แฉแก๊งยูทูเบอร์ช่วยลุงพลจัดฉากเป็นคนดี ใครพูดจริงถูกไล่ ชาวบ้านฉะละเมิดสิทธิ์ (คลิป)

เมื่อวันที่ 17 ม.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้พูดคุยกับ นางจูน ชาวบ้านกกกอก เปิดเผยว่า เมื่อเดือน พ.ย.63 ในหมู่บ้านมีการประกาศเสียงตามสายให้ชาวบ้านไปช่วยกันขุดดิน เพื่อเตรียมเทพื้นศาลาสำนักสงฆ์ภูหลวง โดยเสนอให้ค่าแรงวันละ 300 บาท ซึ่งตนเเละชาวบ้านก็ออกไปร่วมกันจำนวนมาก ซึ่งทำได้ 2 วันครึ่ง คิดเป็นเงิน 750 โดยตนเเละชาวบ้านรวม 40 คน ไม่ขอรับเงินค่าเเรง เนื่องจากมีความประสงค์ให้นำเงินดังกล่าวถวายพระอาจารย์ เพื่อใช้จ่ายต่าง ๆ ในสำนักสงฆ์ รวมเป็นเงินประมาณ 30,000 บาท

เเต่ปรากฎว่าจนถึงปัจจุบัน ยังไม่มีการถวายเงินให้พระอาจารย์เเม้เเต่บาทเดียว ก็รู้สึกเสียใจมาก เพราะความตั้งใจ คือ อยากให้พระอาจารย์ได้เงิน เพราะทราบกันดีว่าท่านลำบาก ไม่ค่อยมีปัจจัย

น.ส.กาเเล็ก ชาวบ้านกกกอก เป็นอีกรายที่ไปช่วยขุดดินที่สำนักสงฆ์ภูหลวง เเล้วไม่รับค่าเเรง เพราะไปด้วยใจ โดยประสงค์ให้นำเงินไปให้พระอาจารย์สมบัติ เเต่เมื่อทราบข่าวว่าเงินยังไม่ถึงมือพระอาจารย์ ก็เสียความรู้สึกมาก อยากให้นำไปถวายท่านก็จะได้ได้บุญ ส่วนคนที่เก็บไว้ก็จะเป็นบาป

นายสุรชัย สุวรรณกิจ ยูทูเบอร์เจ้าของช่อง "บูมน้อย ร้อยเอ็ด" เป็นยูทูเบอร์ที่เข้ามาอยู่ในหมู่บ้านกกกอก เดินทางมาเก็บของย้ายออกจากหมู่บ้านกกกอก พร้อมเปิดเผยถึงความอัดอั้นตันใจว่า ได้เข้ามาทำยูทูขายของในหมู่บ้านกกกอก เมื่อปลายเดือนต.ค.63 ที่ผ่านมา และได้เช่าบ้านอยู่ในสวนยางที่ข้างบ้านลุงพล จากนั้นก็ไลฟ์สดขายของผ่านช่อง แต่ไม่ได้ไปตามติดลุงพลมาก เพราะยูทูเบอร์ที่เข้ามามีกฎว่า ห้ามถ่ายลุงพลในมุมที่ไม่ดี เพราะบางครั้งลุงพลก็จะมีอาการหลุดทั้งคำพูด หรือกิริยาที่ไม่เหมาะสม ก็จะถูกสั่งให้ปิดเสียง หรือใครมีคลิปก็จะถูกสั่งให้ลบ

ยกตัวอย่างกรณีคุณน้ำฟ้า ภรรยาหมอปลา ได้เดินทางมาหาลุงพลที่บ้านกกกอก เเต่ไม่พบเพราะลุงพลหนีไปกรุงเทพฯ ทั้ง ๆ ที่นัดกับหมอฟ้าไว้ ซึ่งยูทูเบอร์เป็นจำนวนมากก็ไปถ่าย เเต่สุดท้ายถูกลุงพลสั่งให้ลบคลิปทิ้ง เเละยูทูเบอร์ที่ใกล้ชิดลุงพล ก็พยายามตรวจโทรศัพท์ของทุกคนว่ามีการลบไปเเล้วหรือยัง ซึ่งตนมองว่าเป็นการละเมิดสิทธิ์ เพราะโทรศัพท์เป็นทรัพย์สินส่วนบุคคล

ต่อมาเมื่อวันที่ 12 ม.ค.64 ตนได้ให้สัมภาษณ์กับอมรินทร์ ทีวี เกี่ยวกับเรื่องรายได้ของยูทูเบอร์ ซึ่งหลังจากบทสัมภาษณ์ออกอากาศทางรายการทุบโต๊ะข่าว ลุงพลก็เรียกตนไปหา เเล้วตำหนิว่า "ไปให้สัมภาษณ์กับสื่อเรื่องรายได้ทำไม" ซึ่งตนพยายามอธิบายว่าไม่ได้เอ่ยถึงจำนวนเงิน เเต่พูดเป็นเปอร์เซ็นต์ เเต่ลุงพลก็ไม่ฟัง ซ้ำยังสั่งว่าห้ามให้สัมภาษณ์สื่อหลัก ทำให้ตนเกิดความน้อยใจ ซึ่งตนเชื่อว่าสิ่งที่ทำนั้นไม่ได้ผิด กลับถูกมองไม่ดีในสายตาลุงพล เเต่ยูทูเบอร์บางคนที่ขวางรถตำรวจ เเละขวางสื่อ กลับถูกลุงพลเเละเเฟนคลับมองว่าเป็นเรื่องดี

ดังนั้นเพื่อความสบายใจ วันนี้จึงตัดสินใจเดินทางมาเก็บของเพื่อจะกลับบ้าน ไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับบ้านลุงพลอีก นอกจากนี้ตลอดระยะเวลา 4 เดือน ที่ตนใช้ชีวิตในหมู่บ้านกกกอก เห็นว่ายูทูเบอร์ที่ใกล้ชิด มีอิทธิพลคอยบงการลุงพล เเละบงการยูทูเบอร์ช่องอื่น ๆ ซึ่งหากใครมีความเห็นต่างก็จะถูกกดดัน จนยูทูเบอร์บางคนต้องตัดสินใจออกจากหมู่บ้านไป

อีกเรื่องคือลุงพลได้ขอสำเนาบัตรประชาชนของยูทูเบอร์ทุกคน โดยให้เหตุผลว่าหากเกิดเรื่องอะไรจะได้ตามถูก เเต่ตนมองว่าตนมาเช่าที่ของคนอื่น ไม่ได้อยู่บ้านของลุงพล ดังนั้นควรจะให้กับเจ้าของที่ดิน หรือผู้ใหญ่บ้านเท่านั้น

ที่ผ่านมาจะมีเเฟนคลับโอนเงินมาให้ เพื่อสมทบทุนสร้างพญานาคกับลุงพล ซึ่งตนก็จะนำไปให้ลุงพลครั้งละ 500-6,000 บาท มาจนถึงตอนนี้ จำนวนเงินที่ลุงพลได้จากเเฟนคลับ ที่ตนเป็นสะพานบุญให้ มีจำนวนหลักหมื่นบาท ซึ่งตนถูกเเฟนคลับลุงพลต่อว่า ตนลืมบุญคุณลุงพล ไม่ยอมปกป้อง เเต่ตนมองว่าความจริงเเล้ว ตนก็สะพานบุญช่วยลุงพลหาเงินสร้างพญานาค อีกทั้งตนมองว่าการที่ลุงพลมีชื่อเสียงเเละมีคนติดตามเป็นจำนวนมาก ก็เนื่องจากมีคดีน้องชมพู่ เเละมีสื่อหลักมาทำข่าว ไม่ได้ดังเพราะยูทูเบอร์

ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้ไปสอบถามจากชาวบ้านกกอก เกี่ยวกับเรื่องยูทูเบอร์ ที่เข้ามาอยู่ในหมู่บ้านกกกอก โดยนางตุ้ม (นามสมมติ) บอกว่า การที่มียูทูเบอร์เข้ามาอยู่ในบ้านนั้น ทำให้หมู่บ้านมีความวุ่นวาย เพราะเหล่ายูทูเบอร์ได้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับชีวิตของชาวบ้าน จนไม่มีความเป็นส่วนตัว ทั้งการเอากล้องมือถือมาถ่ายวิถีการใช้ชีวิตของชาวบ้านโดยที่ชาวบ้านไม่ได้อนุญาต แล้วเอาไปเผยแพร่ 

ผู้สื่อข่าวจึงถามต่อว่า แล้วถ้ายูทูเบอร์บอกว่า สิ่งที่ทำไม่ได้สร้างความเดือดร้อน ชาวบ้านคนนี้ก็บอกว่า ก็เป็นสิ่งที่ยูทูเบอร์สามารถพูดได้ แต่ความจริงแล้วชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนจากยูทูเบอร์มาก

ผู้สื่อข่าวจึงถามต่อว่า แล้วหากยูทูเบอร์อ้างว่า สิ่งที่ยูทูเบอร์ทำนั้น ทำให้ชาวบ้านมีรายได้ และทำทำให้คนทั้งประเทศรู้จักหมู่บ้านกกกอก ชาวบ้านก็บอกอีกว่า ไม่ใช่ยูทูเบอร์เป็นคนทำ แต่เพราะสื่อมวลชนที่มาทำข่าวคดีน้องชมพู่ต่างหากที่ทำให้ชาวบ้านมีรายได้ และรู้จักหมู่บ้านกกกอก

นางตุ้ม ยังกล่าวถึงกรณีการไปช่วยขุดดินเพื่อเตรียมเทพื้นศาลาสำนักสงฆ์ภูหลวง เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยที่ตนก็เป็นหนึ่งในกลุ่มของชาวบ้านที่ไม่ขอรับค่าเเรง เพราะมีความประสงค์จะขอถวายเงินให้พระอาจารย์สมบัติ เเต่เมื่อทราบว่าเงินยังไม่ถึงมือพระอาจารย์ก็รู้สึกเสียใจ เสียความรู้สึกมาก หากใครรู้ตัวว่าถือเงินอยู่ก็ขอให้นำไปถวายพระอาจารย์

ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้สอบถามชาวบ้านกกกอก ถึงความรู้สึกที่มียูทูเบอร์มาเกาะติดอยู่ในหมู่บ้านเป็นจำนวนมาก โดยหนึ่งในชาวบ้าน คือ นางจูน บอกว่า รู้สึกอึดอัดที่มียูทูเบอร์อยู่ในหมู่บ้าน เนื่องจากยูทูเบอร์มีจำนวนมาก เเละไม่ทราบนิสัยใจคอ ตอนนี้จึงมองว่าการที่ยูทูเบอร์เข้ามาวุ่นวายในหมู่บ้าน จะทำให้การทำงานของตำรวจยากขึ้นหรือไม่

ทั้งนี้ส่วนตัวได้รับผลกระทบทางจิตใจ เพราะเนื้อหาที่ยูทูเบอร์นำไปลง ส่วนในเป็นเรื่องของหมู่บ้านกกกอก หากมีบางเรื่องที่เเฟนคลับไม่ชอบก็จะด่า ชาวบ้านบางคนก็โดนทัวร์ลง ยกตัวอย่างพระอาจารย์สมบัติที่ถูกโซเชียลฯ ถล่มด่าเเบบเสีย ๆ หาย ๆ "หากเราพูดถึงคนที่เขารักในทางที่ไม่ดี เขาก็จะด่าเราในทางเสีย ๆ หาย ๆ" ดังนั้นหากยูทูเบอร์ยังอยากอยู่ในหมู่บ้าน ก็ขอให้ควบคุมเเฟนคลับของคุณให้ได้ อย่าปล่อยให้มาด่าใครมั่วเเบบนี้