อัจฉริยะแจ้ง บก.ปทส. ลุยเอาผิด "ลุงพล" รุกป่าสงวน สร้างวังพญานาค ซ้ำร้ายไม่มีวิศวกรคุมงาน หากล้มทับคนตายใครจะรับผิดชอบ ด้านเจ้าหน้า รับเป็นป่าสงวนจริง เร่งตรวจสอบด่วน
วันนี้(22 ม.ค.64) เมื่อเวลา 10.00 น. นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เข้าแจ้งความที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม( บก.ปทส.) เอาผิดนายไชย์พล วิภา หรือลุงพล กับพวก ในฐานความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าสงวน มาตรา 14 จากการครอบครองไม้มะค่าแต้หวงห้าม การก่อสร้างวังพญานาค และสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ ทำให้ป่าสงวนเสื่อมเสียสภาพ พร้อมนำหลักฐานพิกัดที่ตั้งของสิ่งก่อสร้างซึ่งอยู่ในเขตป่าดงภูพาน จ.มุกดาหาร มาประกอบการแจ้งความ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- หมอปลาเปิดทางษิทราช่วยลุงพล เจ้าตัวปัดรับงานล้มอัจฉริยะ ยันทำคดีไม่ฟรี
- เปิดโปงคดีชมพู่! จอมขมังเวทย์จ้าง 10 ล้านหาเด็กตัดเหล็กไหล กูรูย้ำคนทำได้ต้องมีศีล
- บุกยึดมะค่าแต้ “โสรภี” ยูทูเบอร์ใจสลายแห่แช่ง “ย่าอชิ” เข่าทรุดช็อกตกงานไม่ตั้งตัว
นายอัจฉริยะ เผยว่า ที่ดินแปลงนี้เป็นป่าสงวนกฎหมายระบุไว้ว่าห้ามเปลี่ยนมือ แต่ลุงพลให้สัมภาษณ์สื่อว่าได้ซื้อต่อจากปู่ในราคา 1.5 แสนบาท ซึ่งผิดกฎหมายเนื่องจากที่ดินลักษณะนี้จะมอบให้ลูกหรือทายาทได้เท่านั้น อีกทั้งที่ดินทุกแปลงในหมู่บ้านกกกอกเป็นป่าสงวน ไม่มีเอกสารสิทธ์แต่อยู่ในระเบียบกรมป่าไม้ที่ให้อยู่อาศัยหรือทำการเกษตรได้ ก่อนปี 2541 แต่ลุงพลเพิ่งเข้าพักอาศัยปี 2557 และก่อสร้างพญานาคปี 2563 ยืนยันไม่ได้แจ้งความมั่วซั่ว เพราะเห็นถึงประโยชน์ของสาธารณะเป็นหลัก เนื่องจากลุงพลยังอ้างว่ามีต้นตะเคียนไหลมาตามแม่น้ำ ก่อนนำขึ้นมาให้คนกราบไหว้บูชา มีนางรำ ถือเป็นการหลอกลวงประชาชน เพราะตรวจสอบแล้วเป็นไม้มะค่า แต่หลังโดนกรมป่าไม้ยึดไปก็ไม่หยุด ยังอ้างว่าเจ้าแม่ตะเคียนโสรภีได้ย้ายมาอยู่ที่ท่อนไม้อีกท่อนในศาล หลอกประชาชนซ้ำแล้วซ้ำอีก
นายอัจฉริยะ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้การสร้างพญานาคก็ไม่ได้ขออนุญาตจากกรมป่าไม้ ไม่มีวิศวกรควบคุมงาน หากล้มทับคนตายใครจะรับผิดชอบ ถือเป็นการสร้างความงมงายต่อประชาชน เอาความเชื่อความศรัทธาประชาชนมาแสวงหาผลประโยชน์
ด้านพันตำรวจเอก กฤษณะ สุขสมบูรณ์ รอง ผบก.ฯปรท.ผบก.ปทส.กล่าวว่า หลังจากนี้จะนำเอกสารหลักฐานที่ได้จากนายอัจฉริยะ ไปตรวจสอบ ซึ่งจากข้อมูลที่มีอยู่เเล้วในขณะนี้ มีแนวโน้มว่าสอดคล้องกับข้อมูลของนายอัจฉริยะ หากเข้าข่ายความผิดจริงก็จะออกหมายเรียกนายไชย์พล เข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ปทส. คาดว่าใช้ระยะเวลาไม่เกิน 1 เดือน
ขณะที่พันตำรวจเอก ธณัชชนม์ เก่งกสิกิจ ผู้กำกับการ กองกำกับการ3 บังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้อธิบายกับสื่อมวลชนว่าพื้นที่ดังกล่าว ไม่ใช่พื้นที่อุทยานเเห่งชาติภูผายล เเต่เป็นเขตป่าสงวนเเห่งชาติ ไม่มีเอกสารสิทธิ์ครอบครอง ให้ประชาชนใช้ประชาชนใช้ประโยชน์ในการทำกินเท่านั้น ซึ่งหากมีการซื้อขายจะมีความผิด ไม่สามารถกระทำได้