จากกรณีนายวรท ชูสังข์ อายุ 36 ปี คนขับรถโรงเรียน ย่านตลิ่งชัน ขับรถตู้พุ่งชนวัยรุ่นที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ เป็นเหตุให้เสียชีวิตคาที่ 1 ราย และได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดเมื่อช่วงกลางดึก เวลาประมาณ 00.00 น. ที่ผ่านมา
โดยบริเวณด้านหน้าสมาคมชาวปักษ์ใต้ ถนนกาญจนาภิเษก ขาเข้า แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ พบศพชายนอนคว่ำหน้า ทราบชื่อคือ นายฐิติศักดิ์ สุขสุจิตร อายุ 15 ปี ใกล้กันพบจักรยานยนต์ในสภาพล้อแม็กหลังแตก ผู้ได้รับบาดเจ็บชื่อ นายวีรพล สาแช อายุ 23 ปี
นายไชยา สิงห์ชัย อายุ 34 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ เปิดเผยว่า ขณะที่ตนกำลังจะขึ้นห้องพัก ตนได้ยินเสียงรถยนต์ขับขี่เข้ามาภายในซอย และจอดที่หน้าตึก ก่อนที่ครขับรถ จะลงมาตะโกนหน้าตึกว่า "ไอ้ต้น" จากนั้นก็มีคนตะโกนบอกว่าที่นี่ไม่มีคนชื่อต้น คนขับรถจึงกลับขึ้นรถตู้ และไปกลับรถบริเวณท้ายซอย จากนั้นก็กลับมาจอดรถในจุดเดิมอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ชนรถจักรยานยนต์ที่จอดบริเวณหน้าตึก ก่อนจะขับรถตู้ออกจากซอยไป
หลังจากนั้นไม่นาน รถตู้คันเดิมก็ขับรถกลับเข้ามาในซอยอีกครั้งด้วยความเร็ว และชนรถจักรยานยนต์กระเด็นออกไป ประมาณ 20 เมตร แล้วไปกลับรถบริเวณท้ายซอย ระหว่างนั้นชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ได้นำเก้าอี้หินอ่อน และถังน้ำแข็งมาวางไว้กลางถนน เพื่อที่จะหยุดรถตู้ และต้องการพูดคุยกับคนขับ แต่คนขับเร่งเครื่องยนต์ และชนเก้าอี้หินอ่อน กับถังน้ำแข็งกระจาย ก่อนที่จะหยุดรถกระทันหัน แล้วถอยรถมาด้วยความเร็ว โดยชนเข้ากับรถเบนซ์ที่จอดข้างทางจำนวน 2 คัน จากนั้นก็ขับรถหลบหนีไปทันที
นอกจากนี้ ทราบว่าคนขับรถตู้ยังมีอาการคล้ายคนเมาและพูดจาไม่รู้เรื่อง มีสีหน้าเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าใครจะพูดอะไร เจ้าตัวก็ไม่ฟัง
ด้าน
นางแคน (นามสมมุติ) ภรรยาผู้ก่อเหตุ อายุ 35 ปี เปิดเผยว่า ตนอยู่กินกับนายวรท มาประมาณ 10 ปี แต่ช่วงประมาณ 4 - 5 ปี ให้หลังมานี้ ตนมักจะมีปากเสียงกับนายวรทบ่อยครั้ง เนื่องจากในวรทเข้าใจว่าตนมีคนอื่น จากนั้นก็เริ่มที่จะทำร้ายร่างกายหนักขึ้น จนตนทนไม่ไหว โดยครั้งล่าสุดตนเลยพยายามหนีออกจากบ้าน เพื่อที่จะให้นายวรทใจเย็นลงก่อน และมาพักอาศัยอยู่กับแม่ จนกระทั่งเวลาต่อมา นายวรทโทรศัพท์มาหาตน และบอกให้ตนออกมาหา แต่ตนไม่ยอม เพราะกลัวว่าจะถูกทำร้ายร่างกายอีก หลังจากนั้นไม่นานก็มีเสียงดังคล้ายรถชนกัน ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น และตนก็ไม่กล้าที่จะออกจากบ้านไปดู จนกระทั่งมาทราบข่าว
ทั้งนี้ ตนคิดว่าคงไม่กล้ากลับไปหาสามีแล้ว เพราะกลัวว่าจะถูกทำร้ายร่างกาย ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด ตนไม่ทราบรายละเอียด หากนายวรทติดต่อมา ก็อยากถามว่าทำไมถึงทำแบบนั้น
ด้าน
พ.ต.ท.ประเสริฐ พรจันทร์ รองผกก.สอบสวน สน.ตลิ่งชัน กล่าวว่า เบื้องต้นสอบปากคำพยานในจุดเกิดเหตุ และพยานเห็นเหตุการณ์ทั้่งหมดแล้ว และจะต้องรอสอบปากคำคนเจ็บ ก่อนจะออกหมายจับในข้อหาเจตนาฆ่า และพยายามฆ่าต่อไป