด้วย และหลบหนีไป
ทีมข่าวยังได้พูดคุยกับนายตฤณภัทร บุญปกครอง เจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธสวรรย์ ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ตนยกพวกไปตีอีกฝ่ายจริง แต่ก่อนที่จะไป อีกฝ่ายโทรศัพท์มามาท้าทาย บอกว่าติดที่ตนไปคอมเมนต์เฟซบุ๊ก เรื่องรถร่วมกตัญญูมาเบิ้ลเครื่องใส่ จุดของมูลนิธิพุทไธสวรรย์ ซึ่งเคลียร์จบแล้ว และเรียกให้ตนไปคุยที่วัด แต่อีกฝ่ายท้าทายว่ามาเลย ถ้าแน่จริงก็มา
เมื่อตนไปถึงจึงไปถามหาตัวคนชื่อธร และพูดคุยว่ามีปัญหาอะไร ทั้ง ๆ ที่ตนไม่ได้ว่าระบุตัวใครเลย แต่อีกฝ่ายพูดจาไม่ดี ตนจึงเกิดบันดาลโทสะ ตบหัวไป 1 ที อีกฝ่ายจึงลุกฮือเข้ามาหาตน น้องของตนที่มาด้วย จึงรีบวิ่งเข้ามาห้ามและเกิดชุลมุนกัน ยืนยันว่าฝ่ายตนไม่มีอาวุธใด ๆ เลย กระทั่งตำรวจสายตรวจ 1 นาย มาระงับเหตุ ควักปืนออกมาจ่อที่ศีรษะ และบอกว่าให้หยุด ตนจึงหยุด และชวนพรรคพวกลับ แต่ตำรวจก็มากระชากคอเสื้อ และจะใช้เหล็กตีและก็มีพรรคพวกของตนมาช่วยกันห้ามเอาไว้ให้ ตนเองมองว่าตำรวจทำงานไม่เป็นกลาง
ทั้งนี้ยืนยันว่าการทะเลาะกันครั้งนี้ ไม่เกี่ยวจ้องกับมูลนิธิ และยังไม่ได้พูดคุยกัน ทราบว่าอีกฝ่ายไปแจ้งความที่ สภ.อุทัย ตนจะขอโทษหรือไม่ ตนยืนยันว่าตนไม่ใช่คนหาเรื่องใคร และกำลังจะนอนแล้ว และเกิดการท้ายทายกัน ตนมีศักดิ์ศรีพอ อีกฝ่ายท้าทายมาตนก็ต้องไป เพราะเราและเขาไม่เคยมีเรื่องกันมาก่อน เป็นใครก็ต้องไป และตนไปมือเปล่าไม่มีอาวุธ แต่อีกฝ่ายลากอาวุธมาด้วย ยืนยันว่าตนอยากจบเรื่องนี้ และไม่อยากมีปัญหากับใคร ยินดีที่จะพูดคุยตกลงกันได้ มีอะไรให้มาพูดคุยกันไม่ใช่นักเลง โทรมาหาเรื่องลักษณะนี้