จากกรณีนายจรูญ มณีพันธ์ หรือ ตาซาเล้ง วัย 82 ปี ที่ถูกวัยรุ่นทำร้ายร่างกายย่านห้วยขวาง จนได้รับบาดเจ็บ กระทั่งเสียชีวิตเมื่อช่วงสิ้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งครอบครัวของตาได้รับเงินบริจาคกว่า 1 ล้านบาท และพบว่าครอบครัวเกิดปัญหาเรื่องเงินบริจาค อ้างว่าลูกสาวนำไปใช้จ่ายส่วนตัว ซึ่งเมื่อวานที่ผ่านมามีคลิปวิดีโอเผยแพร่ ขณะที่ป้าฉลวย ภรรยานายจรูญ อยู่บ้านตามลำพังในตอนกลางคืน และบ่นอ้างว่าลูกสาวไม่อยู่แล แต่ไปดูลิเกนั้น
ล่าสุดวันนี้ (17 พ.ค.)
ป้าฉลวย จริตเอก ภรรยาลุงจรูญ และ
คุณวนิดา มีพันธ์ หรือ
คุณเจี๊ยบ ลูกสาวลุงจรูญ ที่บ้านพักหลังวัดขุนจ่าธรรมาราม ตำบลห่อหมก อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยป้าฉลวย กำลังทำความสะอาดบ้านหลังใหม่ โดยบอกว่าตอนนี้สภาพความเป็นอยู่ดีขึ้นมากกว่าเดิม
ด้านคุณวนิดา เปิดเผยว่า ประเด็นที่มีการกล่าวหาว่าตนนำเงินบริจาคมาใช้ส่วนตัวนั้น ตนขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะเงินตรงนั้นกว่า 1 ล้านบาท ตนไม่สามารถไปยุ่งเกี่ยวได้ เนื่องจากเป็นเงินที่อยู่ในธนาคาร ที่มีแค่แม่และพี่เต้ จากเพจแหม่มโพธิ์ดำเท่านั้น ที่สามารถเบิกถอนออกมาได้
ส่วนเรื่องประเด็นทองของแม่ที่หายไป ตนก็ขอให้เรื่องนี้จบไป เพราะคุณแม่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อฯไปแล้วว่า ตอนนี้หาทองดังกล่าวเจอแล้ว ตนก็ไม่อยากให้เรื่องเล็กน้อยแค่นี้มาเป็นประเด็น และตนขอยืนยันว่าตนไม่ได้เป็นคนเอาทองของคุณแม่ไปแน่นอน
คุณวนิดา อธิบายว่า เงินเยียวยาที่ได้จากศาลยุติธรรม จำนวน 115,000 บาท ก็ไม่ได้นำมาซื้อรถยนต์ เพราะก่อนหน้านี้เคยคุยกับพี่เต้แล้วว่า เงินจำนวนนี้ถ้าได้มาก็จะโอนเข้าบัญชีธนาคารของคุณแม่ทั้งหมด ซึ่งวันที่ 16 เม.ย. ที่ผ่านมา ตนตั้งใจจะโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของคุณแม่ แต่คุณแม่ไม่ได้เอาสมุดบัญชีธนาคารไป จึงฝากเงินดังกล่าวไว้ที่ตน และพี่ชายของตนบอกว่าไม่ต้องนำเงินดังกล่าวไปฝากธนาคาร แต่ให้เก็บเงินเอาไว้หมุนเวียนใช้จ่าย เนื่องจากเบิกเงินจากคุณเต้มาใช้จ่ายค่อนข้างยาก อีกทั้งตั้งแต่ได้เงินจำนวนนี้มา พี่ชายของตนก็ทยอยมาเบิกเงินจำนวนนี้ไปใช้จ่ายส่วนตัวอยู่เป็นประจำ ประกอบกับตนก็ได้นำเงินดังกล่าวไปซื้ออุปกรณ์เครื่องเรือนต่างๆ มาใช้ภายในบ้านด้วย ซึ่งตอนนี้เงินคงเหลือประมาณ 20,000 บาท
ขณะที่
นายประพจน์ มณีพันธุ์ หรือ “ไก่” พี่ชายเจี๊ยบ เปิดเผยว่า ตอนนี้ตนอยู่ที่ จ.ลพบุรี เรื่องเงินบริจาคช่วยเหลือเยียวยาพ่อ ตนไม่เคยไปยุ่ง สำหรับเงินจำนวน 115,000 บาท ที่รับจากศาลยุติธรรม ได้มีการถอนเงิน ออกจากธนาคารเรียบร้อยแล้ว โดยมีตน เจี๊ยบ และแม่ ไปถอนเงิน
นายประพจน์ บอกว่า
แม่ให้แบ่งเงินออกเป็น 3 ส่วน แต่เจี๊ยบเก็บเงินไปทั้งหมด เมื่อมาถึงบ้าน เจี๊ยบแบ่งเงินให้ตนเพียง 2 หมื่นบาทเท่านั้น นอกนั้นเจี๊ยบเก็บไว้กับตัว ตนยังบอกเจี๊ยบไปว่า ถ้านำเงินไปใช้สุรุ่ยสุร่าย จะไปบอกนายเตชะ ทับทอง ผู้ที่ดูแลเงินบริจาค หลังจากนั้นตนก็แทบจะไม่เจอเจี๊ยบอีกเลย เพราะเจี๊ยบคอยหลบหน้าอยู่ตลอดเวลา
ขณะเดียวกัน นายไก่ยังบอกอีกว่า ตนไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่ได้เอาเงินไปใช้จ่ายส่วนตัว แต่นำเงินไปจ่ายค่าเทอม และซื้อชุดนักเรียนให้ลูก ส่วนที่เหลือนำไปใช้ซื้อของ ลงทุนเร่ขายขนม และไอศกรีมตามตลาดนัด และตามงานวัด อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี
นายไก่ ยืนยันอีกว่า เจี๊ยบนำเงินไปทั้งหมดจริง ก่อนหน้านี้พ่อยังไม่ทันเผา ก็คุยโวว่าจะซื้อรถ และยังมีพฤติกรรมชอบไปดูลิเก ติดลิเก ไปเกือบทุกวัน บางครั้งต้องเช่ารถไปดูครั้งละหลายร้อยบาท