กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจวิสามัญ นายวสันต์ เขียวหอม อายุ 41 ปี ฉายา เปิ้ล กำแพงแสน หลังสืบทราบว่ามีการนัดส่งยาเสพติด จึงเข้าแสดงตัว แต่คนร้ายขัดขืนพยายามจะชักปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตรวจสอบพบเคนมผง จำนวน 1 ซอง และยาอี 40 เม็ด พร้อมด้วยเงินสดอีกจำนวนหนึ่ง
ล่าสุดวันที่ 19 ม.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุซอยไผ่เตย พบคราบเลือดอยู่บนถนน ใกล้กับพงหญ้าข้างทาง สอบถามนางวันเพ็ญ แสงสุรีฉาย อายุ 64 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ กล่าวว่า เมื่อวานนี้ (18 ม.ค.64) เวลาประมาณ 18.30 น.
ขณะที่ตนขี่รถจักรยานยนต์กลับมาจากตลาด โดยจอดรถหน้าบ้านและกำลังจะไขประตูเข้าบ้าน สังเกตเห็นรถเก๋งสีขาวจอดอยู่ โดยมีรถกระบะจอดอยู่ด้านหลัง ขณะเดียวกันมีชายรายหนึ่งวิ่งหนีไป โดยมีชายอีก 2 รายวิ่งตามบอกให้หยุด และยิงปืนขึ้นฟ้า 2 นัด ก่อนที่รถยนต์อีกคันจะขับมาชนด้านหน้ารถเก๋งคันสีขาว พร้อมมีเสียงคนลงจากรถเอะอะโวยวาย และมีเสียงปืนดังขึ้น 7-8 นัด
โดยขณะนั้นตนนั่งหลบข้างรถจักรยานยนต์ เห็นกระสุนเฉี่ยวหน้าเข้าที่รั้วบ้านไป กระทั่งเหตุการณ์สงบจึงรู้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจมาจับกุมผู้ค้ายาเสพติด ตนไม่รู้จักนายเปิ้ล กำแพงแสน มาก่อน แต่ที่ผ่านมาเคยเห็นรถยนต์ที่ไม่ใช่ของคนในพื้นที่เข้ามาจอดช่วงกลางคืน ไม่มั่นใจว่าเกี่ยวข้องกับการส่งยาเสพติดหรือไม่
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี พูดคุยกับนายชัย (นามสมมติ) อายุ 43 ปี อาของนายเปิ้ล กล่าวว่า ตนไม่เคยทราบรายละเอียดเกี่ยวกับยาเสพติดของนายเปิ้ล หลานบอกเพียงว่าทำงานอยู่ จ.นครปฐม และเคยถูกจับกุมในคดีเกี่ยวกับยาเสพติด ซึ่งตนคิดว่าหลานแค่เสพ ไม่ได้ขาย
เมื่อวานนี้ (18 ม.ค.64) หลังทราบข่าวว่าหลานถูกวิสามัญค่อนข้างตกใจ โดยหลานเป็นคนตัวเล็ก ชอบไปไหนมาไหนคนเดียว ไม่คิดว่าจะเป็นผู้ค้ารายใหญ่ หรือขาใหญ่ประจำนครปฐมตามที่มีข่าว หลานชายแยกตัวออกไปอยู่คนเดียวนานแล้ว ไม่ค่อยติดต่อกัน แต่เท่าที่สังเกตหลานก็ทำตัวปกติ ไม่ได้ดูร่ำรวยมีเงินแต่อย่างใด
ทั้งนี้ตนไม่เชื่อว่าหลานชายจะคิดต่อสู้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะตัวคนเดียว หากคิดสู้คงไม่ลงจากรถ แต่ไม่รู้รายละเอียดในที่เกิดเหตุ คิดว่าหากหลานชายผิดจริง ก็น่าจะจับไปดำเนินคดีและขยายผล ไม่น่าจะยิงกันแบบนี้
ทีมข่าวเดินทางไปวัดไผ่ล้อม ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งศพนายวสันต์ เขียวหอม หรือเปิ้ล โดยนายแบงค์ (นามสมมติ) น้องชายนายเปิ้ล กล่าวว่า ทราบเรื่องเมื่อวานนี้หลังพี่ชายถูกยิง จึงเดินทางมาจากต่างจังหวัดเพื่อจัดการงานศพ ซึ่งตนไม่ทราบรายละเอียดว่าเหตุใดพี่ชายจึงถูกตำรวจยิง แต่คิดว่าพี่ไม่น่าจะต่อสู้ เพราะพี่ไม่เคยมีพฤติกรรมทำร้ายใคร และไม่สู้คน
โดยก่อนหน้านี้พี่ชายเคยโดนจับเรื่องยาเสพติดหลายครั้ง ล่าสุดเมื่อ 4-5 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งพี่ชายได้รับการประกันตัวออกมา โดยขณะนั้นก็ถูกจับขณะอยู่บนรถเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้คิดว่าพี่ชายไม่ใช่เอเจนต์รายใหญ่ อาจจะเป็นแค่ผู้ค้ารายย่อยเท่านั้น ซึ่งก่อนหน้านี้ประมาณ 1 เดือนพี่ชายบอกตนว่า จะทำเป็นรอบสุดท้ายแล้วจะเลิก ออกมาใช้ชีวิตทำมาหากินสุจริตแล้ว ตนก็บอกให้เลิกไป เมื่อมารู้ว่าพี่ถูกวิสามัญก็เสียใจมาก โดยพี่ชายเป็นคนไม่สุงสิงกับใคร ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับใคร มีเพียงเรื่องยาเสพติดที่พี่ยังเลิกไม่ได้ ส่วนยาเสพติดที่พบในรถมีชนิดใดบ้าง ตนก็ไม่ทราบรายละเอียด
อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.ธีรเชษฐ์ ธนวินรวีร์ ผกก.สภ.เมืองนครปฐม ระบุว่า จากการสอบสวนพบว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมปฏิบัติตามยุทธวิธี หลังผู้ต้องหาพยายามต่อสู้ นอกจากนายเปิ้ล กำแพงแสน ที่ถูกวิสามัญแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจยังสามารถจับกุมผู้ต้องหาอีก 2 ราย ซึ่งเป็นลูกค้าที่กำลังจะเข้าไปซื้อยาจากนายเปิ้ล โดยขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผล