ชาวประมงแฉ! นาทีถูกชนเรือจมทะเล พ้อโดนพยายามฆ่า จนท.ยันล้อมจับทำตามกฎหมาย (คลิป)

กรณีเฟซบุ๊กเพจ "ข่าวเมืองชล" ได้โพสต์คลิประทึกกลางทะเล กรมประมงไล่ล่าชาวประมงพื้นบ้านที่ออกเรือคราดหอยเเครง ทำให้เกิดเรือชนกัน เป็นเหตุให้เรือเจ้าหน้าที่เสียหาย 1 ลำ เรือชาวบ้านเสียหาย 3 ลำ นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บ เป็นเจ้าหน้าที่ 3 ราย เเละชาวบ้าน 1 ราย

ต่อมาหน้าที่หน่วยป้องกันและปราบปรามการประมงทางทะเลอ่างศิลา เข้าเเจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองชลบุรี ให้ดำเนินคดีกับชาวบ้าน 3 ข้อหา คือ พยายามฆ่า ทำให้เสียทรัพย์ และมีความผิด พ.ร.บ.ประมง

จากนั้นชาวบ้านได้ร้องเรียนสื่อมวลชน โดยระบุว่า เจ้าหน้าที่เป็นฝ่ายไล่ชนเรือชาวบ้าน เเต่ชาวบ้านถูกเเจ้งข้อหาพยายามฆ่า มองว่าไม่เป็นธรรม

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง...

ยิ่งกว่าหนัง! จับเรือคราดหอยพุ่งชนกลางทะเล ชาวประมงเรือแตกถูกจับพยายามฆ่า

ล่าสุดวันที่ 25 ม.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ หมู่ 6 ต.คลองตำหรุ อ.เมือง จ.ชลบุรี พบว่ามี ส.ส.ในพื้นที่ คือ ร้อยเอกจองชัย วงศ์ทรายทอง ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ได้ลงพื้นที่ให้กำลังใจชาวบ้าน

โดยร้อยเอกจองชัย กล่าวว่า หลังจากเห็นคลิปปรากฏผ่านสื่อ รู้สึกเห็นใจชาวบ้าน เนื่องจากหมู่บ้านดังกล่าวทำประมงมาตั้งเเต่ปู่ย่าตายาย ในฐานะ ส.ส.ก็เคยนำเรื่องดังกล่าวเข้าไปหารือในสภาเเล้ว เคยเสนอให้มีการเเก้กฎหมายบางอย่าง เพื่อให้ชาวบ้านทำมาหากินได้สะดวกขึ้น

เเต่ภาพที่ปรากฏออกมาค่อนข้างรุนเเรง โดยเหตุการณ์ดังกล่าวส่วนตัวก็ได้สอบถามกับชาวบ้านเเล้ว ชาวบ้านก็ระบุไม่ได้มีเจตนาชน ขณะนั้นพยายามหลบหนี เเต่ถูกเจ้าหน้าที่ขับเรือไล่ โดยหลังจากนี้จะเป็นหน้าที่ของตำรวจในการสืบหาข้อเท็จจริง เเล้วก็ต้องว่าไปตามกระบวนการทางกฎหมาย

อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะต้องหารือกันเพื่อหาทางออก ซึ่งในคลิปได้ยินเสียงเจ้าหน้าที่พูดว่า "ชนเลย ๆ" ชาวบ้านสามารถนำหลักฐานดังกล่าวไปเเจ้งความได้ แต่หากชาวบ้านทำเช่นนั้นปัญหาก็จะไม่จบสิ้น ดังนั้นหลังจากนี้จะต้องหาเเนวทางไกล่เกลี่ยให้ได้โดยเร็วที่สุด อยากให้ทุกอย่างจบลงด้วยดี

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 24 ม.ค.64 ที่ผ่านมา ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้เดินทางลงพื้นที่ หมู่ 6 ต.คลองตำหรุ อ.เมือง จ.ชลบุรี เพื่อพูดคุยกับชาวบ้านในพื้นที่ที่อยู่ในเหตุการณ์ เเละได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว คือ น.ส.ณัฐมล รวงผึ้ง อายุ 24 ปี ได้รับบาดเจ็บจากการตกเรือ มีอาการปวดใต้ราวนมขวา ต้นเเขนขวาฟกช้ำ เเละหูอื้อจากเเรงกระเเทก

