นายจีระพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา เปิดเผยว่า พฤติกรรมของลุงพลวันนี้เรียกว่าการแสดง เพราะที่ผ่านมาตนก็เคยโดนมาแล้วกับตัว เช่น เรื่องเครื่องดักฟัง เรื่องไสยศาสตร์ ตนเป็นคนที่บริสุทธิ์ใจ และดีกับเขามากที่สุดในประเทศไทยในเวลานั้น ลุงพลยังทำกับตนได้เลย นับประสาอะไรกับนักข่าว ไม่ใช่เรื่องยากที่ลุงพลจะแสดงพฤติกรรมแบบนี้
แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนมองว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะเรื่องที่เกิดไม่ใช่เรียกว่าสันดาน แต่มันคือตัวตนที่แท้จริงของลุงพล และทุกครั้งที่ลุงพลแสดงพฤติกรรม ไม่ใช่เพียงแต่ใช้ความรุนแรง หรือแสดงผ่านการกระทำ แต่มีการทำออกสื่อ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่อันตราย และน่ากลัวมากที่สุด โดยการใช้สื่อเป็นเครื่องมือบอกตัวเองว่า “เป็นคนใสซื่อ เป็นคนถูกกระทำ” ทั้งที่ลึก ๆ แล้ว หลังสื่อแสดงอีกพฤติกรรมหนึ่ง
ส่วนเหตุผลที่ทำให้ลุงคนแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวออกสื่อวันนี้ ตนมองว่าเป็นเพราะเรื่องความเครียดสะสม ประกอบกับเรื่องราวรอบตัวหลายอย่าง ที่ตัวของลุงพลเคยกระทำเอาไว้ “ถึงเวลาแล้วที่จะย้อนกลับไปทำร้ายตัวของเขาเอง เพราะด้วยการกระทำของเขา ปัญหาที่เกิดขึ้นตัวคุณเองเป็นคนสร้าง” และตลอดที่ผ่านมาที่รู้จักกับลุงพล มีสิ่งวิเศษที่อยากจะยกย่องนับถือ คือ “เขาไม่เคยโทษตัวเอง โทษแต่คนอื่น” พร้อมฝากบอกลุงพล ว่า “ลุงพลคนเดิมหายไปไหน หรือลุงพลคนเดิมที่ก่อนจะเป็นข่าวกำลังกลับมา แต่หมอปลาคนเดิมนิสัยแบบนี้แหละลุง”
ขณะเดียวกันตัวแทนชาวบ้านที่ไปยื่นเรื่องร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงค์ธรรม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ในวันนี้ได้เข้าแจ้งความลงบันทึกประจำที่ สภ.กกตูม หลังจากมียูทูเบอร์ช่องหนึ่งได้ไลฟ์สดในลักษณะข่มขู่ ทำนองว่าจะทำร้ายร่างกาย "ตบละ 500"
จึงทำให้ตัวแทนชาวบ้านรู้สึกหวาดกลัวว่าจะเป็นอันตราย เพราะก่อนหน้านี้กลุ่มยูทูเบอร์บางส่วนก็เคยแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมในการจอดรถขวางทางเข้าออกศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1 จ.ปทุมธานี และบุกขึ้นไปบนรถตู้ตำรวจชิงตัวลุงพล เมื่อวันที่ 8 ม.ค.64 ที่ผ่านมา ที่ลุงพลกับป้าแต๋น เดินทางไปเข้าเครื่องจับเท็จ รวมทั้งเหตุการณ์ที่พยายามจะบุกเข้าไปภายในห้องสอบสวน สภ.กกตูม เมื่อวันที่ 10 ม.ค.64
นอกจากนี้ชาวบ้านยังร้องขอให้ตำรวจเพิ่มกำลังดูแลหมู่บ้าน เนื่องจากเกิดความกังวล เกรงว่าจะไม่ปลอดภัย หลังถูกข่มขู่จากยูทูเบอร์ และวันนี้ยังเกิดเหตุการณ์ที่ลุงพล ทำร้ายสื่อมวลชนด้วย ปกติเเล้วลุงพลเป็นคนอารมณ์ร้อนเป็นทุนเดิมอยู่เเล้ว ส่วนพฤติกรรมทำร้ายร่างกาย เพิ่งเห็นเป็นครั้งเเรก ก็รู้สึกหวาดกลัว
นางนลิน เงินนาม หรือป้าถอน พร้อมสามี ก็เดินทางเข้าเเจ้งความกับตำรวจร่วมเเจ้งกับชาวบ้านด้วย โดยป้าถอน เปิดใจว่า รู้สึกรับไม่ได้ตั้งเเต่เเฟนคลับของลุงพลด่าทอพระอาจารย์สมบัติ โดยหลังจากที่ตนไปร้องเรียนต่อนายอำเภอดงหลวง ปรากฏว่าถูกยูทูเบอร์บางช่องไลฟ์สดข่มขู่ในทำนองว่าจะตบ จึงเกิดความหวาดกลัวและมาเเจ้งความในวันนี้
ตอนนี้ความสัมพันธ์ของตนกับลุงพลไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปเเล้ว สาเหตุหลัก ๆ ก็มาจากเเฟนคลับ ซึ่งเมื่อก่อนจะเห็นว่าตนไปไหนมาไหนกับลุงพลบ่อยครั้ง เเต่ช่วงหลัง ๆ ตนก็ไม่ค่อยได้ไปด้วย เพราะต้องปลีกตัวออกมาทำงานหาเงิน เเต่กลับถูกเเฟนคลับลุงพลถล่มด่าหาว่าทิ้งลุงพล ดังนั้นเพื่อความสบายใจ จึงตัดสินใจถอยออกมา
ส่วนในเรื่องคดียังเป็นพยานให้ลุงพลเหมือนเดิม เเต่เรื่องอื่นไม่ยุ่งเกี่ยวกับลุงพลอีก ซึ่งตนยังยืนยันว่า ตนเจอลุงพล วันที่ 11 พ.ค.63 วันที่ชมพู่หายตัว เวลา 09.00 น. เจอลุงพลครั้งเเรกตอนจับจีพีเอสที่สวนยาง เวลา 10.00-11.00 น. เจอลุงพลครั้งที่ 2 ที่หน้าบ้าน เเล้วก็ไปส่งพระด้วยกัน ก่อนจะกลับมาถึงที่บ้านเวลา 14.30-15.00 น.
ป้าถอน กล่าวถึงกรณีการทำร้ายร่างกายนักข่าวอมรินทร์ทีวี ว่าส่วนตัวได้เห็นคลิปดังกล่าวเเล้ว รู้สึกรับไม่ได้เป็นอย่างมาก ไม่คิดว่าลุงพลจะกล้าทำ และสามีป้าถอน ก็ยืนยันในทำนองเดียวกันว่า ในเรื่องคดีจะยังเป็นพยานให้ลุงพลเหมือนเดิม เเต่เรื่องอื่นไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับลุงพลอีก ส่วนเรื่องการทำร้ายนักข่าว ขอให้สังคมดูพฤติกรรมเเละตัดสินเอง