กรณีนางสาย (นามสมมติ) อายุ 48 ปี ต.บุฝ้าย อ.ปราจันตคาม จ.ปราจีนบุรี ได้ร้องเรียนผ่านสื่อว่า หลังเข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ต.สหวัสส์ ดาทอง ร้อยเวรสอบสวน สภ.ประจันตคาม เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 63 ว่า น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 46 ปี ซึ่งเป็นน้าของตนเอง เป็นผู้พิการทางสมองตั้งแต่แรกเกิด ถูกนายบี (นามสมมติ) อายุ 57 ปี ข่มขืน และตนได้พาน้าสาวไปตรวจร่างกาย
ผลการตรวจแพทย์ระบุว่าพบร่องรอยการฉีกขาดใหม่ของเยื่อพรมจารี แต่คดีไม่มีความคืบหน้า จึงเดินทางไป สภ.ประจันตคาม เพื่อติดตามในคดี เจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวนายบีมาทำการสอบสวนที่ สภ.ประจันตคาม และให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสุ่มตัวอย่าง เพื่อส่งตรวจที่ จ.ชลบุรี เบื้องต้น นายบีให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ข่มขืน เพียงแต่จับอวัยวะเพศเพียงเท่านั้น
ล่าสุด วันที่ 18 ม.ค. 64 นางสาย (นามสมมติ) หลานสาวของผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. ของวันที่ 30 ธ.ค. 63 ตนเองเดินเอาอาหารไปให้นางสาวเอ ผู้เสียหายที่บ้านของเขา และได้เรียกกระทั่งมีเสียงนางสาวเอตอบกลับตนมาจากด้านในบ้านของนายบี ที่อยู่ใกล้กัน จากนั้นนางสาวเอก็เดินออกมาบอกตนว่าถูกนายบีข่มขืน
โดยนางสาวเอ เล่าเหตุการณ์ให้ตนฟังว่าช่วงเที่ยงของวันที่ 30 ธ.ค. 63 นายบีได้ว่าจ้างให้นางสาวเอมาทำงานจักตรอกไม้ไผ่ สานไม้ไผที่แคร่ไม้หน้าบ้านของนายบี สักพักนายบีออกอุบายว่ามีกระเป๋าสวย ๆ จะให้นางสาวเอ 3 ใบ ซึ่งกระเป๋าอยู่ในบ้านของนายบี เป็นบ้านปูนชั้นเดียว ด้วยความที่นางสาวเอป่วยเป็นผู้พิการทางสมอง สมาธิสั้น แต่ยังพูดคุยและจำเหตุการณ์ได้ จึงหลงเชื่อนายบี
นายบีจูงมือนางสาวเอเข้าไปในบ้าน ซึ่งอยู่กันสองต่อสอง ภรรยานายบีไม่อยู่บ้าน จากนั้นนายบีก็ได้ทำการถอดกางเกงนางสาวเอ และข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ ก่อนที่ตนจะมาตามหานางสาวเอที่หน้าบ้าน ตอนนั้นนางสาวเอมีอาการเจ็บอวัยวะเพศ พร้อมกับบอกว่ากลัวนายบี และนางสาวเอบอกว่าถูกนายบีก่อเหตุอนาจารมาแล้วหลายครั้ง ส่วนนายบี ตั้งแต่เกิดเหตุเขาก็ไม่เคยรับสารภาพ แต่มาขอให้ตนถอนแจ้งความ
สำหรับผลตรวจทางการแพทย์ ก็ระบุว่านางสาวเออวัยวะเพศฉีกขาด แต่ไม่พบอสุจิ กระทั่งวันที่ 16 ม.ค. 64 ตำรวจได้เรียกนายบี ไปสอบปากคำอีกครั้ง นายบีได้รับสารภาพว่าใช้นิ้วแหย่อวัยวะเพศนางสาวเอจริง แต่ไม่ยอมรับว่ามีการข่มขืน นอกจากนี้ ญาติผู้ใหญ่ยังเล่าให้ตนฟังว่าตอนที่นางสาวเออายุประมาณ 15 ปี ก็เคยถูกนายบีอนาจารมาแล้ว แต่ญาติต่างปิดเรื่องนี้ไว้ เพราะอับอายชาวบ้าน
นายบี (นามสมมติ) ผู้ถูกกล่าวหา อายุ 57 ปี น้าเขยของนางสาวเอ ผู้เสียหาย เป็นผู้พิการที่าด้านขวาขาดตั้งแต่ช่วงเข่าลงไป ต้องใส่ขาเทียมกว่า 27 ปี เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุ ตนนอนดูโทรทัศน์อยู่ที่เปลนอนด้านในบ้าน ส่วนนางสาวเอนั่งทำงานที่แคร่หน้าบ้านของตน ซึ่งตนไม่ได้ว่าจ้างให้นางสาวเ มาทำงานที่หน้าบ้านตนแต่อย่างใด
ระหว่างที่ตนนอนดูโทรทัศน์ ได้เปิดประตูบ้านทิ้งไว้ นางสาวเอได้เดินเข้าไปในบ้านของตน หยิบกระเป๋า 3 ใบที่อยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งระหว่างที่นางสาวเอจะเดินออกจากบ้าน ตนได้พูดกับนางสาวเอว่า "มึงเข้ามาในบ้านกูทำไม" พร้อมกับไปคว้าตัวนางสาวเอเอาไว้ จนนางสาวเอลื่นล้ม และตนก็ได้ปล่อยมือนางสาวเอ กระทั่งเขาเดินไปเปิดประตูบ้านตน จังหวะนั้นก็มีนางสาย ญาติของนางสาวเอมายืนรอที่หน้าประตูพร้อมกับโวยวาย ซึ่งตอนนั้นตนก็สวมเสื้อกางเกงปกติ ไม่ได้มีการถอดเสื้อผ้า
ทั้งนี้ ตนยอมรับว่า ตอนเกิดเหตุที่ตนเองคว้าตัวนางสาวเอจนล้ม ตนเองได้ใช้มือจับร่างกายนางสาวเอ ซึ่งไม่รู้ว่ามือจะไปโดนอวัยวะส่วนไหนบ้าง "ส่วนที่ผลตรวจร่างกายนางสาวเออวัยวะเพศฉีกขาด ตนเอามือไปแหย่อวัยวะเพศนางสาวเอ ตอนนางสาวเอล้ม แต่ตนไม่ได้ข่มขืนแน่นอน เพราะตนไม่ได้ตั้งใจ" และจากข้อมูลชาวบ้านที่ว่าตนเองเคยก่อเหตุอนาจารนางสาวเอ มาแล้ว 1 ครั้ง ตอนที่นางสาวเอ เป็นเด็ก ตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง อีกอย่างขาด้านขวาตนเองพิการต้องใส่ขาเทียมมาตั้งแต่ปี 2536 ตนไม่มีทางที่จะไปก่อเหตุข่มขืนใครได้ แค่ตนเดินได้ก็บุญหัวของตนแล้ว
ขณะที่ผู้เสียหายอยู่ในการดูแลของพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์แล้ว