น.ส.ณัฐมล เปิดเผยว่า ครอบครัวตนทำอาชีพประมงมานาน ส่วนตัวก็ทำประมงกับครอบครัวมาตั้งเเต่เด็ก ซึ่งในอดีตทำประมงหาปลา เเต่ประมงหอยเเครงเพิ่งจะเริ่มทำเมื่อวันที่ 18 ม.ค.64 ที่ผ่านมา 

โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นวันที่ 22 ม.ค.64 ตนพร้อมด้วยพ่อเเละสามี นั่งเรือออกไปคราดหอยเเครง ที่บริเวณปากอ่าว ตั้งเเต่เวลา 06.00 น. จนกระทั่งเวลา 09.30 น. เจ้าหน้าที่ได้ขับเรือตรวจการมาจำนวน 4 ลำ เมื่อมาถึงปรากฎว่าเรือเจ้าหน้าที่ได้พุ่งใส่เรือประมงชาวบ้าน โดยที่ไม่มีการประกาศเตือนใด ๆ ซึ่งบนเรือเจ้าหน้าที่มีอาวุธปืนทุกลำ

ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายประดิษฐ์ รวงผึ้ง อายุ 57 ปี ชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์ เเละเป็นเจ้าของเรือที่จม ได้พาทีมข่าวไปดูสภาพเรือ หลังจากมีการชนกับเรือตรวจการของเจ้าหน้าที่ จนหัวเรือเเตกหัก เครื่องจมน้ำพังเสียหาย ขณะนี้อยู่ระหว่างการซ่อมเเซม ต้องเสียเงินค่าซ่อมกว่า 50,000 บาท

นายประดิษฐ์ เปิดเผยว่า ครอบครัวตนทำอาชีพประมงมานาน ส่วนตัวก็ทำประมงกับครอบครัวมาตั้งเเต่เด็ก ซึ่งในอดีตทำประมงหาปลา เเต่ประมงหอยเเครงเพิ่งจะเริ่มทำเมื่อวันที่ 18 ม.ค.64 โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นวันที่ 22 ม.ค.64 ตนพร้อมด้วยลูกสาวเเละลูกเขยนั่งเรือออกไปคราดหอยเเครง ที่บริเวณปากอ่าว ตั้งเเต่เวลา 06.00 น. โดยตนเป็นคนขับเรือ

กระทั่งเวลา 09.30 น. เจ้าหน้าที่ได้ขับเรือตรวจการมา จำนวน 4 ลำ เมื่อมาถึงปรากฏว่าเรือเจ้าหน้าที่ได้พุ่งใส่เรือประมงชาวบ้าน โดยที่ไม่มีการประกาศเตือนใด ๆ ซึ่งบนเรือเจ้าหน้าที่มีอาวุธปืนทุกลำ ตนพยายามขับเรือหลบหนีเพื่อจะเข้าฝั่ง จังหวะนั้นเรือของเจ้าหน้าที่ลำหนึ่งได้พุ่งชนเรือของตน จนเรือได้รับความเสียหายเเละจมลงในน้ำ ส่วนตนก็เสียหลักตกเรือพร้อมกับลูกสาว

เเต่หลังจากเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่เเจ้งความข้อหาตน "พยายามฆ่า" ตนมองว่าไม่เป็นธรรม เพราะตนเป็นฝ่ายถูกไล่ชน เเต่ต้องมาถูกตั้งข้อหาเเบบนี้ จึงขอความเห็นใจไปถึงผู้ใหญ่หรือผู้มีอำนาจ "ให้เห็นใจผมบ้าง ผมก็เป็นชาวประมงจน ๆ คนหนึ่ง จะเอาปัญญาที่ไหนไปสู้เจ้าหน้าที่"

เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและปราบปรามการประมงทางทะเลอ่างศิลา พร้อมด้วยตัวเเทนชาวประมงพื้นบ้าน ได้เข้าเจรจากันที่สำนักงานประมงจังหวัดชลบุรี โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองชลบุรี เเละหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมการเจรจาด้วย ใช้เวลาเจรจา 3 ชั่วโมง

นางศศิวิมล เปาลิวัฒน์ ประมงจังหวัดชลบุรี กล่าวภายหลังจากการเจรจากับตัวเเทนชาวบ้าน ว่า มีการพูดคุยกัน 2 เรื่อง โดยเรื่องเเรกคือเรื่องคดีความ ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขอให้เข้าใจว่าเจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามขั้นตอน เนื่องจากเรือของชาวบ้านทำประมงผิดกฎหมาย อวนที่ชาวบ้านใช้ลากมีความถี่ของตาข่ายเเคบมาก ประมาณ 10 มิลลิเมตร ถือเป็นอวนพาณิชย์ เพราะจะทำให้สัตว์น้ำตัวเล็ก ๆ ติดอวนเป็นจำนวนมาก ดังนั้นจะต้องใช้ทำการประมงระยะห่างจากฝั่งเกิน 3 ไมล์ทะเลขึ้นไป เเต่ถ้าหากจะทำการประมงในพื้นที่ดังกล่าว จะต้องใช้อวนพื้นบ้านที่มีความถี่ตาข่าย ไม่ต่ำกว่า 2 นิ้ว

เรื่องต่อมาคือความทุกข์ร้อนของชาวบ้าน ก็อยากให้เข้าใจว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้กลั่นเเกล้ง เเต่ด้วยกฎหมายเรื่องเครื่องมือจับสัตว์น้ำ ที่มีการบังคับใช้ เจ้าหน้าที่ก็ต้องปฏิบัติตาม ซึ่งบางครั้งอาจทำให้ชาวบ้านหากินลำบาก เเต่หลังจากนี้จะมีการพิจารณาหาทางออกร่วมกัน เเต่เบื้องต้นได้ให้ความรู้ด้านกฎหมายเเก่ชาวบ้านไปเเล้ว

ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายประดิษฐ์ รวงผึ้ง ชาวประมงพื้นบ้านที่ถูกเเจ้งข้อกล่าวหา และเป็นคนขับเรือในวันที่เกิดเหตุ เป็นผู้ที่ถูกเจ้าหน้าที่ขว้างไม้ใส่ โดยนายประดิษฐ์ กล่าวยืนยันว่า ในวันดังกล่าวไม่ได้ขับเรือพุ่งชนเจ้าหน้าที่ เเต่เจ้าหน้าที่เป็นฝ่ายพุ่งชนเเละยังขว้างไม้ใส่ตนด้วย ซึ่งการเเจ้งข้อหาพยายามฆ่าถือเป็นสิ่งที่โหดร้ายกับตนมาก

เเต่สำหรับการเจรจาในวันนี้ บรรยากาศในห้องประชุมทุกฝ่ายตกลงกันได้ด้วยดี ทางตำรวจ สภ.เมืองชลบุรี เห็นใจชาวประมงทุกคน และจะให้ความเป็นธรรม ซึ่งตนก็ยอมรับว่าที่ผ่านมากลุ่มของตนทำผิดกฎหมายจริง แต่หลังจากนี้อยากให้หน่วยงานภาครัฐ ได้ลงพื้นที่แนะนำชาวประมง ว่าจะหากินอย่างไรถึงจะไม่ผิดกฎหมาย เเละสิ่งที่กังวลที่สุดคือหลังจากนี้หากไม่สามารถทำประมงได้ จะหาเงินจากไหนมาใช้จ่าย

นายอิชิ อายุ 30 ปี เจ้าของเรืออีกลำที่ได้รับความเสียหาย เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุ วันที่ 22 ม.ค.64 ที่ผ่านมา ตน เเฟนสาว เเละน้าชาย รวม 3 คน ได้ออกทำประมงบริเวณจุดเกิดเหตุ โดยระหว่างที่เจ้าหน้าที่ได้ขับเรือพุ่งชนเรือชาวบ้าน ตนมองเห็นเรือของนายประดิษฐ์ ซึ่งเป็นลุงของตนกำลังจมน้ำ จึงรีบขับเข้าไปหวังจะช่วย เเต่จังหวะนั้นถูกเรือของเจ้าหน้าที่อีกลำพุ่งเข้ามาชนช่วงท้าย จนเเตกร้าว ขณะนี้อยู่ระหว่างการซ่อมเเซม ตนต้องจ่ายค่าซ่อมประมาณ 10,000 บาท

ส่วนกรณีเจ้าหน้าที่ ระบุว่า อุปกรณ์ที่ชาวบ้านใช้เป็นลักษณะอุปกรณ์พาณิชย์ ต้องทำประมงในระยะเกิน 3 ไมล์ทะเลขึ้นไปนั้น ซึ่งเรือของชาวบ้านเป็นเรือขนาดเล็ก ออกไปไกลไม่ได้ เพราะคลื่นลูกใหญ่อาจซัดเรือจมได้ เเต่หากจะให้ใช้ตาข่ายขนาดความถี่กว้างขึ้น ก็คงทำไม่ได้อีก เพราะจุดที่ชาวบ้านใช้หากิน เป็นเขตที่น้ำไม่ลึก มีเฉพาะสัตว์น้ำขนาดเล็ก หากใช้ตาข่ายใหญ่ก็คงจับสัตว์น้ำไม่ได้ ดังนั้นจึงขอความเห็นใจจากเจ้าหน้าที่ด้วย

พ.ต.อ.นิทัศน์ แหวนประดับ ผกก.สภ.เมืองชลบุรี กล่าวถึงคดีความ ที่เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและปราบปรามการประมงทางทะเลอ่างศิลา ได้เเจ้งเเก่ชาวประมงพื้นบ้าน ใน 3 ข้อหา คือ พ.ร.บ.ประมง ทำให้เสียทรัพย์ เเละพยายามฆ่า โดยตำรวจจะสืบสวนหาข้อเท็จจริง โดยเฉพาะข้อหาพยายามฆ่านั้น อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ว่าการกระทำเข้าข่ายข้อหานี้หรือไม่ ก็จะมีการพิจารณาในชั้นอัยการ

เบื้องต้นขณะนี้มีชาวบ้านถูกเเจ้งข้อหาดังกล่าว 1 ราย เป็นคนขับเรือ เเล้วหลังจากนี้จะรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อเเจ้งข้อหาคนอื่น ๆ ที่กระทำผิดต่อไป เเต่ทั้งนี้ยืนยันว่าตำรวจพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ขอให้ทุกฝ่ายเห็นใจซึ่งกันเเละกัน หากเรื่องไหนผิดก็ว่าไปตามผิด

ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายอ๊อด อายุ 35 ปี ชาวบ้านรายที่เรือได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ดังกล่าว ถูกเรือของเจ้าหน้าที่ชนขณะที่กำลังจะเข้าไปช่วยนายประดิษฐ์ ทำให้ปีกท้ายเรือฝั่งขวาเเตก ค่าซ่อม 2,000 บาท ปัจจุบันซ่อมเสร็จเเล้ว

โดยนายอ๊อด เล่าเหตุการณ์ให้ฟัง ว่าวันเกิดเหตุตนก็ออกเรือไปหาคราดหอยเเครงพร้อมกับนายประดิษฐ์ เเละชาวบ้านคนอื่น ๆ ตั้งเเต่เวลา 06.00 น. กระทั่งเวลา 09.30 น. เห็นเรือเจ้าหน้าที่ จำนวน 4 ลำ ทุกคนก็พยายามหนี โดยเรือของนายประดิษฐ์เข้ามาเป็นลำสุดท้าย พยายามจะขับเข้าฝั่ง เเต่เรือของเจ้าหน้าที่ลำหนึ่งขับตามพยามตีวงขวาง จึงเกิดการชนประสานงากัน จากนั้นก็มีเรือเจ้าหน้าที่อีกลำ ซึ่งเป็นลำในคลิป ตามมาชนซ้ำอีกรอบ จนเรือนายประดิษฐ์จม

เมื่อตนเห็นภาพดังนั้น จึงรีบขับเรือเข้าไปเพื่อจะช่วยเหลือ เเต่ก็ถูกเรือของเจ้าหน้าที่ชนท้ายเเตกเสียหาย ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะถอนกำลังกลับไป เเละชาวบ้านก็ช่วยกันขึ้นฝั่ง ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนมองว่าเจ้าหน้าที่ทำเกินกว่าเหตุ

อย่างไรก็ตาม ความเสียหายของเรือเจ้าหน้าที่ หมายเลข 106 มีรายละเอียดดังต่อไปนี้ 1.เหล็กราวจับขอบเรือหัก 2.ขอบยางเรือด้านซ้ายบิดเบี้ยว และ 3.ข้างตัวเรือด้านซ้ายแตกหัก